กรณีสำนักข่าวอินดิเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า บริษัทแอสตราเซเนก้ายอมรับว่าวัคซีนโควิด-19 สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อภาวะ ลิ่มเลือดอุดตันและจำนวนเกล็ดเลือดต่ำนั้น นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนโควิด-19 โดยบริษัทแอสตราเซเนก้า บริษัท ได้แจ้งข้อมูลที่เป็นวารสารทางการแพทย์ออกมาตั้งแต่ช่วงที่มีการอนุญาตใช้ในลักษณะฉุกเฉิน (EUA) แต่ขณะนี้มีการอนุญาตใช้โดยทั่วไปแล้ว จึงมีการเก็บข้อมูลผลข้างเคียงในลักษณะที่เป็นหลักฐาน รวมถึงมีเรื่องของการฟ้องร้องดังกล่าวด้วย ที่ผ่านมาเมื่อมีคำแนะนำหรือข้อมูลทางวิชาการออกมา สธ. ก็นำคำแนะนำนั้นมาปรับในแนวทางการให้วัคซีน ขณะเดียวกันประเทศไทยก็มีการเก็บข้อมูลผลข้างเคียงหลังการรับวัคซีนทุกชนิด ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมควบคุมโรค (คร.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

นพ.สุรโชคกล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนแอสตราฯที่ซื้อมาไปจนหมดแล้วและไม่ได้จัดซื้อเพิ่มเติม วัคซีนที่มีฉีดในตอนนี้คือไฟเซอร์และโมเดอร์นา อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีนทุกชนิดต่างมีประโยชน์และผลข้างเคียงมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ดังนั้นการใช้จึงต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และการอนุญาตให้ใช้ยาหรือวัคซีนใดๆจะต้องผ่านการชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และผลข้างเคียง เช่น อาจจะเกิดผลข้างเคียง 1 ในแสนคน หรือ 1 ในล้านคน แล้วมาชั่งน้ำหนักว่า หากมีผู้ป่วยที่อาจจะมีอาการรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีการชั่งน้ำหนัก.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่