ผศ.ดร.มานพ แย้มแฟง นักวิจัยและอาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เผยว่า การลดความชื้นเมล็ดข้าวเปลือกเป็นปัญหาที่ชาวนารายย่อยส่วนใหญ่ของประเทศไทยต้องพบเจอเป็นประจำในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปี เนื่องจากข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาจากแปลงนาโดยทั่วไปมีความชื้นอยู่ในช่วง 25-30% ชาวนาจะขายข้าวให้ได้ราคาจะต้องลดความชื้นของข้าวเปลือกให้เหลือ 13-14% เพื่อความเหมาะสมในการเก็บรักษา และอีกปัญหาที่ชาวนาในปัจจุบันมักจะพบเจอนั่นคือ ไม่มีพื้นที่ตากข้าวเปลือก เพื่อลดความชื้นเมล็ดข้าวเปลือก เกษตรกรบางคนใช้พื้นที่ถนนสาธารณะตากข้าวเปลือก นอกจากจะผิดกฎหมาย ยังเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ

...

“เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงร่วมกับ นายดาริส แอนดริส นายพรหมพิริยะ พงศ์ทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 พัฒนาและออกแบบเครื่องลดความชื้นเมล็ดข้าวเปลือกเพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรรายย่อย ที่มีจุดเด่นในเรื่อง สามารถลดระยะเวลาการลดความชื้นจากที่ต้องใช้เวลา 1-3 วัน ลงมาเหลือแค่เพียง 3 ชั่วโมง และลดการใช้พื้นที่ในการตากแห้งจาก 40 ตร.ม. ให้เหลือเพียง 3 ตร.ม.”

ผศ.ดร.มานพ บอกถึงการทำงานของเครื่องลดความชื้นเมล็ดข้าวเปลือกด้วยว่า ได้ออกแบบการลดความชื้นด้วยการแหล่งความร้อนจากก๊าซ LPG ที่อุณหภูมิ 70 เซลเซียส มีระบบผลิตลมร้อนประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ก่อนส่งเข้าไปในห้องลดความชื้น สามารถลดความชื้นเมล็ดข้าวเปลือกได้ครั้งละ 300 กิโลกรัม และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำตันละ 230 บาท สามารถใช้งานได้ในทุกฤดูกาล นอกจากนี้เมล็ดข้าวเปลือกที่ผ่านการอบแห้ง มีเปอร์เซ็นต์การงอกอยู่ในระดับที่ดีมากที่ 90-94%

ปัจจุบันเครื่องดังกล่าวได้ยื่นจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์และอนุสิทธิบัตร เกษตรกรรายย่อยสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ผศ.ดร.มานพ โทร. 086-663-4562.

คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม