สรุปข่าวเด่นในรอบปี 2566

สุดสลด “เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์” เครียด “ฆ่าตัวตาย”

ปี 2566 เป็นปีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์อาละวาดอย่างหนัก ไม่เพียงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทั้งยังก่อความสูญเสียถึงชีวิต เหยื่อหลายรายตั้งแต่เด็กยันผู้สูงอายุทำใจไม่ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เริ่มจากเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2566 นักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด แขวนคอตายในป่ากระถิน ภายในซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทิ้งจดหมายลาตายขอโทษพ่อแม่ที่ขโมยเงิน เนื่องจากถูกเพจหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้าออนไลน์ไปเก็งกำไรขายต่อ สูญเงินไป 14,000 บาท รายต่อมาวันที่ 11 ก.ค.2566 ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งพบศพลอยทะเลริมเขื่อนหน้าเมือง พบศพ นายวุฒิศักดิ์ชัย วิเชียรมณี อายุ 42 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรม The Kim ในกระบี่ สอบพบสาเหตุที่โดดทะเลลาโลก เพราะเสียใจที่แม่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไป 270,000 บาท เป็นเงินที่แบ่งจากเงินเดือนให้แม่เก็บสะสมมาหลายปี

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 นายสาณิช ดอกไม้ อายุ 43 ปี คลั่งใช้มีดอีโต้ฟันร่างปาดคอภรรยาและลูกชายวัย 13 และ 9 ปีเสียชีวิตรวม 3 ศพ ก่อนเชือดคอและข้อมือตัวเองบาดเจ็บสาหัส ชนวนจากความเครียดจะถูกยึดบ้าน ภรรยาพยายามหากู้เงินมาช่วย แต่กลับถูกแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้โอนเงินกว่า 1.7 ล้านบาท

อีกราย นางยุพิณ พงษ์จำรัส อดีตข้าราชการวัย 63 ปี ฆ่าตัวตายในบ้านที่ จ.เชียงใหม่ เพราะถูกลวงโอนเงินลงทุนทำภารกิจเพื่อรับผลตอบแทนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ และหลอกลวงให้หาผู้ร่วมลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ สร้างความเสียหาย เป็นเงินกว่า 5.2 ล้านบาท สุดท้ายวันที่ 15 ต.ค.2566 น.ส.อาทิตยา หรือน้องพลอย ช่วยคง อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แขวนคอตายกับขื่อห้องนอนในบ้าน เหตุจากหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงให้ผ่อนไอโฟน 13 ผ่านเฟซบุ๊กปลอมสวมรอยร้านโทรศัพท์มือถือ สูญเงินไปถึง 20,500 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นข่าวเศร้าที่ “เหยื่อมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์” ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสลดใจ.

ทลายเว็บพนัน “มาเก๊า888” เครือข่าย “4 พี่น้องตระกูล บ.”

ปฏิบัติการกวาดล้างเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ของตำรวจไซเบอร์เริ่มต้นขึ้นจากผลพวงของ “ดิว-อิสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแฉเบื้องหลังแฟนเก่าทำธุรกิจสีเทาสร้างมูลค่าเม็ดเงินมหาศาล เป็นเหตุให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมาย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เปิดยุทธการ “มาเก๊า 888” ปิดล้อมตรวจค้น 8 จุดในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 ค้นหาพยานหลักฐานดำเนินคดีเครือข่ายเว็บพนันชื่อดัง

มีเป้าหมายโยงใย 4 พี่น้องตระกูล บ. ที่มี นายชัยวัฒน์ หรือ เบนซ์ เดม่อน ขจรบุญถาวร อายุ 38 ปี พี่ชายคนโตที่ถูกหมายจับเป็นคนแรก ข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน

ส่วน 3 พี่น้องที่เหลือ ประกอบด้วย นายเอกชัย หรือ บอส ขจรบุญถาวร อายุ 35 ปี นายกิตติพงษ์ หรือ บิ๊ก ขจรบุญถาวร อายุ 32 ปี และ ร.ต.อ.คุณากร หรือ ผู้กองไบร์ท ขจรบุญถาวร รอง สว.ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก บช.สตม. น้องชายคนเล็ก ล้วนถูกลากเข้าไปพัวพันธุรกิจผิดกฎหมายของพี่ชาย ส่งผลให้นายตำรวจหนุ่มที่ไปช่วยสำนักงาน พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.ในขณะนั้น ต้องตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากราชการหลังเลอะรอยมลทิน แม้ปฏิเสธเกี่ยวข้องด้วยก็ตาม

ปิดฉากอาณาจักรพนันออนไลน์รายใหญ่ของประเทศอย่าง “มาเก๊า 888” ไปในทันทีทันใด.

"แอม ไซยาไนด์" หญิงอำมหิต ฆาตกรต่อเนื่อง 14 ศพ

สาวโหดวางยาพิษฆ่าคนต่อเนื่องถึง 14 ศพ เพื่อขโมยทรัพย์สิน ล้างหนี้ เบี้ยวแชร์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2566 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 35 ปี อดีตภรรยา พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.สส. สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้ที่บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม. หลังสืบทราบว่าแอมวางยาพิษไซยาไนด์ ให้ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย ขันวงษ์ เท้าแชร์อายุ 32 ปี จนวูบหมดสติแล้วเสียชีวิตขณะไปปล่อยปลาด้วยกันที่ท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ตำรวจแกะรอยหลังย้อนหลังไปพบว่า แอมเข้าไปตีสนิทกับเหยื่อ ก่อนหาจังหวะผสมสารไซยาไนด์ในอาหารให้เหยื่อกินจนเสียชีวิตรวม 14 ราย และมีรอดชีวิต 1 ราย ในช่วงตั้งแต่ปี 2558-2566 เหยื่อทั้งหมดเกี่ยวพันเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ รับจำนำรถ จำนำที่ดิน ลูกวงแชร์ และเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ จุดประสงค์การลงมือฆ่าเพื่อล้างหนี้เงินกู้ ยักยอกทรัพย์ โกงแชร์ และขโมยทรัพย์สิน คดีนี้ถือว่าใช้ทีมสืบสวนสอบสวนมากที่สุด ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบหลักฐานการโอนเงิน 78 ล้านบาทของแอมเกี่ยวโยงถึงเว็บพนันออนไลน์ มีการเล่นได้เสียสูงถึงวันละ 1 ล้านบาท และเป็นหนี้พนันออนไลน์จำนวนมาก

ต่อมาตำรวจสรุปสำนวน “แอม ไซยาไนด์” วางยาพิษฆ่าเหยื่อ 15 คดี ส่งอัยการยื่นฟ้องศาล ประกอบด้วยความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใดเพื่อให้บุคคลอื่นเสพหรือใช้การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมและใช้เอกสารปลอม

ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ถูกสั่งฟ้องในข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นมิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด ศาลอนุญาตให้ทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่แอมไม่ยื่นขอประกันตัว.

แจ้งจับนายพลรีดเงิน 140 ล้านกับวลีหวาน “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”

กลายเป็นเรื่องฉาวสั่นสะเทือนวงการสีกากีแห่งปี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2566 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กับพวก รีดทรัพย์เป็นเงิน 140 ล้านบาท หลังผู้เสียหายถูกชุดเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ชลบุรี จับเว็บพนันออนไลน์ “Foxbet 168” ในพื้นที่แล้วมี นายวีระ หรือ บอย นาทรัพย์ เป็นคนกลางประสานเจรจาให้เข้าพบนายพลจังหวัดภาคตะวันออก เรียกร้องเงินค่าเคลียร์คดีความและแลกส่วยรายเดือนมูลค่า 140 ล้านบาทถึงสำนักงาน ผู้บังคับการแบบไม่สนอุดมการณ์ กระทั่งเกิดวลีหวาน “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” ทำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดเป็นข่าวครึกโครม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ย้าย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ที่เป็นข้าราชการตำรวจอีก 7 นายไปปฏิบัติราชการ ศปก.ตร.ขาดจากตำแหน่งเดิมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกระทบการทำคดี และเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขุดคุ้ยเบื้องหลังพฤติกรรมตบทรัพย์เรียกรับผลประโยชน์ที่อื้อฉาว ก่อนจะเปลี่ยนมือให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับผิดชอบดูแลสำนวนการสอบสวนแทน ด้าน พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ถูกคำสั่งขยับไปเป็น ผบก.อก.สทส.

อิทธิพลกำนัน “สั่งตาย” สารวัตรทางหลวง แถมเซ่น “ผู้กำกับเบิ้ม” ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน

ไม่มีใครคาดคิดว่างานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองกันธรรมดาจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมล้างเลือดที่น่าเศร้าสุดของวงการตำรวจ ในค่ำคืนของวันที่ 6 ก.ย.2566 เกิดเหตุมือปืนรัวยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ภายในบ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 1 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐมของ นายประวีณ จันทร์คล้าย อายุ 34 ปี ที่รู้จักกันในนาม “กำนันนก” กำนันตำบลตาก้อง อ.เมืองนครปฐม ไปเสียชีวิต รพ.นครปฐม มี พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ได้รับบาดเจ็บอีกนาย

สอบสวนมูลเหตุมาจากกำนันเจ้าของบ้านไม่พอใจนายตำรวจตงฉินที่ปฏิเสธย้ายหลานชายที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แถมเสียฟอร์มที่ชนเหล้าแพ้เด็กหนุ่ม ถึงส่งสัญญาณให้ นายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก อายุ 45 ปี สมุนมือขวาชักปืนกระหน่ำยิงสารวัตรทางหลวงอย่างเลือดเย็นกลางงานต่อหน้าต่อตาตำรวจนับสิบนายแล้วพากันหลบหนีไป

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการข้ามประเทศ จัดชุด พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รักษาการ ผบก.ทล.ออกล่าพลิกแผ่นดินจนกำนันเจ้าของบ้านยอมเข้ามอบตัว ส่วน “ไอ้หน่อง” มือปืนเหี้ยม หนีไปโดนจับตายคาโรงงานธูปร้าง ด้านหลังวัดพระแท่นดงรัง ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พร้อมกับมีการขยายผลล้างอิทธิพลของกำนันนกเกี่ยวกับธุรกิจประมูลงานก่อสร้างเกลี้ยง

ทว่ากลับเกิดเรื่องช็อกตามมาอีกระลอกในวันเผาศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหารบางเขน เมื่อ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล.ผู้บังคับบัญชาโดยตรงทนความกดดันไม่ไหวจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่พยายาม “ป้ายผิด” พานายตำรวจรุ่นน้องไปตาย เจ้าตัวตัดสินใจแสดงความรับชอบตามแบบฉบับนักรบคอมมานโดระเบิดขมับลาโลกในบ้านพักของตัวเอง ทำให้ต้องสูญเสียนายตำรวจมือดีของสอบสวนกลางไปอีกศพ.

เด็ก 14 คลั่งกราดยิงสยองห้างดังใจกลางกรุง

เหตุกราดยิงสยองขวัญกลางกรุงเป็นข่าวดังทั่วโลกรายนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.2566 เด็กชายวัย 14 ปี รูปร่างผอมสูงราว 175 ซม. สวมเสื้อผ้ารัดกุม สวมเสื้อคลุมสีดำพับแขน กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าปีนเขาสีดำ หมวกแก๊ปสีเทา คลุ้มคลั่งใช้ปืนบีบีกันดัดแปลงที่สั่งซื้อทางออนไลน์ เดินกราดยิงผู้คนที่ช็อปปิ้งในห้างสยามพารากอน ไล่ตั้งแต่ชั้น M จนถึงชั้น 3 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพคือ นางจ้าว จินหนาน อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน นางโม มหยิ่น หรือ ตะวัน อายุ 31 ปี ชาวเมียนมา ลูกจ้างร้านค้าในห้าง น.ส.เพ็ญพิวรรณ หรือ หนุงหนิง มิตรธรรมพิทักษ์ อายุ 30 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน ขณะที่ผู้บริสุทธิ์ต่างวิ่งหนีตายอลหม่าน

ตำรวจระดมกำลังจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ชั้น 3 ของโรงแรมที่อยู่ด้านหลังห้าง สอบสวนเบื้องต้นคล้ายมีอาการไม่ปกติทางจิต มือปืนอ้างว่า มีอาการหูแว่ว หวาดกลัวมีผู้จะเข้ามาทำร้ายตลอดเวลา แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ คุมตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ก่อนส่งไปรักษาต่อที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมสรุปผลด้านจิตเวชจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง

เหตุการณ์นี้กระทบความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นช่วงที่ไทยเพิ่งเปิดให้วีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีน กระนั้นก็ตาม ตำรวจและหน่วยความมั่นคงได้ “ล้อมคอก” กวาดล้างแหล่งผลิตและขายปืนเถื่อนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเข้มงวดการออกใบอนุญาตปืนอย่างเป็นจริงเป็นจัง.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่