นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารและการออกประกาศกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ (ชั่วคราว) อัตรา 15 บาท รวมเส้นทางหลักไม่เกิน 62 บาท โดยปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ให้กระทรวงคมนาคม และ กทม. ภายใต้กระทรวงมหาดไทย บูรณาการเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าโดยสารแรกเข้าและการใช้ระบบตั๋วร่วมให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2566 เรื่องการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ กทม.ปฏิบัติตามมติ ครม.ดังกล่าวด้วยนั้น ทางกระทรวงคมนาคมไม่ขัดข้อง โดยมอบให้ฝ่ายกฎหมาย กทม.ตรวจสอบรายละเอียด พร้อมกับยกร่างประกาศฯ หากไม่มีปัญหาติดขัดอะไร คาดว่าจะเสนอร่างประกาศฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยมีผลบังคับใช้หลังประกาศ 30 วัน คาดว่าจะเริ่มเก็บประมาณปลายเดือน ธ.ค.นี้ หรืออย่างช้า ต้นเดือน ม.ค.67
นายวิศณุกล่าวว่า ส่วนเรื่องการเตรียมความพร้อม ก่อนหน้านี้ได้มีการประสาน บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ BTSC ซึ่งติดตั้งระบบจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ปัจจุบันระบบยังไม่ได้มีการเก็บเงินเท่านั้น หากจะเริ่มเก็บก็ต้องเซตระบบกันใหม่ใช้เวลาประมาณ 20 วัน โดยรายได้ค่าโดยสารทั้งหมดเอกชนจะต้องส่งให้ กทม. ส่วนเอกชนจะได้รับเงินเป็นค่าจ้างเดินรถไฟฟ้ารายเดือน อย่างไร ก็ตาม การจ่ายค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า กทม.อาจจะยังไม่สามารถจ่ายให้ได้ทันทีหลังเริ่มมีการเก็บ
ค่าโดยสาร เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟ้องร้องคดี และเกี่ยวโยงคำสั่ง คสช.มาตรา 44 เรื่องการขยายสัญญาสัมปทานเดินรถหักลบมูลหนี้ค่าติดตั้งระบบ E&M และค่าจ้างเดินรถ O&M หาก ครม.เห็นชอบ กทม.ไม่ต้องจ่ายหนี้ทั้งสองส่วน จึงต้องรอความชัดเจนจาก ครม.ก่อน.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่