ศาลแจงคดีฉาวฝรั่งละเมิดเด็ก ตำรวจไม่คัดค้าน การประกันตัว เผ่นออกนอก

โฆษกศาลโต้ประเด็นร้อน หลังทีวี เยอรมันแพร่สกู๊ปข่าว หนุ่มเมืองเบียร์อ้างจ่ายเงิน 1 ล้านบาท ล้มคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในเมืองไทย ก่อนหลบหนีกลับบ้านเกิดสำเร็จ เผยประธานศาลฎีกาสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ด้านสำนักงานศาลยุติธรรม ออกเอกสารแจง ระบุพนักงานสอบสวนผู้ร้องไม่คัดค้าน กรณีผู้ต้องหาขอปล่อยตัวชั่วคราวและผู้ต้องหาขอเดินทางกลับประเทศ อ้างมีความจำเป็นทางธุรกิจ สุดท้าย ไม่มารายงานตัวตามนัด สั่งยึดเงินวางประกันรวม ทั้งหมด 700,000 บาท พร้อมออกหมายจับใหม่ อยู่ระหว่างตำรวจติดตามตัวส่งศาล

กลายเป็นประเด็นร้อนกระทบกระบวนการยุติธรรม กรณีสื่อโทรทัศน์ของเยอรมนีนำเสนอสกู๊ปข่าวขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย เนื้อหาช่วงหนึ่งได้สัมภาษณ์นายเจน คริช อายุ 55 ปี ชาวเยอรมัน ที่ถูกจับกุมเพราะซื้อบริการเด็กหญิงในพื้นที่เมืองพัทยา และตกเป็นผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก นายเจนอ้างว่าได้จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ไทยกว่า 1 ล้านบาท เพื่อล้มคดีจนได้เดินทางกลับบ้านเกิด ทันทีที่สกู๊ปข่าวถูกเผยแพร่ได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์เมืองไทยอย่างมาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. สำนักงานศาลยุติธรรม เผยแพร่เอกสารข่าว ตามที่ปรากฏการเผยแพร่ข้อมูลสกู๊ปข่าวล่วงละเมิดทางเพศเด็กในประเทศไทย มีผู้ต้องหาสัญชาติเยอรมัน ถูกจับและที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างถูกดำเนินคดี แต่กลับหลบหนีไม่เดินทางมารายงานตัวตามนัดหลังได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศช่วงประกันตัว

นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ประธานศาลฎีกาทราบข้อมูลตามที่ปรากฏข่าวแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจได้ติดตามความคืบหน้าและให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเหตุและข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเขตภาค 2 รวมถึงศาลจังหวัดพัทยาที่เป็นที่เกิดเหตุในกรณีนี้ ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน และลำดับเหตุการณ์ของคดีนี้ว่าเป็นมาอย่างไร เมื่อได้ผลสรุปการตรวจสอบเป็นอย่างไรแล้วจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป

คดีนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา นำตัวนายเจน คริช (Mr.Jens Krich) อายุ 55 ปี สัญชาติเยอรมัน ผู้ต้องหา มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาล จังหวัดพัทยา ครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 ก.ย.65 ถูกตั้งข้อกล่าวหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี” ตามพฤติการณ์กล่าวหากระทำต่อเด็กหญิงซึ่งร่วมประเวณี 3 ครั้ง เหตุเกิดที่คอนโดแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ช่วงเดือน มิ.ย.65 การฝากขังชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนผู้ร้องไม่คัดค้านกรณีผู้ต้องหาขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวและผู้ต้องหาไม่คัดค้านการฝากขัง ชั้นฝากขังศาลอนุญาตตามคำร้อง

ขณะที่เพื่อนคนไทยของผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน ชั้นพิจารณาชั้นอุทธรณ์/ฎีกา ให้ทำสัญญาประกัน ตีราคาประกันตามมาตรฐานกลาง วางหลัก ประกัน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้แจ้ง ตม.ทราบคำสั่งด้วย ตามสัญญาประกัน นายประกันรับว่าจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งศาลตามนัดทุกครั้ง หลังจากได้รับการปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหายังมาติดต่อขอดำเนินการต่างๆกับทางศาลอยู่

ต่อมาวันที่ 7 พ.ย.65 นายเจน ผู้ต้องหา ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยา ขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชั่วคราว ไปประเทศเยอรมนี เนื่องจากมีความจำเป็นติดต่อธนาคารที่ประเทศเยอรมนี เพื่อแสดงตนและขอให้ธนาคารเปิดการใช้ระบบการเบิกเงินออนไลน์ที่ถูกระงับไป เพราะมีผู้พยายามเข้าใช้บัญชี 3 ครั้ง และกิจการเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาร่วมทำธุรกิจกับหุ้นส่วนในประเทศเยอรมนีมีปัญหาที่เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาต้องเดินทางไปแก้ไขด้วยตัวเอง ผู้ต้องหาระบุด้วยว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาและประสงค์จะขอต่อสู้คดีถึงที่สุด ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่ 13 พ.ย.65 และจะรีบมารายงานตัวต่อศาลทันทีในวันที่ 14 พ.ย.65 ผู้ต้องหายินดีวางประกันต่อศาล โดยเสนอวางเงินสด 500,000 บาท ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือข้อบังคับที่ศาลกำหนดอย่างเคร่งครัด

ศาลพิจารณาเอกสารคำร้องและเอกสารเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ผู้ต้องหาแนบมาด้วยแล้ว อนุญาตให้ออกนอกราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศไทย มีธุรกิจในประเทศไทยมีภรรยาเป็นคนไทย และประสงค์ขอต่อสู้คดี ผู้ต้องหามีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศตามเอกสารของธนาคารและหุ้นส่วนทางธุรกิจ ให้มารายงานตัววันที่ 14 พ.ย.65 มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน แต่เพื่อเป็นการประกันการมาศาลตามกำหนด เห็นสมควรให้ผู้ต้องหาวางหลักประกันเงินสด 500,000 บาท

กระทั่งวันที่ 14 พ.ย.65 ทนายความผู้ต้องหายื่นขอขยายเวลารายงานตัวเป็นวันที่ 29 พ.ย.65 ศาลมีคำสั่งอนุญาต แต่เมื่อถึงวันนัดปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่ได้มารายงานตัว ศาลมีคำสั่งวันที่ 1 ธ.ค.65 ให้ออกหมายจับผู้ต้องหา พร้อมสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันและยึดเงินวางประกันออกนอกประเทศ รวมทั้งหมด 700,000 บาท ศาลมีหนังสือส่งถึง ผบ.ตร.ทราบในวันที่ 2 ธ.ค.65 ด้วย

วันที่ 16 ธ.ค.65 พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา นำสำนวนคดีมายื่นฟ้องนายเจน ต่อศาลจังหวัดพัทยา เป็นจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.1210/2565 ความผิดตาม ป.อ.มาตรา 91, 277, 279 ท้ายฟ้องโจทก์ระบุว่า หากจำเลยยื่นคำร้องขอประกันตัวขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ต่อมาศาลจังหวัดพัทยาได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตรวจสำนวนฝากขังแล้วพบว่าศาลมีคำสั่งออกหมายจับนายเจน เลขที่ 457/2565 ลงวันที่ 1 ธ.ค.65 และปรับนายประกัน จนถึงวันฟ้องยังจับตัวจำเลยไม่ได้ และนายประกันยังไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาล ศาลจังหวัดพัทยาให้ออกหมายจับใหม่ (ชั้นพิจารณาหลังถูกฟ้อง) และกรณียังไม่แน่ว่าจะจับตัวจำเลยได้เมื่อใด ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว หากจับตัวได้ให้อัยการโจทก์แถลงศาลเพื่อยกคดีมาพิจารณาใหม่ ศาลยังมีหนังสือแจ้ง ผบ.ตร.และเลขาฯสำนักงานศาลยุติธรรมทราบ ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างตำรวจจะติดตามตัวจำเลยตามหมายจับใหม่ มาส่งศาลเพื่อพิจารณาคดีต่อไป

วันเดียวกัน นายศุภกร โนจา หรือครูจา ผอ.ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด (บ้านครูจา) เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติที่กระทำความผิดล่วงละเมิดทางเพศเด็กจะมีทนายความคนไทยช่วยสู้คดีและประกันตัวเพื่อหาวิธีการหลบหนีกลับประเทศ ส่วนใหญ่เลือกเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายไทย วิธีการนี้จะวางหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัว และขอออกนอกประเทศ ก่อนหลบหนีไม่กลับมาสู้คดีในประเทศไทย เพราะวางหลักทรัพย์ไว้แล้วเป็นหลักล้านบาท จากนั้นจะให้ทนายความพาเด็กผู้เสียหายและครอบครัวย้ายที่อยู่อาศัย เพื่อไม่ให้รับรู้การส่งเอกสารทางราชการจากศาล และจ่ายเงินเป็นค่าดูแล เลี่ยงการถูกดำเนินคดีในประเทศไทย ในบางคดีเจ้าหน้าที่ขอหมายจับสากลดำเนินคดี และขึ้นศาลในต่างประเทศก็มี แต่ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่รัฐว่าใส่ใจในส่วนนี้หรือไม่

“ชาวต่างชาติที่มีรสนิยมใคร่เด็ก จะตั้งกลุ่มชื่อ Peadeo Phile Group (เพโดฟายล์กรุ๊ป) มีคนไทยเป็นธุระจัดหาเด็กทั้งหญิงชายมามีเพศสัมพันธ์ นิยมมากสุดคืออายุ 13 ปีลงไป จะรวมกลุ่มกันที่บาร์เบียร์ในพัทยา ย่านหาดดงตาล ซอยบัวขาว หลังตึกคอมพัทยาใต้มีสัญลักษณ์กลุ่ม เช่น ใส่ตุ้มหูรูปต่างๆ รู้กันเฉพาะกลุ่ม หรือรอยสักเฉพาะที่แขน ชาวต่างชาติกลุ่มนี้บางส่วนที่อยู่ในไทยมานานจะเช่าบ้านอยู่ และเข้าไปยังแหล่งชุมชนชาวประมง ออกอุบายเสนอเงินให้ใช้และซื้อของที่มีมูลค่าเพื่อชักจูงเด็กไปมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้วิธีหาหญิงสาวคนไทยที่มีลูกติดแต่งงาน เพื่อจุดประสงค์การมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหา และผลักดันชาวต่างชาติเหล่านี้ออกนอกประเทศ ไม่ให้เด็กไทยตกเป็นเหยื่อทางเพศ” นายศุภกรกล่าว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่