พายุฤดูร้อนถล่มหนักหลายจังหวัด ที่อุบลราชธานีโดนทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำซัดผนังบ้านถล่มทับเด็กหญิงวัย 8 ขวบเสียชีวิตอนาถ พี่สาววัย 10 ขวบปางตาย ส่วนที่สุรินทร์ลมหอบหลังคาและกันสาดหอพักพังเสียหาย ชลบุรีเจอฟ้ารั่วน้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมหลายอำเภอ ศรีราชาและเมืองพัทยาอ่วม น้ำสูงครึ่งเมตร รถจมน้ำดับกลางคัน การจราจรติดหนึบ เมืองแปดริ้วหนักไม่แพ้กัน น้ำเจิ่งนองตลอดถนนทางเข้าวัดโสธร ป้ายทะเบียนรถหลุดลอยน้ำหลายคัน อุตุฯเตือนรับมือพายุฤดูร้อนอีกระลอก

พายุฤดูร้อนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดพายุพัดกระหน่ำและฝนตกหนักหลายจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี น้ำท่วมหลายอำเภอ หนักสุดที่ อ.ศรีราชา น้ำระบายไม่ทันเอ่อล้นผิวจราจรเฉลี่ย 30-50 ซม. บางจุดน้ำไหลเชี่ยว เนื่องจากเป็นจุดรับน้ำฝนจากภูเขาซัดขยะเศษกิ่งไม้ ขวด และกล่องโฟมลอยมาตามน้ำเข้าไปอุดตันตามท่อระบายน้ำ ไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ บริเวณถนนอัสสัมชัญน้ำเอ่อท่วมบ้านฉับพลันในซอยโรงเป็ด ต.สุรศักดิ์ เช่นเดียวกับซอยสุดสาครและถนนเก้ากิโลซอย 21 เป็นอีกจุดที่รองรับน้ำ ทำให้ชาวบ้านย้ายข้าวของในบ้านไม่ทัน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถ จยย. และรถยนต์จมน้ำเสียหาย

...

อ.เมืองชลบุรี เกิดฝนตกหนักนานกว่า 3 ชม.น้ำเอ่อท่วมถนนหลายสาย โดยเฉพาะสายหลักอย่างถนนสุขุมวิทและถนนสุขประยูรน้ำสูงกว่า 30 ซม.ทั้งขาเข้าและขาออก ส่งผลให้รถ จยย. รถเก๋ง และรถกระบะโหลดเตี้ยสัญจรผ่านไม่ได้ การจราจรติดขัด ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ส่วนเส้นทางบายพาสเลี่ยงเมืองถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน บางจุดสูงเกือบ 50 ซม. มีรถขับลุยน้ำดับไปหลายคัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาคอยอำนวยความสะดวกรถที่สัญจรไปมาและแนะนำไปใช้ทางเลี่ยง หลังฝนหยุดตกเจ้าหน้าที่ใช้เวลาระบายน้ำนานกว่า 3 ชม.

ส่วนเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีฝนตกลงมาอย่างหนักและเกิดน้ำท่วมถนนอย่างรวดเร็วบริเวณจุดที่มีการท่วมขังซ้ำซากเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณถนนเลียบทางรถไฟช่วงซอยเขาตาโลไปจนถึงซอยวัดธรรมสามัคคี น้ำท่วมขังกว่า 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เช่นเดียวกับที่ อ.สัตหีบ ฝนถล่มหนักตั้งแต่เช้า บริเวณถนนสุขุมวิท ช่วงแยกไฟแดง กม.1 ทางเข้าตลาดสดสัตหีบเกิดน้ำท่วมขังสูง 30 ซม. สาเหตุมาจากน้ำระบายลงทะเลไม่ทัน เอ่อท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชน รถเคลื่อนตัวได้ช้า แต่ไม่เกิน 1 ชม. สถานการณ์คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักและลมแรงใน อ.ท่าตะเกียบ ทำให้ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าล้มจำนวนมาก บริเวณถนนทางหลวง 3076 บ้านหนองคอก ต.คลองตะเกรา มุ่งหน้า อ.คลองหาด จ.สระแก้ว มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน ส่วนชุมชนบ้านห้วยตะปอก หมู่ 9 ต.คลองตะเกรา มีต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่นทับถนนกลางหมู่บ้าน ขณะที่บ้านอ่างเตย หมู่ 9 ต.ท่าตะเกียบ พายุหอบหลังคาบ้านปลิวหายไปตามกระแสลมเสียหายหลายหลัง

ส่วนใน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ฝนตกหนักนานกว่า 3 ชม. ทำให้ท่อระบายน้ำไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ทันท่วมขังถนนหลายสาย บริเวณถนนเทพคุณากรเส้นทางเข้าวัดโสธรวรารามวรวิหารถูกน้ำท่วมตั้งแต่ปากทางสูงเกือบ 30 ซม. รถยนต์สัญจรค่อนข้างลำบาก บริเวณวงเวียนหน้าวัดโสธรเป็นอีกจุดที่น้ำท่วมสูง มีรถจมน้ำเสียหายหลายคัน ส่วนถนนศรีโสธรตัดใหม่น้ำท่วมสูงมีถูกกระแสน้ำซัดป้ายทะเบียนหลุดลอยน้ำหลายคัน ชาวบ้านช่วยกันเก็บไปวางไว้ริมทางเข้าวัดหลวงพ่อโสธร เพื่อรอเจ้าของรถมาติดต่อรับคืน

ที่ จ.สระแก้ว ฝนตกหนักเกือบทุกพื้นที่และมีน้ำท่วมขังถนนหลายสาย เช่น ถนนสุวรรณศร 33 และถนนสายแยกโรงเลื่อย อ.เมืองสระแก้ว การจราจรบนถนนสายต่างๆเคลื่อนตัวได้ช้า บางจุดมีน้ำท่วมผิวถนนสูงถึงขอบฟุตปาท ด้านนายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว ออกประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้วแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป อาจทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

จ.สมุทรปราการ ฝนตกและลมกระโชกแรงซัดบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ริมถนนสุขุมวิท ใกล้คลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ เกิดลมหมุนซัดหลังคาโกดังร้านมยุรีค้าไม้มุงด้วยสังกะสีปลิวว่อน โครงสร้างอาคารพังถล่มลงมา คนงานถูกสังกะสีบาดศีรษะบาดเจ็บ 1 คน นอกจากนี้มีหลังคาร้านอาหารที่อยู่ใกล้กันโดนลมพัดเสียหายเช่นกัน นายเล็ก ทับทิม อายุ 52 ปี เจ้าของร้านค้าไม้ กล่าวว่า ช่วงตีห้าขณะนอนอยู่ในบ้าน เกิดลมพายุคล้ายลมหมุนพัดเข้าหาร้านถึง 2 ครั้ง หอบเอาหลังคาไปตามกระแสลมไปตกไกลหลายสิบเมตร

...

ที่ จ.ลำปาง เย็นวันที่ 7 พ.ค. เกิดพายุและฝนตกหนักในตัวเมืองลำปาง ทําให้โรงจอดรถห้างสรรพสินค้า โลตัส สาขาเมืองลําปางพังถล่ม หลังคาปลิวว่อน ต้นไม้ใหญ่ริมถนนสายลําปาง-งาวล้มขวางปิดทางสัญจร รถวิ่งผ่านไม่ได้ ส่งผลให้การจราจรสะสมยาว เจ้าหน้าที่แขวงการทางลําปางร่วมกับกู้ภัยหลายหน่วยงาน ระดมกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่นำต้นไม้ที่ล้มขวางทางออกเพื่อเปิดให้รถสัญจรตามปกติ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับเทศบาลลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุในช่วงนี้

ที่ จ.อุบลราชธานี เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำหลายอำเภอตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 1,000 หลัง หลังเกิดเหตุ น.ส.วรรณภา ละอองศรี ปลัดอาวุโสอำเภอม่วงสามสิบ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเยี่ยมราษฎรบ้านหนองสองห้อง หมู่ 5 และหมู่ 10 ต.ยางโยภาพ ผนังบ้านโดนพายุพัดพังทับเด็กเสียชีวิตและบาดเจ็บทราบชื่อผู้ตาย ด.ญ.สุรภา บูชาพันธ์ อายุ 8 ขวบ และ ด.ญ.ศิริวิมล บูชาพันธ์ อายุ 10 ขวบ พี่สาว ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ รพ.ม่วงสามสิบ น.ส.วรรณภาเผยว่า ได้รายงานความเสียหายไปยัง ผวจ.อุบลราชธานี และสั่งกำชับช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะครอบครัวเด็กที่เสียชีวิต

...

นายสีบู่ เอมโอษฐ์ อายุ 59 ปี ตาเด็กที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า อยู่กับภรรยาและหลานอีก 3 คน ก่อนเกิดเหตุฝนตกหนักและลมแรง หลานสาว 2 คนเข้าไปหลบฝนอยู่ในบ้าน ส่วนตน ภรรยาและหลานชายอีกคนนั่งกันอยู่นอกบ้าน ระหว่างนั้นเกิดพายุหมุนพุ่งใส่บ้านเต็มๆจนผนังบ้านที่ก่อด้วยอิฐบล็อกพังถล่มทับหลานสาวทั้ง 2 คน รีบวิ่งเข้าไปช่วยยกเศษอิฐที่ทับหลานออก ก่อนพาส่งโรงพยาบาล แต่ ด.ญ.สุรภา อาการหนักเสียชีวิตดังกล่าว ส่วน ด.ญ.ศิริวิมลแม้อาการปลอดภัย แต่แพทย์ให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาล เกิดมาไม่เคยเจอพายุรุนแรงแบบนี้มาก่อน

ส่วนที่ จ.สุรินทร์ พายุพัดถล่ม อ.เมืองสุรินทร์ ทำให้หอพักหญิงธิพาพร ซอยตาทิตย์ 2 ตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ถูกลมพัดหลังคาและกันสาดพังถล่มไป 6 ห้อง รถ จยย.ถูกกันสาดตกลงมาทับพัง 4 คัน ส่วนที่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พายุพัดเสียหายหลายตำบล โดยเฉพาะ ต.กุดหวาย มีบ้านและคอกเลี้ยงสัตว์เสียหายหลายหลัง นายสมปองพวงบุญ นายก อบต.กุดหวาย เผยว่า จากการสำรวจพบพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 22 หลังคาเรือน

...

ด้าน จ.กระบี่ ฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ นานกว่า 1 ชม. ทำให้น้ำระบายไม่ทันเอ่อเข้าท่วมถนนหลายสาย ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งถนนศรีพังงา และถนนมหาราช ต.กระบี่ใหญ่ ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ขนของหนีน้ำไม่ทันจมเสียหายเกือบหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้อากาศร้อนจัดเกิดภัยแล้งนานกว่า 2 เดือน ไม่มีทีท่าว่าฝนจะตกหนัก หลังฝนหยุดตกเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกระบี่ ร่วมกับฝ่ายปกครองลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเวลา 17.00 น.วันที่ 7 พ.ค เรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 14 ความว่า ในวันที่ 7 พ.ค. แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขณะที่ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมภาคเหนือ ทำให้อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ ลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

จังหวัดที่คาดว่าได้รับผลกระทบประกอบด้วยแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล อนึ่ง ช่วงวันที่ 8-10 พ.ค.แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่