มหาสงกรานต์ฉ่ำ สาดคึกคักทั่วไทย ทุกจังหวัดล้นหลามเหนือจดภาคใต้ (คลิป)

คนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติสนุกสุดเหวี่ยงเล่นสาดน้ำสงกรานต์ต่อเนื่อง ขณะที่หลายจังหวัดจัดกิจกรรมเพียบ ดึงคนร่วมงานแน่นขนัด บางส่วนพาครอบครัวร่วมไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ไทย ส่วนการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตายเพิ่มอีก 38 ศพ ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตสะสม 2 วันแรกของสงกรานต์ปีนี้ พุ่งไป 63 ศพ บาดเจ็บครึ่งพัน คดีขับรถขณะเมาสุรากว่า 1.1 พันคดี พบใน กทม.สูงสุด 191คดี ตามด้วยนนทบุรี 120 คดี และสมุทรปราการ 107 คดี

ผ่านสามวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ที่ประชาชนเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวทำให้ถนนสายหลักที่มุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั้งถนนมิตรภาพเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนพลหโยธิน-สายเอเชียเส้นทางสู่ภาคเหนือ ถนนสุขุมวิทสู่ภาคตะวันออกและถนนเพชรเกษมเส้นทางสู่ภาคใต้ คลี่คลายไปมาก

ตายบนถนนพุ่ง 63 ศพ

ทั้งนี้ ช่วงสายวันที่ 13 เม.ย. ที่สำนักงานป้องกันสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ว่าสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ 11-12 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 541 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 550 คน ผู้เสียชีวิต รวม 63 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ตายเป็นศูนย์ มี 42 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พะเยา 15 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และพะเยา 14 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และเชียงราย 3 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย และประจวบคีรีขันธ์ 21 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสงขลา 22 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 5 ราย

จยย.เกิดอุบัติเหตุสูงสุด

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 41.37 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.17 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.20 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.91 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.32 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.07 ถนนใน อบต.หมู่บ้าน ร้อยละ 25.73 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01-17.00 น. และเวลา 19.01-20.00 น. ร้อยละ 7.49 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปีร้อยละ 18.69 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,762 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,496 คน

กทม.แชมป์เมาแล้วขับ

ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า วันที่ 2 ของการควบคุมเข้มช่วง 7 วันอันตรายมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติทั้งสิ้น 1,179 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,131 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี คดีขับเสพ 47 คดี สถิติคดีเมาขับสะสมสูงสุดอันดับ 1 ได้แก่ กรุงเทพ มหานคร 191 คดี อันดับ 2 นนทบุรี 120 คดี อันดับ 3 สมุทรปราการ 107 คดี เมื่อเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่ 2 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี 2566 จำนวน 1,061 คดี และปี 2567 มีจำนวน 1,131 คดี เพิ่มขึ้น 70 คดี คิดเป็นร้อยละ 6.59

อุบัติเหตุลดจริงไม่แต่งตัวเลข

ที่ ศปก.ตร. พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วง 2 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ พบว่าลดลงอย่างมีนัยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิต ยืนยันว่าไม่มีการตบแต่งตัวเลข ข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นความจริง ส่วนการจับการบรรทุกน้ำขึ้นหลังรถกระบะเพื่อเล่นสงกรานต์นั้น ทำได้ตาม พ.ร.บ.จราจรฯฉบับใหม่ โดยสามารถนั่งท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน และขับเลนซ้าย ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น

วันเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมคมนาคมช่วงเทศ กาลสงกรานต์ 2567 สะสม 2 วัน ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะรวม 5.6 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 0.99 ขณะที่ระบบรางมีผู้โดยสารสูงสุดร้อยละ 45.42 ส่วนระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิ ภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 91,442 คน-เที่ยว 2.ภาคใต้ : ทางถนน 69,534 คน-เที่ยว 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 80,679 คน-เที่ยว 4.ภาคเหนือ : ทางถนน 49,728 คน-เที่ยว และ 5.ภาคตะวันออก : ทางถนน 40,671 คน-เที่ยว ส่วนการจราจรเข้า-ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 2,215,127 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.71 เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 11-12 เมษายน 2566

โพลชี้ผู้สูงวัยไทยยังน่าเคารพ

นอกจากนี้ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ นิด้าโพลร่วมกับศูนย์วิจัยสังคมสูงอายุ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “ภาพลักษณ์ผู้สูงอายุไทย 2567” ทำระหว่างวันที่ 26-27 มี.ค.2567 จากประชาชนอายุระหว่าง 30-59 ปี ทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของผู้สูงอายุไทยในประเด็นต่างๆที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 88.17 เห็นด้วยว่าผู้สูงอายุเป็นผู้ที่น่าเคารพ ร้อยละ 86.18 เห็นด้วยว่าผู้สูงอายุสามารถอาศัยอยู่ร่วมกับลูกหลานได้ ร้อยละ 83.97 เห็นด้วยว่าผู้สูงอายุสามารถเป็นที่พึ่งให้ลูกหลาน รวมถึงร้อยละ 53.36 เห็นด้วยว่าผู้สูงอายุสามารถทำงานหารายได้เลี้ยงดูตนเอง

ทำบุญเสริมมงคลวันสงกรานต์

ส่วนบรรยากาศในวันที่ 13 เม.ย. ที่ถือเป็นวันมหาสงกรานต์ หรือวันสังขานต์ล่อง และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ตลอดช่วงเช้าทุกจังหวัด ตามวัดวาอารามและสถานที่สำคัญจัดให้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ปล่อยนก ปล่อยปลา และมีกิจกรรมรดน้ำดำหัวขอพรพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ รวมถึงมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูผู้สูงอายุผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับชุมชน การจัดมหรสพงานรื่นเริงตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆเป็นประธาน จากนั้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นมาตามถนนสายหลัก ถนนสายรอง และจุดจัดงานสงกรานต์ของแต่ละพื้นที่ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่นำถังน้ำ ปืนฉีดน้ำ ออกมาเล่นสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานและคลายร้อนจากสภาพอากาศที่อบอ้าว

มาเลย์แห่เล่นสาดน้ำเบตง

รวมถึงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ตลอดเช้า พุทธศาสนิกชนออกมาทำบุญใส่บาตรรับวันมหาสงกรานต์ โดยที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำประชาชนในพื้นที่ สวมใส่ผ้าไทยชุดไทย ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ สามเณร 61 รูป สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ ขณะที่ก็มีกิจกรรมสงกรานต์ยะลา สาดสนุก มิดไนท์สงกรานต์ ที่เทศบาลนครยะลา ติดตั้งเวทีคอนเสิร์ต อุโมงค์น้ำปาร์ตี้โฟม สระน้ำ รวมทั้งนำรถดับเพลิงมาฉีดพ่นน้ำเพื่อลดความร้อนให้กับประชาชนที่มาร่วมเล่นสาดน้ำกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับที่ถนนฉายาชวลิต ยาวไปถึงถนนภักดีดำรง เขตเทศบาลเมืองเบตง ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ พาครอบครัว เพื่อนๆออกมาเล่นสาดน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนาน โดยช่วงบ่ายปริมาณผู้คนยังคงหลั่งไหลมาเล่นสาดน้ำคลายร้อนกันเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งถือขัน ถือปืนฉีดน้ำ เดินฉีดน้ำกันอย่างสนุกสนาน บางกลุ่มเช่ารถจักรยานยนต์ขี่ไปเล่นน้ำสงกรานต์รอบเมือง บ้างก็นำถังน้ำใส่ท้ายรถกระบะ ขับเวียนไปสาดน้ำทั่วเมือง

“ถนนข้าวเกรียบ-ข้าวยำ” คึกคัก

ส่วนที่วัดประชาภิรมย์ อ.เมืองนราธิวาส มีพิธีเปิดงานประเพณีวันสงกรานต์ ปี 2567 ภายในงานเด็กๆและประชาชนต่างสวมใส่เสื้อผ้าลายดอก เสื้อผ้าขาวม้าสีสันสดใสเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ การสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของผู้สูงอายุ และในปีนี้ได้อัญเชิญพระพุทธรูป “พ่อท่านเซ่ง” และพระพุทธรูปประจำวันเกิด ประดิษฐานบนรถบุษบกแห่รอบเมืองให้ประชาชนร่วมสรงน้ำเป็นปีแรก และการปิดถนนเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวเกรียบกรือโป๊ะ จากสี่แยกต้นโพธิ์ ประชาภิรมย์ถึงแยกวอสเบียน และจัดทำอุโมงค์น้ำด้วย ขณะที่บ้านเรือน 2 ข้างทางต่างนำอุปกรณ์ใส่น้ำมาวางหน้าบ้าน สาดน้ำสงกรานต์กับคนที่ร่วมงานในถนนข้าวเกรียบฯด้วย รวมถึงถนนน้ำบูดูในเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ก็เนืองแน่นทั้งชาวไทยและมาเลย์เล่นน้ำสงกรานต์เช้ายันดึก ไม่ต่างจากถนนข้าวยำหรือถนนมะกรูด ต.อาเนาะรู เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่มีการทำอุโมงค์น้ำพุ ความยาว 650 เมตร จุดเล่นสงกรานต์ยอดฮิตสำหรับชาวปัตตานี และนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นๆ ตลอดวันมีประชาชนเข้ามาเล่นน้ำกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในปีนี้ยังมีการแสดงดนตรี ปาร์ตี้โฟม และร้านค้าที่ออกมาตั้งแผงขายของมากมาย

หาดใหญ่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ

ที่บริเวณถนนจะนะ หน้าพิพิธภัณฑ์ธำมะรงค์ อำเภอเมืองสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าฯ สงขลา นำพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์กว่า 200 รูป และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ที่มีการแห่จากบริเวณลานคนเมือง ไปตามถนนสายต่างๆ แล้วมาประดิษฐาน ณ มณฑปบริเวณพิธีและเปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมสรงน้ำพระ ขณะที่บรรยากาศงานหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันสุดท้ายที่บริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ ก็เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เข้าไปเล่นน้ำสงกรานต์และร่วมปาร์ตี้โฟมกลางถนน ร้องรำเต้นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนบรรยากาศในตัวเมืองหาดใหญ่ก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ ทั้งกลุ่มที่ปักหลักริมถนนและขับรถตระเวนเล่นสาดน้ำไปตามย่านท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่ ทำให้ถนนบางสายรถหนาแน่นถึงติดขัด

นักท่องเที่ยวสาดน้ำสนุก

ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังมีพิธีทำบุญตักบาตรและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในช่วงเช้าแล้ว ตลอดวันทั่วเมืองเชียงใหม่ก็เต็มไปด้วยความคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนพากันไปเล่นน้ำรอบคูเมือง ทำให้ถนนรอบคูเมืองทั้งสี่ด้านมีปริมาณรถหนาแน่น ประชาชนจากหลายพื้นที่นำรถกระบะบรรทุกน้ำออกมาร่วมสนุก ทำให้การจราจรหนาแน่น รถเคลื่อนตัวได้ช้า ขณะที่บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ สถานที่จัดงาน “World Songkran Thaphae Chiang Mai 2024” ก็หนาแน่นไปด้วยผู้คนที่เล่นสาดน้ำพร้อมกับเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง โดยที่อุโมงค์น้ำความยาวกว่า 200 เมตร บนถนนท่าแพ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเดินเล่นน้ำที่มาพร้อมกับระบบแสงสี สร้างความสนุกสนาน โดยในช่วงบ่ายมีขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ให้ประชาชนได้ร่วมสักการะสรงน้ำพระ โดยขบวนจะเริ่มเคลื่อนจากถนนเจริญเมืองมุ่งไปสู่ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ

เมียนมาแห่เที่ยวสงกรานต์ไทย

นอกจากนี้ แม้จะเกิดการสู้รบใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา แต่ตลอดวันสงกรานต์ ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ก็ยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวเมียนมา ที่ส่วนใหญ่เช่าเหมารถตู้โดยสารฝั่งเมียวดี ข้ามมาท่องเที่ยวเทศกาลวันสงกรานต์ในตลาดนครแม่สอดและบางส่วนหลบอากาศร้อนขึ้นดอยเข้าไปท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตกพาเจริญ น้ำตกธรารักษ์ ฯลฯ ต่างจากที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอด-เมียวดีแห่งที่ 2 หมู่ที่ 4 บ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด ที่ยังคงเปิดปกติ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงากว่า และที่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทานบ้านป่ายาง-บ้านเหมืองแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย หนุ่มสาวในพื้นที่และต่างจังหวัดที่กลับมาเที่ยวบ้าน รวมไปถึงคนจากฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน พร้อมนำแป้งมาประแก้มกันจนเละไปตามๆกัน

สาธุชนสรงน้ำพระพุทธรูปดัง

สำหรับบรรยากาศสงกรานต์ นอกจากถนนสายดังที่มีการจัดงานสงกรานต์เป็นประจำทุกปี และมีประชาชนนักท่องเที่ยวแห่ไปร่วมงานอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นถนนข้าวตอก อ.เมืองสุโขทัย ถนนข้าวสุก หรือถนนสายเสนา-ชันสูตร อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ถนนศรีจันทร์หรือถนนข้าวเหนียว อ.เมืองขอนแก่น ถนนข้าวหอมมะลิ หน้าบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ถนนข้าวปุ้น อ.เมืองนครพนม ถนนขั่วหมี่ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา ฯลฯ แล้ว อีกหนึ่งประเพณีเนื่องในวันสงกรานต์คือสรงน้ำพระพุทธรูปที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธา โดยที่บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย มีพิธีบวงสรวงพระธาตุอรหันต์ ก่อนจะทำพิธีขอขมาหลวงพ่อพระใส พระคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย โดยชาวหนองคายกว่า 1,000 คน ร่วมกันฟ้อนถวายบูชาหลวงพ่อพระใส ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสองค์จำลอง โดยขบวนแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ ให้ชาวหนองคายได้สรงน้ำอย่างใกล้ชิด จากนั้นอัญเชิญขึ้นราชรถแห่รอบเมืองหนองคาย ส่วนที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวลาว และชาวต่างประเทศพากันเข้าวัดทำบุญอย่างคึกคัก รวมถึงสรงน้ำองค์หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ พร้อมทั้งทำบุญถวายสังฆทาน เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเองและครอบครัว

ร่วมไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เช่นเดียวกับที่ จ.อุบลราชธานี มีขบวนอัญเชิญพระแก้ว 5 พระองค์ ออกจากหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ถนนอุปราช อ.เมืองอุบลราชธานี แห่รอบเมืองให้ประชาชนไปสรงน้ำ ก่อนอัญเชิญพระแก้วทั้ง 5 พระองค์ มาประดิษฐาน ณ ลานวัฒนธรรม ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ให้ประชาชนได้สรงน้ำไปจนถึงวันที่ 16 เม.ย.นี้ ส่วนที่ จ.เลย มีการอัญเชิญพระพุทธมิ่งเมือง ออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำเช่นกัน ขณะที่ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีประทุมมา ภายในวังนาคินทร์คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีชาวบ้านจากทุกทิศทั่วไทยมาตั้งแต่เช้าเพื่อมาขอโชคลาภขอพร ขอความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวเนื่องในวันสงกรานต์ ส่วนที่ชุมชนบ้านจระเข้หิน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นที่ฮือฮาเมื่อวัดจระเข้หิน ได้นำพญาหงส์ทองสัมฤทธิ์ อายุเก่าแก่กว่า 150 ปี ร่วมขบวนแห่ในวันสงกรานต์เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมรดน้ำและขอพรตามความเชื่อความศรัทธาเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีด้วย

คนเล่นสงกรานต์ล้นหาดบางแสน

ส่วนที่ จ.ชลบุรี หนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลดัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดช่วงบ่าย ถนนสุขุมวิทลงหาดบางแสนและตามถนนเลียบหาดบางแสน มีผู้คนเล่นสาดน้ำกันจำนวนมาก โดยมีการสาดน้ำใส่กันและประแป้งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งการเล่นสาดน้ำของบางแสน จะมียาวถึงวันไหลบางแสนคือวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลเมืองแสนสุข เพื่อป้องกันเหตุ แต่เนื่องด้วยมีประชาชนมาเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมาก ทำให้การจราจรบนถนนสุขุมวิท จากชลบุรีไปบางแสน ทั้งขาเข้าขาออก รวมทั้งถนนข้าวหลามที่จะมุ่งหน้าสู่หาดบางแสน ติดขัดอย่างหนักเป็นบางช่วง

ทสภ.จัดสาธิตทำแป้งร่ำ

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตลอดวัน มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ต้อนรับผู้โดยสารสร้างบรรยากาศแห่งความสนุกสนานรื่นเริง เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ไทย ด้วยการแสดงหุ่นละครเล็กและรำกลองยาว ณ โถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศชั้น 2 และการแสดงฟ้อนกิงกะหร่า ณ ชั้น 3 อาคาร SAT-1 พร้อมแจกของที่ระลึกเป็นยาดมสมุนไพรที่เป็นสินค้าวิสาหกิจชุมชนโดยรอบ ทสภ.รวมถึงเจ้าหน้าที่ทสภ.แต่งชุดไทยมาสาธิตการประดิษฐ์พิมเสนและสาธิตการทำแป้งร่ำจากภูมิปัญญาคนไทย โดยให้ผู้โดยสารได้มีส่วนร่วมในการประดิษฐ์ และนำกลับไปเป็นของที่ระลึกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน D ชั้น 4 ขาออกระหว่างประเทศ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก

คนเข้าถนนข้าวสารล้นทะลัก

สำหรับบรรยากาศสงกรานต์ในเมืองกรุง จุดหลักที่ถนนข้าวสาร ประเดิมวันแรกของงาน “Khao San World Water Festival Unesco 2024” ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้นของตำรวจ สน.ชนะสงคราม โดยนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินเข้าสู่ถนนข้าวสารสามารถเข้าได้เพียงฝั่งเดียวคือ ทางถนนจักรพงษ์ แล้วเดินออกทางฝั่งถนนข้าวสาร-ตะนาว ในแบบวันเวย์ ป้องกันการเบียดเสียดกันมากเกิน มีการเปิดทางออกฉุกเฉินไว้ในถนนข้าวสารอีกอย่างน้อย 6 ช่องทาง ซึ่งตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารแบบมืดฟ้ามัวดิน ส่งผลให้การจราจรทุกเส้นทางที่จะเข้ามาสู่ถนนข้าวสารโดยรอบติดขัดหยุดนิ่งเป็นอัมพาต นักท่องเที่ยวต่อแถวผ่านจุดคัดกรองยาวเหยียด ยิ่งช่วงเย็นแดดร่มลมตก ภายในถนนข้าวสารก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียดกัน บางจุดแทบเดินไม่ได้ ท่ามกลางเสียงเพลงในจังหวะเร้าใจที่ร้านรวงต่างๆ ในถนนข้าวสารเปิดขึ้นเพื่อสร้างความครื้นเครง พร้อมฉีดน้ำและโฟมเพิ่มความสนุก ขณะที่นักท่องเที่ยวใช้ปืนฉีดน้ำสาดความเปียกปอนให้กันทั้งเต้นรำตามจังหวะเพลงกันแบบสุดเหวี่ยง

ห้ามเล่นแป้งไม่ได้ผล

จากนั้นตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ประชาชนแห่แหนเดินทางมาร่วมสนุกกันเต็มพื้นที่ถนนข้าวสาร ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่นไทย ที่ถนนตะนาว ถนนจักรพงษ์ ซอยรามบุตรี ถนนบวรนิเวศ เริ่มมีการแออัดเบียดเสียดในบางช่วง ทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา นอกจากจะใช้ปืนฉีดน้ำและถังน้ำสาดใส่กันไม่ยั้ง ยังมีการเล่นประแป้งกันอย่างเสรี แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไม่ให้เล่นประแป้ง แต่ห้ามไม่ได้ จะมีเฉพาะภายในถนนข้าวสารเท่านั้นที่ไม่มีการเล่นประแป้ง ส่วนด้านนอกพ่อค้าแม่ขายนำแป้งดินสอพองมาจำหน่ายกันบนทางเท้า วัยรุ่นชายหญิงจึงซื้อแป้งมาประหน้ากัน จนพื้นถนนขาวโพลนไปด้วยสีขาว

ปิดถนนสีลมเล่นสงกรานต์คึกคัก

ส่วนที่ถนนสีลม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. กรุงเทพ มหานครได้ปิดถนนสีลมทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้มีประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก ที่จัดระเบียบ การเดินโดยเว้นช่องทางขวาสุดไว้ 1 ช่องทาง เพื่อช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยของประชาชน พร้อมกับมีการแจ้งเตือนเหตุล้วงกระเป๋า ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวเอง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีการเปิดเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน มีสีสันจากกลุ่ม LGBTQ+ ที่เล่นน้ำเต้นรำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

กิจกรรมแน่นท้องสนามหลวง

อีกด้านหนึ่ง ที่ท้องสนามหลวง ในงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 ตั้งแต่ช่วงเช้า มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ต่อด้วยการสรงน้ำพระ กระทั่งเวลา 13.00 น. จึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานกิจกรรมการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ในช่วงเย็นมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง การแสดงทางวัฒนธรรมไทย การเปิดตัวบทเพลงสงกรานต์ฉบับภาษาต่างประเทศ จำนวน 12 ภาษา การแสดงม่วนซื่นอีสาน การแสดงดนตรีผสมผสานเครื่องดนตรีไทยและสากล การโชว์ทำอาหาร (Soft Power) ปิดท้ายด้วยการแสดงดนตรีแนว EDM ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาร่วมงานด้วยความสนุกสนาน

2 ทุ่มปิดสีลมให้สาดน้ำอีก 1 วัน

ต่อมาเวลา 20.00 น. ที่บริเวณถนนสีลม หลังจากมีการปิดการจราจรถนนสีลมตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำสงกรานต์ กระทั่งเวลา 20.20 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรักได้เข้ามาทำความสะอาดพื้นผิวจราจร โดยนำน้ำมาล้างและกวาดเก็บขยะ พร้อมกับเร่งระบายคนที่เข้ามาท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดการจราจรตามปกติ และในวันที่ 14 เม.ย. กทม.จะปิดการจราจรถนนสีลมตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. อีก 1 วัน เพื่อให้ประชาชนมาเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้ายของถนนสีลม

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่