วาเลนไทน์ 2567 สุดคึกคัก คู่รักคู่สามีภรรยาทั้งคนไทยและชาว ต่างชาติทั่วประเทศถือฤกษ์ดีวันแห่งความรัก จูงมือเข้าพิธีวิวาห์-จดทะเบียนสมรสเริ่มต้นชีวิตครอบครัวตามกฎหมายไม่เว้นแม้แต่คู่รักหลากหลายทางเพศมาขอจดแจ้งการใช้ชีวิตคู่กันมากขึ้น ขณะที่เขตบางรัก กทม.ทำสถิติคู่รักแห่จดทะเบียนสมรสเกินคาดหมาย

เป็นประจำทุกวันวาเลนไทน์ที่ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปี ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศพร้อมใจจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานวิวาห์ที่มาพร้อมขบวนแห่ขันหมาก ขบวนมหรสพตามประเพณีไทย และการรับจดทะเบียนสมรส ทั้งบนบก บนภูเขาและใต้ทะเล ซึ่งในปีนี้มีคู่รักคู่สามีภรรยาเลือกใช้วันที่ 14 ก.พ. เป็นฤกษ์ดีในการเริ่มต้นชีวิตคู่ตามกฎหมายอย่างล้นหลาม ขณะที่คนโสดก็ถือโอกาสมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆที่มีการจัดให้เข้ากราบไหว้ เพื่อขอพรให้สมหวังในความรัก

ทั้งนี้ ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีการจัดงานพฤกษาวิวาห์รัก@แม่ริม ปีที่ 2 มี 20 คู่รัก เป็นคนหนุ่มสาวชาวไทย สาวไทยและสามีชาวต่างชาติจำนวนหลายคู่ บางคู่แต่งงานอยู่กินกันมานานนับสิบปี มีบุตรด้วยกันหลายคน แต่เพิ่งตัดสินใจมาจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักปีนี้ ท่ามกลางกุหลาบหลากสีสันที่กำลังเบ่งบานกว่า 30 สายพันธุ์ ขณะที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ กลุ่ม LGBTQ แห่ขบวนขันหมากแบบล้านนาเคลื่อนไปตามถนนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นการแต่งงานและการแสดงเชิงสัญลักษณ์ในการสมรสเท่าเทียม นำโดยศิริศักดิ์ ไชยเทศ ที่พาคู่รักหลากหลายทางเพศ 12 คู่ เข้ายื่นคำร้องกับนายศิริพงษ์ นำพา ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นผู้รับคำร้อง พร้อมอวยพรกับคู่รักหลากหลายทางเพศให้มีความสุข และครองรักกันยาวนาน ส่วนที่วัดโลกโมฬี อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก็คลาคล่ำไปด้วยเหล่าสายมูพากันเดินทางมากราบไหว้ “พระนางจิรประภามหาเทวี” กษัตริยาแห่งล้านนา เพื่อขอพรด้านความรักให้พบคู่รักและมีความรักที่สุขสมหวัง

...

ขณะเดียวกันในงาน “เทศกาลบอลลูนนานาชาติ International Balloon Fiesta 2024” ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย มีการจัดกิจกรรมฉลองรับเทศกาลวาเลนไทน์ “บอลลูนเลิฟ-บอกรักบนฟ้า” ที่ปีนี้มีคู่รักที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม 15 คู่ รวมถึง “เป๊กซ์ วงซีล” มาพร้อมแฟนสาว “มิ้นท์” ขึ้นบอลลูนไปบอกรักเหนือท้องฟ้าท่ามกลางขุนเขา พร้อมชมความสวยงามของสิงห์ปาร์ค เชียงราย และวิวทิวทัศน์จังหวัดเชียงรายแบบ 360 องศา กับสีสันอันสวยงามของบอลลูนจากนานาชาติกว่า 30 ลูก ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก

ส่วนที่ จ.สุรินทร์ ยังคงจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นชื่นมื่น เมื่อขบวนคู่บ่าวสาวนั่งช้างแห่จากศาลากลางหลังเก่า ไปยังบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (สวนใหม่) อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยนายอำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นนายทะเบียน จากนั้นคู่บ่าว-สาว ประกอบพิธีซัตเต หรือพิธีแต่งงานแบบชาวกูย มีการผูกข้อมืออวยพรคู่บ่าว-สาว และนำเลี้ยงอาหารช้าง ที่ในปีนี้พิเศษสุดน่ารักมีการจดทะเบียนสมรสคู่รักช้าง “พลายหนิงหน่อง” กับ “พังแวนด้า” ก่อนจัดพิธีจดทะเบียนสมรสและมอบทะเบียนสมรสบนหลังช้างให้กับคู่บ่าวสาว

ด้านที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จัดงาน “สมรสลอยฟ้า วิวาห์หลานย่า 2567” จดทะเบียนสมรสชั้น 20 ชมวิวเมือง 360 องศา มีคู่รักร่วมลงทะเบียน 30 คู่ และประชาชนทั่วไปมาจดทะเบียนที่อำเภอเมืองอีก 40 คู่ ก่อนเดินทางไปกราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและเดินลอดประซุ้มประตูชุมพล ถ่ายภาพหมู่อันมีคุณย่าโมเป็นสักขีพยานรัก ก่อนนั่งรถรางไปจดทะเบียนสมรสบนโรงแรมเซ็นทารา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช บนชั้น 20 ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้เต็มพื้นที่ พร้อมใส่ชุดลายแมวโคราช Monogram สีชมพูหวานสดใส เช่นเดียวกับตามศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาทิ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ อ.เมืองนครราชสีมา จัดใหญ่สำหรับสายมูกับงาน “THE MALL KORAT มูเต LOVE” ที่รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์สายมู ศาสตร์พราหมณ์-ฮินดู ไว้ในงานเดียว เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชาวโคราชในช่วงเทศกาลแห่งความรัก

ขณะที่พื้นที่ด้ามขวานไทย มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันแห่งความรักอย่างหวานชื่น จัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทร ประจำปี 2024 จ.ตรัง มีคู่บ่าวสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 12 คู่ เป็นชาวไทย 9 คู่ ชาวจีน 1 คู่ ชาวมาเลเซีย 1 คู่และไทย-อินโดนีเซีย 1 คู่ แต่งกายด้วยชุดบ่าวสาว เดินทางไปยังท่าเรือปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ร่วมพิธีปล่อยพันธุ์ปูม้า จากนั้นนั่งเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะกระดาน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ร่วมพิธีจดทะเบียนสมรสนอกสถานทีิ่ มีนายทรงกรด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธาน นายธนากร ชูจิตต์ นายอำเภอกันตัง เป็นนายทะเบียน ขณะที่ไฮไลต์ของงานอยู่ที่คู่รักทั้งหมดเดินทางออกจากเกาะกระดาน มุ่งหน้าไปยังบริเวณหินก้อนเดียว อยู่หน้าถ้ำมรกต โดยมีคู่รัก 11 คู่ ร่วมกันดำดิ่งสู่ท้องทะเลตรัง เพื่อลงไปจดทะเบียนสมรส และรดทรายสังข์สีชมพู ใต้ท้องทะเล พร้อมทั้งถ่ายภาพแสดงอิริยาบถต่างๆที่สื่อถึงความรักกันใต้ท้องทะเลสุดชื่นมื่น

...

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต หวานชื่นไม่แพ้กันเมื่อมีคู่สมรสกว่า 80 คู่เข้าร่วมงาน “สมรสสมรัก” ดูแลกันและกัน ณ เกาะสวรรค์ @เมืองภูเก็ต ส่วนอำเภอกะทู้ จัดพิเศษสมรสเท่าเทียมที่เปิดรับคู่รักชาย-หญิง และคู่รัก LGBTQ+ จำนวน 14 คู่ จดบันทึกแห่งรัก “รักนี้...ที่ป่าตอง” บริเวณสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง ขณะที่ จ.พังงา จัดงานวิวาห์ให้คู่รักที่สร้างสีสันกว่าทุกปี ด้วยการนำเต่าตนุเพศผู้ชื่อ ไอต่าว และตัวเมียชื่อ น้องจำปูน มาเป็นไฮไลต์ของงาน เข้าพิธีวิวาห์พร้อมคู่บ่าวสาวอีก 3 คู่ ที่โรงเรียนบ้านเขาเฒ่า อ.เมืองพังงา และที่สวนหมื่นบุปผา ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา มีกิจกรรมจดทะเบียนสมรส ภายใต้ชื่อ “เบตงรักที่สุด ใต้สุดสยาม” มีนายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง เป็นนายทะเบียนลงนาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักสุดชื่นมื่น ตลอดวันมีคู่รักมาจดทะเบียนสมรส 24 คู่ แต่งกายชุดบ่าวสาวทั้งแบบชุดไทย ชุดมลายู ชุดจีน และชุดเสื้อผ้าคู่อย่างสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นคู่รักในพื้นที่ จ.ยะลา และคู่รักจากชนเผ่าลาหู่ ใน ต.ตาเนาะแมเราะ ที่ครองคู่กันมานานกว่า 40 ปี มีลูก 5 คน เจ้าบ่าวคือนายยอเช๊ะ เล่าตา อายุ 78 ปี เจ้าสาวคือนางมาเรีย เล่าตา อายุ 57 ปี ส่วนเคล็ดลับที่ครองคู่กันมาได้ยาวนานคือการให้ความรักต่อกัน ซื่อสัตย์และดูแลกันและกันทั้งยามทุกข์และสุข

...

ขณะเดียวกัน ที่โครงการเฟิร์สอเวนิว ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายไพโรจน์ จึงธนาเจริญ นายอำเภอบางบัวทอง เป็นประธานเปิดงานจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ มี 50 คู่รักมาจดทะเบียนสมรสและมีการมอบของขวัญแจกของรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลใหญ่ทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 2 เส้น โดยนายจักรพันธ์ ผดุงเวียง อายุ 33 ปี และ น.ส.รัตนา จวนตะขบ อายุ 35 ปี เป็น 1 ใน 2 คู่รักที่โชคดีได้รับทองคำรูปพรรณ 1 สลึงดังกล่าว

สำหรับในกรุงเทพมหานคร เขตที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น เขตบางรัก ยังได้รับความนิยมจากคู่รักทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจูงมือมาจดทะเบียนสมรสเป็นจำนวนมาก ทางเขตจัดงานในชื่อ “พรหมลิขิตผูกพัน รักนิรันดร์ ณ บางรัก (Love Infinity)” ที่ศูนย์การค้าจิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ (JTC) เขตบางรัก ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. มีคู่รักที่ลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าจำนวน 898 คู่ จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 789 คู่ และไฮไลต์ของกิจกรรมยังคงเป็นการลุ้นรับทะเบียนสมรสทองคำทั้งหมด 12 ฉบับ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ คู่แรกที่ได้รับได้แก่คู่ของ น.ส.ธัญญ์ฐิตา ญาณวิริยะวงษ์ อายุ 34 ปี กับนายภรรทพล ประภาสุมณี อายุ 37 ปี ที่คบกันมา 10 ปี และเลือกจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรักเพราะชื่อเป็นมงคล

ขณะที่เขตอื่นๆต่างจัดกิจกรรมใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนกัน อาทิ เขตดุสิต จัดงานจดทะเบียนสมรสที่อัครสถานพระราชอุทยานสวนสุนันทา เขตบางขุนเทียน จัดงานภายใต้ธีม “SEAson of Love : ฤดูกาลแห่งรัก ณ บางขุนเทียน” เขตมีนบุรี จัดชื่องาน “เมืองมีนถิ่นทอง เราสองรักนิรันดร์” ที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี เขตพระนคร จัดภายใต้ชื่องาน “พระนคร นครแห่งความรัก Phra Nakhon Land of Love” พาคู่รักชมวัดและวังบางขุนพรหม แต่ละเขตมีการแจกของขวัญของชำร่วยมากมาย และวาเลนไทน์ปีนี้เป็นปีแรกที่ทั้ง 50 เขตของ กทม.เปิดรับจดแจ้งชีวิตคู่สำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ด้วย

...

ต่อมาในช่วงเย็น นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ว่าฯ กทม.และโฆษก กทม. เปิดเผยว่าในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.ปีนี้ ทั้ง 50 สำนักงานเขตของ กทม.ให้บริการแก่คู่รักมาจดทะเบียนสมรส 2,762 คู่ มีคู่รัก LGBTQ+ มาจดแจ้งชีวิตคู่ 164 คู่ และจดทะเบียนหย่า 38 คู่ เขตที่มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ เขตบางรัก 879 คู่ เขตบางขุนเทียน 102 คู่ เขตบางซื่อ 93 คู่ เขตลาดกระบัง 88 คู่ และเขตหนองจอก 86 คู่ ส่วนเขตที่มีผู้มาจดทะเบียนสมรสน้อยที่สุด ได้แก่ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 10 คู่ รองลงมาคือ เขตคลองสาน เขตปทุมวัน เขตวัฒนา เขตสาทร เขตละ 11 คู่ เขตคลองเตย เขตพญาไท เขตละ 15 คู่ และเขตสัมพันธวงศ์ 16 คู่ ส่วนเขตที่มี LGBTQ+ มาจดแจ้งชีวิตคู่มากที่สุด ได้แก่ เขตดุสิต 24 คู่ เขตปทุมวัน 20 คู่ เขตบางคอแหลม 11 คู่ เขตทวีวัฒนา 10 คู่ และบางกอกน้อย 9 คู่ แม้ว่าการจดแจ้งนี้จะยังไม่มีผลทางกฎหมาย แต่การจดแจ้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ กทม. อยู่ 2 ส่วน คือแสดงถึงเจตนารมณ์ของ กทม.ที่พร้อมให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน และแสดงถึงความพร้อมหากมีกฎหมายแม่พร้อมแล้วและมีการออกกฎหมายลูกมาอย่างชัดเจน กทม.ก็พร้อมในการดำเนินการตามทันที

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่