รมว.พาณิชย์ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ลุยแหลกแจกไม่ยั้งของขวัญปีใหม่ 2567 จัดงาน “พาณิชย์...สั่งลุย! New Year Mega Sale 2024” ระหว่างวันที่ 20-24 ธ.ค. ที่ฮอลล์ 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สั่งลดราคาสินค้าตามห้างชั้นนำทั่วประเทศอีก 1 เดือนเต็ม เริ่ม 15 ธ.ค.66-15 ม.ค.67 เท่านั้นยังไม่พอ ยังมอบของขวัญให้คนไทยแบบเต็มพิกัด ด้วย “4 เพิ่ม” คือ อาชีพ-ทักษะ-โอกาส-ความสุข ผลักดันชาว SMEs ให้มีโอกาสปลดหนี้ ลดราคาแฟรนไชส์ร้านอาหาร เชื่อการสั่งลุยครั้งนี้จะช่วยลดค่าครองชีพประชาชนกว่า 4,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจร่วม 12,000 ล้านบาท เป็นการสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศในห้วงปีใหม่ที่ใกล้มาถึง
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “พาณิชย์สั่งลุย!...ลดราคาNew Year Mega Sale 2024” จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20-24 ธ.ค. ที่ฮอล์ 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตร ภาคเอกชน เข้าร่วม
นายภูมิธรรมกล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจัดงาน “พาณิชย์สั่งลุย!...ลดราคา New Year Mega Sale 2024” ขึ้นทั่วประเทศ มีการลดราคาสินค้าสูงสุดถึง 82% ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 66- 15 ม.ค. 67 รวมเวลา 1 เดือน โดยครั้งนี้มีความพิเศษอย่างยิ่งเพราะนอกจากจะได้เลือกซื้อสินค้าของใช้ อุปโภค บริโภคที่จำเป็น ที่มาจากผู้ผลิตตั้งแต่รายใหญ่ถึงรายเล็กรวมกันกว่า 390 ราย จำนวนสินค้ากว่า 40,000 รายการแล้ว ยังมีธุรกิจบริการมาร่วมอีกกว่า 1,180 รายการ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ แฟรนไชส์ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง อุปกรณ์ยานยนต์และซ่อมบำรุงรถยนต์ บัตรเครดิต อินเตอร์เน็ต อสังหา ริมทรัพย์ ประกันภัย เป็นต้น และยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับ E-commerce และ Food delivery ชั้นนำ อาทิ Shopee Lazada Robin hood Lineman Foodpanda Grab Air asiaSuperapp Kerry Jatujak mall Thailand postmart รวมทั้งลดราคาข้าวสารเพื่อประชาชน ขององค์การคลังสินค้าและอื่นๆ อีกมากมาย
...
รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์มีความตั้งใจมอบของขวัญจากกระทรวงแบบใจถึงใจ ให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ภายใต้มาตรการ 4 เพิ่ม ได้แก่ 1.เพิ่มอาชีพ จากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กระทรวงได้เตรียมการรองรับและผลักดันให้ประชาชนชาว SMEs ที่เป็นคนตัวเล็กๆ เมื่อปลดหนี้นอกระบบแล้ว ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก มีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น โดยเตรียมลดแพ็กเกจแฟรนไชส์ให้สูงสุด 30% อาทิ แฟรนไชส์ร้านอาหาร โดยจะมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแลทั้งกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรม 2.เพิ่มทักษะ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ได้เตรียมหลักสูตรสำคัญและจำเป็นแก่ SMEs ทุกท่าน ตลอด 3 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตรเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจรกับ DBD Academy (e-Learning) เช่น การบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร การเพิ่มทักษะในการทำงบดุลบัญชี การคำนวณต้นทุน การพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์ พร้อมออกหนังสือรับรองได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 พ.ย.2567 ส่วน SMEs ที่สนใจด้านการส่งออก ได้เตรียมหลักสูตรสำคัญมากมายทั้งการพัฒนาผู้ส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จัดกิจกรรมบูธ FTA Center ที่ให้ความรู้ด้านการใช้ประโยชน์จาก FTA ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 28 ธ.ค.2566
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า เพิ่มที่ 3. คือ เพิ่มโอกาส สำหรับ SMEs ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ สปา โรงแรม รีสอร์ต สามารถใช้ลิขสิทธิ์เพลงภายใต้ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่มีเพลงมากกว่า 10 ล้านเพลง แค่สมัครผ่านบริษัท โฟโนไรทส์(ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อขอรับสิทธิ์การใช้เพลงฟรี 3 เดือน พร้อมทั้งมอบส่วนลด 50-55% เป็นเวลา 1 ปี เมื่อต่ออายุการใช้งาน รวมถึงยังขยายระยะเวลาการให้บริการต่างๆ ของกระทรวง อาทิ เปิดให้บริการออกใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้า ในวันที่ 29 ธ.ค. บริการรับจดทะเบียนนิติบุคคลและออกหนังสือรับรอง ช่วงเวลา 16.30-17.30 น. ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 22 ธ.ค. รวมทั้งยังลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567-31 ธ.ค.2569 ในจังหวัดภาคใต้ คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลาสงขลา สตูล ส่วนเพิ่มที่ 4.คือเพิ่มความสุข สำหรับมาตรการช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส นอกจากให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรงเพื่อช่วยลดรายจ่ายแล้ว ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ๆได้มีช่องทางการเพิ่มรายได้และเพิ่มโอกาสของคนตัวเล็กๆอีกจำนวนมากด้วย
“การดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนเป็นเม็ดเงินสูงถึง 4,000 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม SMEs และคนตัวเล็ก ลดค่า ใช้จ่ายได้ 1,656 ล้านบาท มี SMEs ได้ประโยชน์มากกว่า 6,000 ราย ที่สำคัญจะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ได้มากกว่า 20,000 ครัวเรือน” นายภูมิธรรมกล่าว
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่