ผมเพิ่งจะจบ “มินิซีรีส์” ว่าด้วย “อินโดนีเซีย 2024” ไป

เมื่อวานนี้ และตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ปัจจุบันของบ้านเราตามหน้าที่ของคอลัมน์ประจำวันตามเดิมในวันนี้

ก็พอดีได้รับจดหมายน้อยจากน้องๆ สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ การ “สัมมนาประจำปี” ว่าด้วยทิศทางเศรษฐกิจ “ปีมะโรงงูใหญ่” ที่เพิ่งจะคืบคลานมาได้ 26 วัน

ถือว่ายังไม่สายเกินไปที่จะมาสัมมนา หรือเสวนาว่าด้วยการทำนายทายทักว่า เศรษฐกิจปี 2567 จะเป็นอย่างไรบ้าง? ว่างั้นเถอะ

เนื่องจากการสัมมนาดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ผมจึงขออนุญาตเขียนประชาสัมพันธ์ให้เสียเลยในวันนี้ก็แล้วกัน

เผื่อท่านที่สนใจจะได้มีเวลาตัดสินใจว่าควรไปฟังหรือไม่ อย่างไร?

ถ้าจะว่าไปแล้วการสัมมนาของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ในอดีตเป็นงานใหญ่มาก และถือได้ว่าเป็นงานสัมมนาที่โดดเด่นที่สุดแห่งปีที่ใครๆก็รอฟัง

เนื่องเพราะในยุคโน้นยังไม่มีการสัมมนาโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจมากมายเหมือนยุคนี้ ที่เดือนหนึ่งๆมีผู้จัดหลายๆครั้งและหลายๆเจ้า

ดังนั้นการสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ยุคโน้น ซึ่งจะประกอบโดยนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่างๆมาเป็นวิทยากร จึงได้รับความสนใจสูงมาก

วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะพาดหัวยักษ์ถึงผลการสัมมนาและการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปีถัดไปว่าจะดีหรือแย่ตามคำพยากรณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ดังที่สุดของยุคโน้น อาทิ “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร เป็นต้น

แต่ผมดูรายชื่อวิทยากรปีนี้แล้วไม่เบาเชียวละครับ อาจจะมีสิทธิกลับมาโด่งดังและขึ้นหัวหน้า 1 หนังสือพิมพ์และออกสื่อต่างๆได้อีกครั้งหนึ่ง

...

หลังจากการกล่าวเปิดรายงานของ คุณเกศรา มัญชุศรี นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ท่านปัจจุบัน ในเวลา 09.00 น. จบลง ก็จะเป็นปาฐกถาพิเศษเรื่อง “จับชีพจรชีวิตประเทศไทย” โดย ศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในทันทีทันควัน

ท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรีซึ่งหันหลังให้แก่วงการเมืองท่านนี้จะมาเป็น “หมอแมะ” ฟันธงเศรษฐกิจประเทศไทยว่าร้ายหรือดีอย่างไร พรรคเพื่อไทยน่าจะส่งคนไปฟังด้วยนะครับ

จากนั้นจะมีการอภิปรายในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยปีงูใหญ่จะฟ่อหรือฟ้อ” โดยนักเศรษฐกิจที่กำลังเป็นดาวรุ่งอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ดร.กิริฎา เภาพิจิตร, ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย, ดร.อมรเทพ จาวะลา และ ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ท่านแรกมาจาก TDRI ส่วน 3 ท่านหลังมาจาก ธนาคารดังถึง 3 ธนาคารด้วยกัน

ต่อมาจะเป็นการวิเคราะห์ถึงปัญหาสงครามและความไม่แน่นอนของเหตุการณ์โลกต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ในหัวข้อ “โลกรวนชวนตีกัน... โอกาสของเมืองไทย?” โดยคุณ เกรียงไกร เธียรนุกุล, ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ, ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร และ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ที่จะกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้ง ในฐานะผู้ดำเนินการเสาวนา

ส่งท้ายด้วยเรื่องใหญ่ด้านสังคม แต่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างน่าเป็นห่วง ว่าด้วยการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบของประเทศไทย ในหัวข้อ “ประเทศไทยสูงวัย...แล้วไง?”

โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี, คุณสุนทร เด่นธรรม, ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ และ คุณอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ 4 คนดัง (มาก) ที่อายุเข้าเกณฑ์ ส.ว.แล้วบ้าง ใกล้เคียงบ้าง และยังไม่ถึงบ้าง มานำเสนอข้อคิดและทางออกสำหรับปัญหาที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ที่เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทยและของโลกด้วยในปัจจุบัน

ทั้งหมดนี้จะเริ่มเวลา 09.00-13.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ที่จะถึง ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 2-3 ชั้นล็อบบี้ โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok เก็บค่าเข้าฟัง 3,000 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดงานและสมาคมฯ สนใจโทร.จองได้ที่โทรศัพท์ 08-1837-1266 และ Line ID : tuecon_alumni ตั้งแต่บัดนี้

ขอเอาใจช่วยให้มีคนไปฟังแน่นห้องประชุมนะครับ! เพราะนานๆจะมีวิทยากรระดับมีแฟนคลับเยอะ ดังที่เอ่ยชื่อมาร่วมแสดงความคิดความเห็น ในเวทีเดียวกันสักที...น่าจะได้สาระได้เรื่องราวและเป็น “ข่าวพาดหัว” เหมือนในอดีตบ้างละงานนี้.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม