สงคราม อิสราเอล–ฮามาส เป็นตัวอย่างของโศกนาฏกรรมการทำลายล้างและนวัตกรรมทางสงคราม ที่ไร้ความปรานี เทคโนโลยีถูกออกแบบนำมาใช้ในการรบ ทำให้ประสิทธิภาพการทำลายสูงขึ้นและเป็นการชี้วัดว่า โลกเรากำลังเข้าสู่คลื่นลูกใหม่ ที่ใช้มันสมองของมนุษย์บวกกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการป้องกันตัวเองและเอาชนะสงครามในทุกรูปแบบ

และผลกระทบจากสงครามเทคโนโลยี มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยตรง สงครามยูเครน-รัสเซีย จนถึง อิสราเอล-ฮามาส ทำให้เห็นความสำคัญของ พลังงาน เทคโนโลยี มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว องค์กรด้านพลังงานและเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจสำคัญต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศไปแล้ว

 เอ่ยชื่อ ปตท. ที่มี อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นหน่วยงานที่มีส่วนช่วยสนับสนุนทุกครั้งที่เกิดวิกฤติพลังงานในประเทศ นอกจากวิกฤติสงครามแล้ว ความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ ปตท.ไม่ได้มองแต่การแสวงหากำไร ซึ่งมีการปรับลดลง ทั้งค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนการเงินและภาษีเงินได้ จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น จากกำไรขั้นต้นการกลั่นที่ลดลงและผลกำไรสต๊อกน้ำมันลดลง

ใน 9 เดือนแรกของปีนี้ ปตท.และบริษัทย่อย มีรายได้ ที่ 2,337,438 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 79,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 ในขณะเดียวกัน ปตท.ต้องช่วยสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ลดราคาก๊าซ ราคาน้ำมัน ต้นทุนการผลิตไฟฟ้า รวมแล้วตั้งแต่เกิดวิกฤติปี 2563 ถึงปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท

ภายใต้เป้าหมายการดำเนินงาน ปตท.ตามวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ประกาศเจตนารมณ์มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 โดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจพลังงานสะอาด หรือพลังงานในอนาคต พลังงานในระบบหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน ห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงพลังงานจาก ไฮโดรเจน

...

ในขณะเดียวกันเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ปตท.ทำธุรกิจสนับสนุนการขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนควบคู่ไปกับธุรกิจพลังงาน อาทิ ธุรกิจยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเคมีภัณฑ์มูลค่าสูง ธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงธุรกิจหุ่นยนต์และระบบปัญญาประดิษฐ์

ปตท.เตรียมงบประมาณเพื่อการลงทุนใน 5 ปีนี้ (2566-2570) จำนวน 100,227 ล้านบาท และงบลงทุนในอนาคต 5 ปีอีก 302,168 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและสอดคล้องเจตนารมณ์ดำเนินธุรกิจเพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมองเห็นความสำคัญของความเข้มแข็งของชุมชน ความสำคัญทางการศึกษา ผลการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมของ ปตท.ได้รับรางวัลความเป็นเลิศแห่งเอเชียและระดับสากลกว่า 22 รางวัล เป็นการพิสูจน์ผลงานของ ปตท.และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ในโลกของพลังงานและเทคโนโลยี.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม