พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส, บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ทรูและดีแทค และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 เพื่อหารือถึงมาตรการตัดสัญญาณการใช้งานมือถือของผู้ใช้บริการที่ถือครองซิมมือถือ 101 เลขหมายขึ้นไปที่ไม่ยอมมาลงทะเบียนยืนยันตัวตน หลังหมดเขตเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา

โดยผู้ที่ไม่มายืนยันตัวตนจะถูกระงับใช้บริการตามเงื่อนไขตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2567 ทั้งในส่วนของการโทรออก ส่งข้อความเอสเอ็มเอส และใช้งานอินเตอร์เน็ต จะอนุญาตเพียงเบอร์โทร.ฉุกเฉินเท่านั้น จากสถิติของ ผู้ประกอบการที่รายงานมายัง กสทช. มีผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลขขึ้นไปมายืนยันตัวตน ดังนี้ เครือข่ายเอไอเอส 58.56% ทรู-ดีแทค 35% และ NT 23.14% ขณะที่หมายเลข บางส่วนที่ยังไม่ได้มายืนยันตัวตนจะเป็นซิมที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้รับข้อความเอสเอ็มเอสแจ้งเตือน และบางส่วนเชื่อได้ว่าเป็นซิมเถื่อนที่อยู่ในมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรออนไลน์อื่น และกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายของมาตรการนี้ ซึ่งในที่ประชุมได้กำชับให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกค่ายระงับการใช้งานได้เลย ส่วนผู้ถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6-100 หมายเลข ต้องมายืนยันตัวตนภายในวันที่ 13 ก.ค.2567 จึงยังมีเวลา

 พล.ต.อ.ณัฐธรกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีบุคคลบางกลุ่มมีพฤติการณ์ปลอมแปลงเอกสารหรือปลอมบัตรประชาชนในการจดทะเบียนซิมการ์ด ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่น การให้มาลงทะเบียนจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ดีขึ้น.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่