หลายคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมเติมน้ำมันแต่ละครั้ง รถวิ่งได้ระยะไม่เท่ากัน

ทั้งที่เสียเงินเท่ากัน จำนวนลิตรที่ได้ก็เท่ากัน?

ล่าสุด มีคนลงทุนตรวจสอบเองพบว่า น้ำมันที่เติมมาไม่เต็มลิตรจริงๆ เป็นที่มาของความร้อนรุ่มของ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รีบออกมาชี้แจงว่า ตั้งแต่เดือน ส.ค. ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด 12,500 แห่ง เป้าหมาย 231,842 หัวจ่าย ตรวจสอบแล้ว 174,793 หัวจ่าย

พบว่า หัวจ่ายไม่ถูกต้องมากถึง 279 หัวจ่าย!

ดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีพบการดัดแปลงมาตรวัดมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่อธิบายว่า ตามกฎหมายกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นหลักการและมาตรฐานเดียวกับต่างประเทศ

ปั๊มไหนเติมน้ำมันขาดไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ายังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด!

ปัญหานี้มันละเอียดอ่อน ที่ชี้แจงมาชาวบ้านเข้าใจ แต่ไม่พอใจ?

เพราะมันอาจถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้บริโภคจำนวนมากรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ

ประเทศไทยใช้น้ำมันวันละ 800,000-900,000 บาร์เรล 1 บาร์เรลเท่ากับ 158.987 ลิตร ตีต่ำเท่ากับคนไทยใช้น้ำมันเกือบๆ 130 ล้านลิตรต่อวัน แล้ว 1 เปอร์เซ็นต์ตามกฎหมายกำหนดที่หายไป คิดเป็นเงินเท่าไหร่?

มันไม่รวยกันพุงกระทิปลิ้นไปแล้วหรือ?

เพราะฉะนั้นกรมการค้าภายในต้องตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง นอกจากเติมไม่เต็มลิตรแล้ว ยังมีบางปั๊มแอบเอาน้ำมันเถื่อนมาขายด้วย ไม่รู้ตรวจสอบกันหรือยัง?

เรื่องนี้ถ้าจะให้ดี “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เจ้าพ่อสอบสวนกลาง ไม่ลองส่งชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบดูบ้างหรือ?

...

เผื่อจะได้เห็นภาพใหญ่ว่า เรื่องนี้มันต่างคนต่างโกง หรือโกงกันเป็นขบวนการ...

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ "ส่องตำรวจ" เพิ่มเติม