ไปพักผ่อนที่หาดทรายแก้ว รีสอร์ต บ้านกรูด อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อสัปดาห์โน้น ผมมีโอกาสได้พบเห็นและได้สัมผัสกับสัญชาตญาณของสัตว์ตัวจิ๋วที่เรียกว่า “มด” ฝูงหนึ่ง

ก่อนผมเดินทางกลับหนึ่งวันจู่ๆก็มีฝูง “มดดำ” จำนวนมากเดินพาเหรดยาวเหยียดผ่านหน้าบังกะโลหลังที่ผมพักไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก

ทำให้ผมนึกถึงคำบอกเล่ากึ่งสั่งสอนกึ่งให้ความรู้ของผู้แก่แม่เฒ่า หรือผู้สูงวัย ผู้สูงอายุรุ่นเก่าๆ ของเราที่มักจะบอกว่ามดหรือแมลงบางชนิดมันจะมี “สัญชาตญาณพิเศษ” อยู่ในตัวของมัน

จะรู้ร้อน รู้หนาว รู้ฝน หรือรู้ว่าอากาศจะแปรปรวนไปในทางใดทางหนึ่งล่วงหน้า ซึ่งเมื่อรู้แล้วมันก็จะชวนกันเดินขบวนจากที่อยู่เดิม ไปหาที่อยู่ใหม่ข้างหน้า เพื่อหาทางหลบภัยธรรมชาติร้อนๆ หนาวๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นๆ

ปรากฏว่าคนโบราณถูกต้องเป๊ะ เพราะเจ้ามดดำบ้านกรูดฝูงนี้มันรู้ตัวล่วงหน้าจริงๆว่าวันต่อมาจะเกิดฝนตกหนักพอสมควรที่บ้านกรูด หลังจากไม่ตกมาร่วมๆ 3-4 เดือนเข้านี่แล้ว

ถ้าจะว่าไปคนแก่คนเฒ่าหรือ “ท่าน ส.ว.” ยุคก่อน ท่านก็พอจะมีสัญชาตญาณในเรื่องรู้ภาวะดินฟ้าอากาศล่วงหน้าว่าฝนจะตกแดดจะออกจะร้อนจะหนาวอย่างไรอยู่พอสมควร

อาจไม่แม่นเป๊ะเหมือนฝูงมดแต่ก็ใกล้เคียงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ “ยาย” ผมที่บ้านบรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ มักจะทายถูกเสมอว่าฝนจะตกหรือไม่ตกอย่างไร? หรือเมื่อไร?

ผมเคยเดาย้อนหลังไปว่าเหตุที่ท่านมีสัญชาตญาณเรื่องอากาศค่อนข้างแม่นนั้น เป็นเพราะสมัยโน้นแม้จะมีกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว แต่คำทำนายว่าฝนจะตกแดดจะออกยังไปไม่ถึงอำเภอบ้านนอกอย่างบ้านผม...หรือแม้ไปถึงก็ยังไม่แม่นพอ

ยายผมซึ่งมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการพยากรณ์เรื่องฟ้าฝน เพราะท่านจะต้องซักผ้า ตากผ้าบ้าง ตากพืชผักต่างๆ หรือปลา หรือเนื้อต่างๆ เพื่อถนอมอาหารไว้รับประทานนานๆบ้าง...จึงต้องฝึกและสังเกตบรรยากาศรอบๆตัวเอาเอง

...

ว่าอากาศแบบไหน? แสงแดดแบบไหน? หรือแม้แต่ปฏิกิริยาของสัตว์ใดๆบ้างที่เกี่ยวข้องกับฝนตกแดดออก

ฝึกบ่อยๆเข้าท่านก็ชำนาญ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณของท่านที่พอจะบอกได้ว่าฝนฟ้าจะตกหรือไม่ ตกอย่างไร?

มาถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งเผลอแผลบเดียว ผมซึ่งเคยเป็นเด็กอยู่หลัดๆ ได้กลับกลายเป็น “คนแก่” หรือ “ผู้สูงวัย” มีอายุอานามพอๆ กับ “ยาย” ผมยุคโน้นไปเรียบร้อย

แต่เนื่องจากยุคนี้กรมอุตุนิยมวิทยาของเราเก่งมาก มีเครื่องมือทั้งดาวเทียม ทั้งแผนที่ทางอากาศ สัมพันธ์กับประเทศต่างๆทั่วโลก คอยทำนายโน่นนี่อย่างถูกต้องแม่นยำ ผู้สูงวัยรุ่นผมจึงแทบไม่มีสัญชาตญาณทางด้านฝนตกหรือฝนไม่ตกเอาเสียเลย

เพราะมอบความไว้วางใจให้กรมอุตุนิยมไปเสียทั้งหมด

ก็เอาเถอะ แม้ผู้ชราภาพ หรือ ส.ว.อย่างผม จะไม่ได้ฝึกสัญชาตญาณเรื่องดินฟ้าอากาศไว้เลย แต่ด้วยความที่ผ่านโลกมายาวนานต้องเผชิญเหตุการณ์ผันผวนทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง

ทำให้ผมต้องไปฝึกสัญชาตญาณทางการเมืองแทนว่าจะเกิดอะไรขึ้น? หากมีความเคลื่อนไหวโน่นนี่ เพื่อหาทางหลบเลี่ยงภัยการเมืองต่างๆ

กลับจากบ้านกรูดเที่ยวนี้ ผมเข้ายูทูบไปเจอว่าเริ่มมีการเปิดเวทีปราศรัยของกลุ่มบุคคลที่ใช้อักษรย่อ “คปท.” ขึ้นแล้ว ที่บริเวณ สะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้ๆทำเนียบรัฐบาลนี่เอง

มีคนดังในอดีตของกลุ่มอักษรย่อ คปท. มาร่วมปราศรัย รวมถึง “น้องปอง” ของผม หรือ “เจ๊ปอง” ของใครๆอีกหลายคนก็มาพูดเรียบร้อยแถมประกาศว่าจะมาอีก

ทำให้ทราบว่าเวทีนี้เกิดขึ้น หลังจาก คนแดนไกล คนหนึ่งได้กลับมาบ้าน นัยว่ามาเพื่อรับโทษานุโทษ แต่กลับอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายออกไปนอนโรงพยาบาลนอกเรือนจำ และนอนที่บ้านตนเองในที่สุด

แถมล่าสุดของล่าสุดคนแดนไกลที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะออกมามีบทบาททางการเมืองอย่างชัดเจน

แม้จำนวนผู้ฟังที่สะพานชมัยมรุเชฐจะยังไม่มาก แต่ถ้าคนดังๆ ในอดีต ของชาวอักษรย่อกลุ่มนี้รวมทั้งกลุ่ม กปปส. มาปราศัยกันมากขึ้นและมากขึ้น ประวัติศาสตร์การเมืองไทยอาจจะซ้ำรอยอีกก็ได้

แล้วจะไม่ให้ผู้เฒ่าหรือ “ส.ว.” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมาพอสมควรอย่างผมเกิดสัญชาตญาณแบบ “มดดำ” หนีฝนที่บ้านกรูดได้อย่างไรล่ะ?

พายุฝนทางการเมืองเริ่มตั้งเค้าแล้วนะครับ พวกเราชาวมดดำทั้งหลายเตรียมหาที่หลบฝนหลบพายุกันได้ละ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม