เมื่อวันที่ 17 ม.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้ประชุมติดตามงานตามนโยบายต่างๆของ ศธ. โดยเฉพาะการยกระดับผลคะแนนประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA ในปี 2025 ที่จะยกระดับผลคะแนนการสอบของนักเรียนไทยให้มากขึ้น เพราะตนไม่อยากให้เด็กไทยคิดว่าการสอบดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบ หรือจะนำไปใช้ในการเรียนต่อได้ ทั้งที่ผลคะแนนสะท้อนถึงชื่อเสียงของประเทศชาติ จึงต้องให้ความสนใจ ตั้งใจเตรียมตัวและตั้งใจสอบ และอยากให้ทุกคนคิดว่าการสอบ PISA จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มสมรรถนะทักษะการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้ ซึ่งอยากให้ครูปรับกระบวนการเรียนการสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์มากขึ้นด้วย

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบการดำเนินการเรื่องการจัดงานวันเด็กแห่งชาติและวันครู โดยในส่วนของการจัดงานวันเด็กแห่งชาตินั้น ดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ มีเด็กและผู้ปกครองเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยในปีหน้า กระทรวงศึกษาธิการจะจัดงานวันเด็กแห่งชาติให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ขณะที่งานวันครูมีเสียงตอบรับจากครูทั่วประเทศถึงการแจกของขวัญวันครูของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ได้เปิดตัวระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับการดำเนินการย้ายกรณีปกติในรูปแบบของการย้ายสับเปลี่ยน โดยพบว่ามีครูเข้าใช้งานแจ้งขอย้าย 321 คน และระบบ TMS สามารถจับคู่ย้ายสับเปลี่ยนได้ 66 คนซึ่งเป็นผลตอบรับที่น่าพอใจอย่างมาก

“ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ผมได้ย้ำถึงการประเมินผู้บริหารกระทรวงและบุคลากรในสังกัดกระทรวงรูปแบบใหม่ โดยฝากให้ทุกองค์กรหลักไปจัดทำตัวชี้วัดการทำงานของตัวเองในรอบ 3 เดือนทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ และศักยภาพการทำงานของตัวเองในวันนี้ทำได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะต้องมีตัวชี้วัดของตัวเองมาให้ผมดู ซึ่งหากเป็นค่าตัวชี้วัดที่ผมรับได้ก็ไม่ต้องมาต่อรองกัน แต่หากเป็นค่าตัวชี้วัดที่ต่ำเกินไปก็ต้องมีการทบทวนตัวเอง ดังนั้น การกำหนดตัวชี้วัดประเมินผู้บริหารถือเป็นความท้าทาย และต้องเกิดความท้าทาย ที่จับต้องได้ด้วย” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่