อดีตผู้นำตำรวจผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตท่านหนึ่ง เคยประกาศคำขวัญ “ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” เป็นคำประกาศที่เป็นจริงมานาน ไม่ว่าจะเป็นภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากรัฐประหาร เพราะตำรวจไทยมีทั้ง “อำนาจแข็ง” หรืออำนาจอ่อน หรือ “ซอฟต์พาวเวอร์”

สาเหตุสำคัญ เพราะประเทศไม่เคยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เห็นได้จากคำกล่าวของอดีตผู้นำประเทศท่านหนึ่งว่า เราไม่ต้องกลัวอะไร เพราะกฎหมายอยู่ในมือเรา เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายก็คนของเรา ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพียงไม่กี่หน่วย ที่สามารถจับคนเข้าคุกได้ หรือแม้แต่กระทำ “วิสามัญฆาตกรรม” ก็ได้

“วิสามัญฆาตกรรม” ตามความเข้าใจของชาวบ้าน อาจหมายถึงการฆ่าคนตายโดยวิธีไม่ปกติหรือธรรมดา ตรงกันข้ามกับ “สามัญฆาตกรรม” หมายถึงการฆ่าคนตายตามปกติ ข่าวครึกโครมที่เกิดขึ้นในท้องที่ อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เป็นอีกกรณีหนึ่งซึ่งแสดงถึงอำนาจตำรวจ

นั่นก็คือข่าว “ลุงเปี๊ยก” ถูกตำรวจอรัญประเทศจับกุม และใช้ “ถุงดำคลุมหัว” ถอดเสื้อออกให้ตากแอร์ และบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า “ป้าบัวผัน” ผู้เป็นภรรยา ต่อมามีการเปิดโปงคลิปเสียง ของนายตำรวจอ้างว่าจับผู้ต้องหาผิดตัว คนที่ฆ่าป้าบัวผันอย่างโหดเหี้ยมไม่ใช่ลุงเปี๊ยก

การใช้ถุงดำคลุมหัว การซ้อมทรมาน และการยัดคดี อาจเป็นกลวิธีการสอบสวนของตำรวจบางส่วน คลิปตำรวจไม่ได้บอกว่าใครฆ่าป้าบัวผัน แต่ชาวบ้านโจษจันกันว่าเป็นฝีมือของแก๊งวัยรุ่น ที่มีลูกตำรวจรวมอยู่ด้วย อ้างว่าเพื่อเร่งรัดการสอบสวนให้จบโดยเร็ว และช่วยแก๊งลูกตำรวจให้ลอยนวลเหนือกฎหมาย

ตำรวจไทยมีทั้งกฎหมายและปืนในมือ จึงมีทั้งอำนาจอ่อนคือซอฟต์ พาวเวอร์ และอำนาจแข็ง รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบันเขียนบังคับไว้ให้ปฏิรูปตำรวจ ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายตามหลักคุณธรรม การปลูกฝังวัฒนธรรมให้ยึดมั่นในความยุติธรรม และเคารพสิทธิมนุษยชน แต่ไม่มีใครสนใจปฏิรูปอย่างจริงจัง

...

แม้แต่การปฏิรูปการเมืองให้เป็น ประชาธิปไตย ให้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และความยุติธรรม ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะรัฐบาลที่อยู่ในอำนาจเกือบ 10 ปี เป็นแค่ประชาธิปไตยครึ่งใบ เป็นรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ที่ยกให้ตำรวจเท่าเทียมกับเหล่าทัพอื่นๆ นิติธรรมเท่านั้นที่จะปฏิรูปตำรวจได้.

คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม