ช่วงนี้ “บิ๊กต่าย” ดูจะดุๆ หน่อย เห็นข่าวประกาศคาดโทษย้ายตำรวจจราจร ถ้าปล่อยให้รถติดแล้ว ถึงกับสะดุ้ง!

แต่เข้าใจได้ว่า เป็นช่วงเปิดเทอมของเด็กๆ น่าจะขู่ไว้ก่อนกาล เพื่อให้ตำรวจจราจรตามโรงพัก และส่วนกลาง ขยันขันแข็งทำหน้าที่ให้ลุล่วง

ไอ้ที่จะไม่ให้รถติดเลยในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น มันคงลำบาก?

ท่าน รรท.ผบ.ตร.ประกาศจะเริ่มส่องปัญหารถติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในความรับผิดชอบของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นอันดับแรก

อันนี้ก็เข้าใจได้เพราะเป็นเมืองหลวง ปล่อยให้รถติดหนึบชนิดวินาศสันตะโร มันจะทำให้เสียรังวัด เมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก

แต่ปัญหาการจราจรเมืองกรุงมันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ด้วยความไม่มีระเบียบวินัยของคนใช้รถใช้ถนนเอง?

ทั้งจอดรถในที่ห้าม นึกจะจอดตรงไหนก็จอด ขับขี่ย้อนศรไม่กลัวตาย รถ จยย.ขี่เข้าไปในช่องทางด่วนที่ให้เฉพาะรถใหญ่วิ่ง ขับปาดตัดช่องจราจรกะทันหัน ฯลฯ

นอกจากนี้ยังเห็นรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่สวมหมวกกันน็อก ขี่ไปคุยโทรศัพท์ไปจนกลายเป็นเรื่องปกติ ปล่อยปละละเลยกันจนเป็นปัญหาเรื้อรัง เรียกว่า ติดนิสัย?!

ตั้งคำถามง่ายๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเรื่องการจราจรจริงหรือ มอบหมายให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ดูแลเรื่องการจราจรโดยตรงหรือไม่ คำตอบคือ ไม่มี และไม่เคยมี?

ถ้าจะทำให้คนในสังคมมีระเบียบวินัย มันต้องมาจากเรื่องเล็กๆอย่าง พ.ร.บ.จราจรนี่แหละ มาตีปี๊บกำชับกันปีละครั้งมันคงไม่ได้ผล

มันต้องเทียวไล้เทียวขื่อกวดขันเข้มข้นตลอด เพื่อปลูกจิตสำนึก?

...

เอะอะจ้องแต่จะตั้งด่านตรวจเมา ไอ้ที่ทำผิดอยู่ตรงหน้าทุกวันไม่เคยจับ แล้วคนมันจะสนใจเรื่องวินัยจราจรเมื่อไหร่?


สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม