ในวันที่โลกกำลังถูกท้าทายด้วยวิกฤติต่างๆ รอบด้านที่ส่งโดยตรงต่อสุขภาพของคนทั้งโลก การสร้างการตระหนักรู้ถึงผลกระทบเหล่านั้น รวมถึงร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อรับมือ นับเป็นความท้าทายของทุกประเทศทั่วโลกมากขึ้น การประชุมเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 The 20th International Network of Health Promotion Foundations 2023 (The 20th INHPF Annual Meeting 2023) ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี สสส.ของไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมกับการตบเท้าจากผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายประเทศทั่วโลกกว่า 300 คน ถือเป็นเครื่องยืนยันอีกครั้งว่า โลกใบนี้ยังมีผู้คนที่เชื่อในพลังของการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็พร้อมจะผสานองค์ความรู้และประสบการณ์ ร่วมสร้างการตระหนักรู้ รวมถึงผลักดันให้เรื่องสุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนทุกสังคมบนโลกอย่างแท้จริง

โลกยังต้องการการเปลี่ยนแปลง

การประชุมเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ The 20th International Network of Health Promotion Foundations 2023 (The 20th INHPF Annual Meeting 2023) ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 จัดขึ้นผ่านแนวคิด “ก้าวต่อไปของเครือข่าย สสส.โลก: ขับเคลื่อนนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพสู่สุขภาวะที่เป็นธรรม” (The Next Step of INHPF: Accelerating Health Promotion Innovations towards Equitable Well-being) ด้วยจุดมุ่งหมายสำคัญคือการร่วมกันถอดบทเรียนความสำเร็จในการทำงานด้านการเสริมสร้างสุขภาพของประเทศต่างๆ ที่ทำงานภายใต้เครือข่ายของ สสส.โลก (International Network of Health Promotion Foundations) พร้อมกับผสานพลังกันต่อไปอย่างต่อเนื่องในมิติต่างๆ เพื่อให้ก้าวทันสถานการณ์ด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในวันที่โลกเต็มไปด้วยความท้าทายด้านสุขภาพมากมาย ที่ไม่ใช่เพียงโรคเกิดใหม่ ภาวะโรคซ้ำซ้อนต่างๆ แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในมิติอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพและสุขภาวะอีกมาก โดยครั้งมี นพ.อเลสซานโดร ดีเมโย ประธานเครือข่ายกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ The International Network of Health Promotion Foundations-INHPF และผู้จัดการกองทุน สสส. แห่งรัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลีย และผู้ทรงคุณวุฒิจากเครือข่าย สสส.โลก เข้าร่วมงานสำคัญในครั้งนี้ด้วย

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนั้น ความสำเร็จในการก่อตั้ง สสส. ก็เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ และได้รับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้จากเครือข่าย INHPF (The International Network of Health Promotion Foundations) หรือ สสส.โลก ด้วยเช่นกัน ซึ่งการมองเห็นความสำเร็จจากการทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพประชากร ผ่านการดำเนินงานของกองทุนสร้างเสริมสุขภาพของเครือข่าย INHPF ในครั้งนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งสู่การขับเคลื่อนประเทศไทยไปในทิศทางใหม่ที่มีเรื่องสุขภาพของคนทุกกลุ่มเป็นแรงหนุนสำคัญ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความสำเร็จที่เกิดขึ้นยังหมายถึงภาพรวมด้านสุขภาพของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย นอกจากนี้การก่อตั้งและดำเนินงานของ สสส.ไทยเองก็ได้กลายมาเป็นบทเรียนความสำเร็จให้แก่ประเทศต่างๆ ที่มีความมุ่งมั่นจะเดินในแนวทางเดียวกันนี้ โดย ดร.สุปรีดา ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมา สสส. ก็มีโอกาสเปิดบ้านเพื่อให้ประเทศต่างๆ ได้เข้ามาศึกษาดูงานรวมถึงให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้เพื่อให้หน่วยงานด้านสุขภาพในประเทศเกิดขึ้นได้จริง

นพ.อเลสซานโดร ดีเมโย ผู้จัดการกองทุน สสส. แห่งรัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลีย ในฐานะประธานเครือข่ายกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ (The International Network of Health Promotion Foundations-INHPF) กล่าวเพิ่มเติมว่า 23 ปีที่ผ่านมา เครือข่าย INHPF หรือ สสส.โลก เองก็ได้เดินทางพร้อมทั้งเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย ร่วมกับประเทศต่างๆ ที่ทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพประชากรผ่านการดำเนินงานของกองทุนสร้างเสริมสุขภาพเช่นกัน เพียงแต่ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างในวันนี้ ความสำเร็จอาจไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การสามารถก่อตั้งองค์กรเพื่อการทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพประชากรให้ได้เท่านั้น แต่คือการสามารถร่วมมือและผสานการทำงานกันได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย โดยเฉพาะวันนี้ที่ความท้าทายใหม่ๆ เดินเข้ามามากมาย จนกลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องรับมือไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารทำลายสุขภาพ ซึ่งล้วนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญมากขึ้นเรื่อยๆ การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นความร่วมมือกันอีกครั้งที่จะช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถเรียนรู้การทำงาน และนำไปประยุกต์ใช้ตามบริบทของแต่ละประเทศได้ในแบบชัดเจนขึ้น

สอดคล้องกับ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และที่ปรึกษาเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ (INHPF Advisor) ได้กล่าวไว้บนเวทีปาฐกถาพิเศษ : “23 ปีของการเดินทางเครือข่าย INHPF ที่ยังคงมุ่งมั่นต่อไป” (The Journey of INHPF : 23 Years and Counting) ว่าการประชุมครั้งนี้คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย INHPF ผ่านการแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ พร้อมกันนั้นยังช่วยส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือในการทำงานซึ่งกันและกันได้มากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการร่วมประกาศจุดยืน และยกระดับงานสร้างเสริมสุขภาพไปสู่วาระสุขภาพระดับโลกไปด้วย ซึ่งการได้มองย้อนไปถึงแนวทางความสำเร็จที่ผ่านมาของประเทศต่างๆ ที่ทำงานภายใต้เครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพแล้ว การประชุมครั้งนี้นับเป็นอีกโอกาสหนึ่งของการแบ่งปันแนวทางที่มีประโยชน์ เพื่อหาทางออกและรับมือกับภาวการณ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากขึ้นได้อีกด้วย

บทเรียนความสำเร็จเพื่อการเดินหน้า

การประชุมครั้งนี้ยังจัดให้มีการเสวนา “การขับเคลื่อนนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพมุ่งสู่สุขภาวะที่เป็นธรรม” (Health Promotion Innovations towards Equitable Well-being) ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานจากทุกประเทศได้เห็นถึงแนวทางการทำงานด้านการเสริมสร้างสุขภาพของ 3 ประเทศที่มีแนวทางความสำเร็จที่น่าสนใจ โดยหนึ่งในนั้นคือ สิงคโปร์ (Health Promotion Board, Singapore; Singapore HPB) ที่อาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เข้าไปช่วยในการทำงาน เพื่อการเข้าถึงประชากรกลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้น ผ่านการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันอย่าง Healthy 365 ซึ่งได้จับมือภาคีเครือข่ายเพื่อให้สามารถเข้าถึงประชากรกลุ่มเปราะบางได้มากขึ้น

การทำงานผ่านการร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และการสามารถประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องสุขภาพประชากร ยังนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการทำงานด้านการเสริมสร้างสุขภาพของประเทศต่างๆ ซึ่งไต้หวัน (Taiwan Health Promotion Administration; Taiwan HPA) ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ทั้งนี้ได้มุ่งทำงานด้านการเสริมสร้างสุขภาพของแม่และเด็ก เพื่อการตั้งครรภ์คุณภาพ และรับมือกับภาวการณ์เกิดต่ำ โดยปัจจุบันได้ร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่าย ทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถเข้าประชากรกลุ่มต่างๆ รวมถึงประชากรห่างไกลจากเมือง ผ่านการทำงานกันของเครือข่ายในระดับชุมชน ทั้งนี้เป้าหมายที่มีร่วมกันคือ การให้ความรู้ความเข้าใจต่อผู้หญิงตั้งครรภ์และคุณแม่ ตั้งแต่การดูแลทั้งสุขภาพครรภ์ และลูกน้อยในอนาคตด้วย

สำหรับประเทศไทยนั้น ที่ผ่านมา สสส. หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพของไทย ได้ผสานการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรมเช่นกัน ซึ่งนั่นถือเป็นหนึ่งในแนวทางความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วย ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวบนเวทีเสวนาในครั้งนี้ว่า สสส. ยังพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนสู่ทศวรรษหน้าอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้การสร้างเสริมสุขภาพเป็นเรื่องของทุกคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยยังจะยึดแนวทางที่ขับเคลื่อนต่อไปอย่างต่อเนื่อง และเสริมในประเด็นที่น่าสนใจมากสำหรับเดินหน้าสู่ศตวรรษที่ 21 นั่นคือ การเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างสุขภาพจากสุขภาวะภายในที่หมายถึงจิตวิญญาณภายในที่ส่งผลต่อสุขภาพภายนอก รวมถึงความราบรื่นของในการดำรงชีวิตในแง่มุมต่างๆ และสุขภาพในเชิงจิตวิญญาณอาจสามารถเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญอีกหนึ่งชิ้น เพื่อการรับมือกับโลกในอนาคตที่จะมีวิกฤติต่างๆ เกิดขึ้นตามมาได้อีกมากเช่นกัน

การประชุมเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 The 20th International Network of Health Promotion Foundations 2023 (The 20th INHPF Annual Meeting 2023) ในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.รูดิเกอร์ เครซ (Dr Rudiger Krech) ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพองค์การอนามัยโลก แสดงทรรศนะผ่านระบบวิดีโอทางไกลจากสำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับ “ทิศทางและมุมมองระดับโลกด้านการเสริมสร้างสุขภาพ ในศตวรรษที่ 21” (A Global View of Health Promotion in the 21st Century) ที่ทุกฝ่ายต้องเตรียมความพร้อมรอบด้านเพื่อรับวิกฤติด้านสุขภาพ หรือโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทั้งนี้การถอดบทเรียนครั้งสำคัญจากการรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากสามารถเห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่งว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนครั้งนั้น ประชาชนหรือพลเมืองของประเทศต่างๆ ก็หวังจะได้เห็นการรับมือที่เป็นรูปธรรม ในขณะเดียวกันก็ปรารถนาการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่อวิกฤติมากขึ้นด้วย

แม้การเดินทางเพื่อการผลักดันให้สุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนทุกสังคมบนโลกนี้ จะไม่ใช่เรื่องง่าย และสามารถเป็นไปได้ในเร็ววัน แต่การผลักดันร่วมกันของสำนักส่งเสริมสุขภาพจากประเทศต่างๆ รวมถึงภาคีเครือข่ายที่มองเห็นความสำคัญด้านนี้อย่างแท้จริง ความหวังก็จะอยู่ไม่ไกล การประชุมเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 (The 20th International Network of Health Promotion Foundations 2023) จึงถือเป็นการเดินทางครั้งสำคัญอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่ายังมีคนพร้อมเพื่อขับเคลื่อนโลกใบนี้ไปสู่ทิศทางที่ดีต่อไป