ตรุษจีนปีนี้มีความหมายอย่างมากต่อการท่องเที่ยวของไทย เพราะจะเป็นตัวชี้วัดด่านแรกสู่อนาคตตลาดนักท่องเที่ยวจีน ถ้าเราพร้อมใจกันต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวที่มาฉลองตรุษจีนในไทยให้เกิดความประทับใจ ปีนี้ทั้งปีรับรองนักท่องเที่ยวจีนจะขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ

ไทยกับจีน ทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน (วีซ่าฟรีแบบถาวร) เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ มาตรการนี้ไม่เพียงแค่ตอกย้ำความสัมพันธ์แนบแน่นของทั้งสองประเทศ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลหวังกระตุ้นให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนกลับมาคึกคักเหมือนยุคก่อนโควิด

ในวันที่ตัวแทนฝ่ายไทยและจีนลงนามความตกลงดังกล่าวร่วมกัน ปรากฏว่า คนจีนได้เข้าไปสืบค้นแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวของไทย บน Ctrip แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรของจีน เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า สถานที่ที่ถูกค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย และพัทยา

และเมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าฯการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมกับ Trip.com จัดไลฟ์สตรีมนำเสนอดีลสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในไทย ทั้งส่วนลดสายการบิน โปรโมชันที่พัก แพ็กเกจท่องเที่ยว ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถปิดการขายด้วยยอดกว่า 100 ล้านบาท

...

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าเมืองไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวในใจคนจีนเสมอ และมาตรการวีซ่าฟรีก็มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวจีนอย่างเห็นได้ชัด ผมถึงบอกว่าตรุษจีนปีนี้มีความหมายอย่างมาก ถ้าเราดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างดี จะช่วยต่อยอดให้มาตรการวีซ่าฟรีเกิดประสิทธิภาพดึงนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มมากขึ้น

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ต้องบริหารจัดการไม่ให้เกิดความแออัด รอคิวนาน บมจ.ท่าอากาศยานไทย ต้องดูแลภายในสนามบินให้สะดวกรวดเร็ว ตำรวจ ต้องดูแลความปลอดภัยเข้มข้นทุกด้าน ป้องกันมิจฉาชีพทุกรูปแบบ ผมหวังว่าผู้นำหน่วยงานต่างๆเหล่านี้จะลงมากวดขันลูกน้องและรีเช็กระบบอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะแก้ตัวอย่างไร เหตุผลก็ฟังไม่ค่อยขึ้นอยู่ดี และเมื่อนักท่องเที่ยวเสียความรู้สึกไปแล้ว จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมายาก

ส่วนผู้ประกอบการ ร้านค้า ผู้ให้บริการทั้งหลาย ขออย่าคิดราคาเอาเปรียบนักท่องเที่ยวมากนัก ให้มองระยะยาวดีกว่า คุณพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย–จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ พูดเสมอว่า เวลาคนจีนมาเที่ยว คนไทยอย่าเอาเปรียบ สินค้าและบริการต้องคิดราคาเป็นธรรม เหมาะสมกับคุณภาพ และควรใส่ใจเรื่องความสะอาด ถูกหลักอนามัย สิ่งสำคัญคือน้ำใจความเป็นมิตร และความปลอดภัย ขอให้ดูแลนักท่องเที่ยวจีนเหมือนพี่น้อง

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวตรุษจีน ปีนี้ ททท.ชูแนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง” ปักหมุดหลักที่เยาวราช จัดประดับตกแต่งไฟมังกรทอง บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ มีการแสดง Projection Mapping ภายใต้เรื่องราวแห่งความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีน “เทพเจ้าราชันย์มังกร” และจัดบูธโดยซินแสชื่อดังผ่านกิจกรรมไหว้เทพ 5 ศาลเจ้า

ส่วนภูมิภาคต่างๆ ททท.ได้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน ประเพณีแห่เจ้าพ่อ–เจ้าแม่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ งาน Chinese New Year 2024 จ.ราชบุรี งานเทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่ จ.สงขลา งานตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 16 ปีมังกรสวรรค์ ณ อุทยานมังกรสวรรค์ จ.สุพรรณบุรี และ เทศกาลไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

กระทรวงการท่องเที่ยวฯคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 8-16 ก.พ. จะมี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย 195,825 คน เพิ่มขึ้น 137% จากช่วงตรุษจีนปี 2566 (แต่ยังเป็นแค่ 56% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปี 2562 ก่อนโควิด) โดยจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 150,295 คน นักท่องเที่ยวฮ่องกง 22,830 คน นักท่องเที่ยวไต้หวัน 22,700 คน ทั้ง 3 ตลาดนี้คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ 11,404 ล้านบาท

...

รัฐบาลอยากเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปีนี้ให้ได้ถึง 40 ล้านคน ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายพอสมควร การทำงานให้สำเร็จ งบประมาณคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ในปี 2562 ททท.ได้งบฯ 6,613 ล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 39.91 ล้านคน แต่ในปีงบประมาณ 2567 ททท.ได้รับจัดสรรงบฯแค่ 5,200 ล้านบาท ถ้า กมธ.งบประมาณนำงบฯฟุ่มเฟือยซ้ำซ้อนที่ตัดจากหน่วยงานอื่น มาเพิ่มให้กับ ททท. ก็จะเป็นประโยชน์คุ้มค่าต่อการทำงาน

ในยามที่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยยังปรับตัวไม่ได้มาก จำเป็นต้องอาศัยการท่องเที่ยวมาช่วยพยุงประเทศ.

ลมกรด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม