จับแล้ว “เสี่ยโอภาส” ผู้บริหารวินโพรเสส เจ้าของโกดังเก็บกากสารเคมี หลังถูกพ่อเมืองระยองนำทีมค้นโรงงานย่านมาบตาพุดเจอสารเคมีซุกเพียบ พนักงานสอบสวนออกหมายจับประสานท้องที่ สภ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ บุกล็อกได้ขณะไปดูโรงงานอีกแห่ง นำตัวมาสอบปากคำ ก่อนส่งฝากขังศาล มีตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มาแจ้งอายัดดำเนินคดีโยงเหตุไฟไหม้โกดังสารเคมีเช่นกัน ด้านที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรมยกคณะเร่งแก้ปัญหาการขนย้ายสารเคมีที่เกิดไฟไหม้ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลังยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน

ตำรวจตามรวบผู้บริหารโรงงานวินโพรเสสในความผิดครอบครองวัตถุอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเผยเมื่อเช้าวันที่ 29 พ.ค. พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจริญ เดชพ่วง สว.(สอบสวน) สภ.มาบตาพุด ร่วมกันสอบปากคำนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริษัทวินโพรเสส จำกัด เจ้าของโรงงานเก็บกากสารเคมีในซอยวัดโขดหิน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง รวมถึงใน ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีอันตราย

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้สารพิษฟุ้งกระจาย ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพ่ื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโกดังเก็บสารเคมีที่ถูกไฟไหม้ในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มีรายงานว่า นายโอภาส ผู้บริหารโรงงานวินโพรเสส ถูกพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด ยื่นขอศาลจังหวัดระยองออกหมายจับเลขที่ จ.209/67 ลงวันที่ 28 พ.ค.2567 ในข้อหาว่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ และครอบครองวัตถุอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากก่อนหน้านี้นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นำเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยองเข้าตรวจค้นโรงงานวินโพรเสสในซอยวัดโขดหิน เขตท้องที่ สภ.มาบตาพุด พบสารเคมีอยู่ในโกดังจำนวนมาก ก่อนประสานตำรวจ สภ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เข้าคุมตัวไว้ได้ขณะผู้ต้องหาเดินทางไปดูโรงงานอีกแห่งที่บริษัทเอกอุทัย สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา นำตัวส่ง สภ.มาบตาพุด หลังสอบปากคำตำรวจจะคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดระยองในวันเดียวกัน ทั้งนี้นายโอภาสยังมีหมายจับอีก 14 คดี

...

ช่วงสาย พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย รอง ผบก.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.มาบตาพุด นำกำลังตำรวจสืบสวนภาค 2 ร่วมกับสืบสวน ภ.จ.ระยอง ตำรวจ สภ.มาบตาพุด และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำหมายศาลจังหวัดระยองเข้าตรวจค้นโรงงานบริษัทวินโพรเสสในซอยวัดโขดหินเพิ่มเติม พบเอกสารสำคัญต่างๆเป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับบริษัทวินโพรเสสและบริษัทเอกอุทัย รวมถึงอีกเกือบ 20 บริษัทที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อหาที่มาของสารเคมีอันตรายว่าถูกนำมาจากที่ใดบ้าง

บ่ายวันเดียวกัน ภายหลังสอบปากคำนายโอกาสเสร็จ พนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด นำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฝากขังศาลจังหวัดระยอง ระหว่างนายโอภาสเดินไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวเฝ้ารออยู่พยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นายโอภาสปฏิเสธที่จะตอบคำถาม จากนั้นตำรวจนำตัวไปยื่นฝากขังศาลตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มาแจ้งขออายัดตัวนายโอภาสไปดำเนินคดีในความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เชื่อมโยงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี ต่ออีกท้องที่

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามแก้ไขปัญหาสารเคมีและช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีบริษัทวินโพรเสสในพื้นที่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ล่าสุดนายดนัยณัฎฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะเดินทางไปดูการแก้ไขปัญหาสารเคมีที่โรงงานวินโพรเสส จากนั้นไปที่ อบต.บางบุตร นำถุงยังชีพจำนวน 400 ชุดไปแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบโกดังเก็บกากสารเคมี หลังได้รับผลกระทบจากสารพิษอันตรายมานานกว่า 1 เดือน

นายดนัยณัฎฐ์เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งการจากนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี โดยเฉพาะความกังวลเรื่องของบ่อดักน้ำสารเคมี เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ทั้งนี้จะเร่งแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นด้วยการเพิ่มความแข็งแรงคันดิน ส่วนระยะยาวจะมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยจะเร่งทำให้เร็วที่สุด ส่วนกากอะลูมิเนียมดรอสจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว

ด้านนายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสารเคมีจะต้องเร่งนำสู่การบำบัดให้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายกลับติดปัญหาเรื่องเงิน หลังบริษัทวินโพรเสสร้องคัดค้านต่อศาลจังหวัดระยองไม่ให้นำเงินวางประกันตามคำสั่งศาลจำนวน 4.9 ล้านบาทให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการขนกากสารเคมีออกจากโรงงาน แต่ขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.มาบตาพุด เปิดเผยถึงการดำเนินคดีนายโอภาสว่า การจับกุมนายโอภาสครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมีวินโพรเสสที่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย เป็นหมายจับของ สภ.มาบตาพุด ข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการครอบครองวัตถุอันตราย ภายหลังการสอบปากคำพนักงานสอบสวนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดระยอง และทนายความยื่นเงิน 20,000 บาทประกันตัว ส่วนกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมีในท้องที่ สภ.บ้านค่าย ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย ยังไม่ได้ประสาน สภ.มาบตาพุด หรือแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายโอภาส ตอนนี้มีเพียง สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งขออายัดตัวไปดำเนินคดีต่อเท่านั้น

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่