คดีใหญ่ระดับโลก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมมือเจ้าหน้าที่ FBI ทลายเครือข่ายองค์กร “อาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก” หลังเหิมเกริมก่อเหตุโจมตีระบบองค์การใหญ่ เรียกค่าไถ่ พ่วงแฮ็กระบบสวมรอยรับเงินสวัสดิการรัฐของประเทศสหรัฐ อเมริกา ทำความเสียหายมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2ปปป. ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ FBI ประสานขอความร่วมมือเปิดปฏิบัติการค้นเป้าหมาย สืบเนื่องจากทางการสหรัฐอเมริกา ขอความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการทางอาญา จับกุมและทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์

สหรัฐอเมริกาทำหนังสือส่งผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางมอบตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตรวจสอบนาย Yun He กับพวก ผู้ต้องหาอาชญากรออนไลน์ระดับชาติ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการป้องกัน ฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และฟอกเงินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา

ทางการสหรัฐอเมริกาแจ้งว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการร่วมมือในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและสิงคโปร์กวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ใช้อุปกรณ์ติดตั้งมัลแวร์ร่วมกับเครื่องมือปกปิดที่อยู่ของเครือข่ายอาชญากรเรียกว่า 911 S5 นาย Yun He กับคนจีนเป็นผู้ก่อตั้งและดูแลระบบหลัก 911 S5 ทั้งหมด

...

พวกที่เหลือทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ธุรกรรมทางการเงินและตั้งบริษัทขึ้นมาฟอกเงิน 3 บริษัทในไทย กลุ่มนี้ได้แฮ็ก IP Address คอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง 190 ประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาลและโกงเงินหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก แฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันที่ทำเรื่องขอความช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการต่างๆ เมื่อหน่วยงานรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือกลับโอนเข้าบัญชีของอาชญากร ชาวอเมริกันไม่ได้รับเงิน

แฮ็กเข้าไปขโมยเงิน เหรียญคริปโต โจมตีทางไซเบอร์ เรียกค่าไถ่ด้วยการปิดกั้นการทำงานองค์กรใหญ่ เรียกค่าไถ่แลกกับการให้ระบบกลับมาใช้งานได้ดังเดิม และยังใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์จากภาพอนาจารของเด็ก รวมไปถึงการข่มขู่วางระเบิดสถานที่สำคัญ สร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัวให้กับผู้คนทั่วโลก

คนร้ายกลุ่มนี้ได้ทำการฟอกเงินที่ได้จากกิจการ ได้กำไรหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากการบริการผิดกฎหมาย และนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ ทรัพย์สินอื่นๆในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย

หลังสืบสวนข้อมูล พล.ต.ท.จิรภพ ประชุมด่วนมอบ กก.2 บก.ป. รับผิดชอบตรวจสอบที่อยู่อาศัย ยานพาหนะของนาย Yun He ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต พ.ต.ต.เอื้ออังกูร ชินโชติธีรนันท์ สว.กก.2 บก.ป. ร่วมกับ Federal Bureau of Investigation (FBI) โดย MR.MIKE CHAI FBI attache ประจำประเทศไทย พร้อมกำลัง บก.ป. บก.ปอท. เจ้าหน้าที่ FBI เปิดปฏิบัติการค้นเป้าหมาย 3 จุดสำคัญในประเทศไทย และประเทศสิงคโปร์ ตรวจค้นบ้าน ถ.พระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห้องพักคอนโดมิเนียม ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ยึดของกลางเงินสดสกุลเงินไทยและต่างประเทศ 7.5 ล้านบาท นาฬิกาหรู 13 เรือน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เครื่องประดับ 23 ชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รถยนต์ BMW X7 M50d สีดำ 1 คัน โฉนดที่ดิน สัญญาการซื้อขายที่ดิน และคอนโด บัญชีธนาคารของผู้ต้องหานาย Yun He และบริษัท Spicy Code อุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่เชื่อว่าบันทึกข้อมูลคีย์การเข้ารหัส หรือรหัสผ่านการเข้ารหัส และอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ FBI นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสถานที่ ซักถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง และตรวจยึดทรัพย์สินตามบันทึกร้องขอ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดี

สืบทราบว่า ผู้ต้องหานำทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาแปรสภาพทรัพย์ในไทย เป็นอสังหาริมทรัพย์และบริษัทต่างๆ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เข้าดำเนินการตรวจสอบ

มีรายงานว่าตำรวจสิงคโปร์และ FBI จับกุม Mr.YunHe ที่ประเทศสิงคโปร์

จากการเข้าตรวจค้น กก.2 บก.ป.พบว่า หนึ่งในจุดตรวจค้นที่สำคัญเป็นที่พักอาศัยญาติคนสนิทของนาย Yun He ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมที่ประเทศสิงคโปร์ เจ้าตัวรับว่า ได้รับว่าจ้างจากนาย Yun He ช่วยทำและดูแลระบบไอทีรวมถึงเทคนิคต่างๆ แต่รายละเอียดนำไปใช้ในเรื่องใดหรือหลอกลวงใครบ้าง เจ้าตัวปฏิเสธไม่รู้เรื่อง

ตำรวจไม่ปักใจเชื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อส่งเรื่องผ่านอัยการสูงสุดส่งต่อให้ FBI ดำเนินการ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า “ที่ผ่านมาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการทำงานร่วมกับ FBI มาตลอดในหลายๆเคส รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่อบรมยุทธวิธีซึ่งกันและกัน สำหรับเคสนี้หลังจากที่เราได้รับคำร้อง MLAT ผ่านมาทาง สตช. (ตท.) เมื่อช่วงต้นปีได้สั่งให้ทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทางคู่ขนานทันที เนื่องจากเป็นเคสที่ค่อนข้างใหญ่มีผู้เสียหายในหลายประเทศ มูลค่าความเสียหายมหาศาล จึงใช้เวลาในการประสานงาน และเตรียมการหลายเดือนกว่าจะมีปฏิบัติการในครั้งนี้ ในปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการส่งทรัพย์สินที่ยึดมาได้ตามคำร้องให้กับทางอัยการสูงสุดเพื่อจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป”

...

“ในส่วนของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สิ่งที่จะทำต่อจากนี้คือ ประสานขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และผู้เสียหายในประเทศไทย เพื่อเตรียมดำเนินคดีในส่วนนี้ด้วยอีกทาง ตนเน้นย้ำกับทีมงานอยู่เสมอว่าการทำงานของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยเฉพาะกับหน่วยงานต่างประเทศ เราต้องทำงานโดยยึดหลักความถูกต้อง เป็นกลาง และอิงข้อกฎหมายไทยเป็นหลัก ไม่ได้หวังผลหรือต้องการเอาใจชาติใดเป็นพิเศษ มีจุดมุ่งหมายเดียวคือการปราบปรามอาชญากร และสร้างความสงบสุขให้แก่ประเทศและบรรเทาทุกข์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด”

แนวคิด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นายตำรวจรุ่นใหม่วางระบบ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่เดือดร้อน และยึดมั่นหลักของกฎหมาย พัฒนาบุคลากร สนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยมาช่วยงานสืบสวนให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ของแก๊งอาชญากรข้ามชาติ เลือกเฟ้นตำรวจที่มีความชำนาญเข้ามาอยู่ในหน่วยงานที่เหมาะสม ทำให้การขับเคลื่อนทุกหน่วยในสังกัด บช.ก.ทำได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ

ทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับโลก FBI ได้ในทุกมิติ.

...

ทีมข่าวอาชญากรรม

คลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยสัปดาห์” เพิ่มเติม