นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาหาแนวทางลดผลกระทบการจราจรจากการดำเนินการในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (ช่วงแยกแคราย-เกษตรนวมินทร์-แยกลำสาลี) ระยะทาง 22.1 กม. ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปถึงแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาบริเวณแยกพงษ์เพชร โดยไม่ต้องมีการเวนคืนที่ดินจากประชาชนเพื่อสร้างสถานีและแนวเขตทางผิวจราจร ซึ่งทำให้ประชาชนกว่า 96 ครัวเรือน บริเวณดังกล่าวไม่ต้องถูกเวนคืนและทำให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณกว่า 1,250 ล้านบาท มาเวนคืนที่ดิน
นอกจากนั้น ในส่วนการก่อสร้างที่มีโครงการทับซ้อนกันในโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่มีแนวก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางด่วนสายเหนือขั้นที่ 1 หรือ N1 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ที่รูปแบบก่อสร้างจะเป็นการขุดอุโมงค์ กับ รฟม. นั้น ทาง กทพ.และ รฟม.ตกลงร่วมกันที่จะมีการก่อสร้างแบบ บูรณาการร่วมกันในการก่อสร้าง ลงเสาเข็มกลุ่มพร้อมกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการจราจร ส่วนช่วงบริเวณจุดแยกเกษตร นวมินทร์-ลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นจุด N1 ที่พ้นการลอดอุโมงค์มาชนช่วงก่อสร้าง เชื่อมต่อกับ N2 และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ให้มีการปรับแบบการเชื่อมต่อ ให้กระทบการก่อสร้างสายสีน้ำตาล ให้น้อยที่สุด
“รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล เส้นทางนี้จะเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) โครงสร้างยกระดับจำนวน 20 สถานี ที่สำคัญ คือ เป็นรถไฟฟ้าที่มีแนวเส้นทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 7 สายทางใน 5 จุดหลัก โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีชมพู ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่สถานีบางเขน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่บริเวณสถานีแยกเกษตร และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเทา ที่สถานีต่างระดับฉลองรัช และเมื่อเดินทางมาสิ้นสุดเส้นทางที่แยกลำสาลียังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วย ซึ่งมีการประเมินปริมาณผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้เส้นทางนี้ประมาณ 218,547 คน-เที่ยว/วัน”.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่