"เบนซ์ เรซซิ่ง" เปิดใจหลังพ้นจากเรือนจำ 4 ปี เล่าสิ่งที่เสียไประหว่างสูญเสียอิสรภาพ พร้อมตอบสถานะล่าสุดกับ แพท ณปภา เผยจะเป็นพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์ แต่ทางคู่รักคงเลยขั้นนั้นมาไกลแล้ว

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เปิดใจหลังพ้นจากเรือนจำ 4 ปี

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากการจับ ไซซะนะ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ และกลายเป็นว่ามีข่าวพัวพันกับตนเป็นข่าวใหญ่โต และมี นายบอย มีข่าวว่าโอนเงินมาหา

ในทางคดีของตนจะเกี่ยวกับนายบอย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายไซซะนะ ซึ่งคดีของตนไม่มีเรื่องยาเสพติด แต่ไปเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน เนื่องจากมีการไปแตะบัญชีกับ นายบอย ซึ่งนายบอยเป็นลูกค้ามาซื้อรถกับตน ทำให้มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกัน 

ซึ่งทางตำรวจตั้งข้อหาว่า ตนสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเปิดบัญชีรับโอนเงินค้ายาเสพติด ซึ่งตนได้ปฏิเสธ และแสดงความบริสุทธ์ใจมาโดยตลอดว่ามีการโอนเงินจริง แต่เป็นการโอนเงินจากการทำธุรกิจ ซึ่งส่วนนี้เป็นการต่อสู้ในชั้นศาล ในส่วนของตนจะเป็นเรื่องสมคบการฟอกเงิน และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า ในช่วงนั้นเป็นจุดสูงสุดในชีวิต เป็นการเริ่มต้นที่ดีมาตลอด ทั้งอาชีพ หน้าที่การงาน ภรรยา และมีลูกชายคนแรก จนลูกจะคลอดก็มีปัญหาถาโถมรุนแรงมาก ตอนนั้นตนทำธุรกิจซุปเปอร์คาร์ ซึ่งมีลูกค้าหลากหลายอาชีพอยู่แล้ว เราเองก็อยากขายของ และเราไม่รู้ว่าลูกค้าแต่ละคนทำงานอะไร ได้เงินมาจากอะไร ซึ่งถามไปเขาก็คงไม่บอก 

...

เรื่องคดีฟอกเงิน ตนขออนุญาตศาลฎีกาเพื่อจะสู้ต่อ แต่คดีไม่ได้ถึงศาลฎีกา สิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์จำคุก 3 ปี 4 เดือน รวมทั้งหมดที่ตนอยู่ในเรือนจำทั้งหมดประมาณ 4 ปีกว่า แต่คดีเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงวันนี้ก็เกือบ 7 ปีแล้ว ส่วนคดียาเสพติดมีคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งเรื่องยาเสพติดตนปฏิเสธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว 

"ชีวิตนี้สาบานเลยว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ร่างกายผมไม่เคยมีสารเสพติดทุกชนิดเข้าร่างกายเลย อยู่ดีๆต้องมามีคดียาเสพติด สังคมตัดสินผมไปแล้วว่าผมจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด ผมจะเดินทางไปไหนมาไหนก็กลายเป็นส่วนหนึ่งกับนักค้ายาไปแล้ว 

จริงๆ วันนี้คดีสิ้นสุดแล้ว คนที่รักเราก็มี คนที่ไม่ชอบเราก็มี ผมไม่อาจเปลี่ยนใจใครได้ สุดท้ายแล้วผมขอแคร์คนรอบข้าง คนในครอบครัวดีกว่า ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่ได้รับการปล่อยตัว เหมือนหลุดพ้นทุกอย่าง น้ำตาไหลออกมา วันนี้เราสู้มาถึงที่สุดแล้ว เป็นวันที่รอคอยมาทั้งชีวิต เป็นวันดีใจที่สุด"

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า ตนเคยอยู่ในเรือนจำตอนศาลชั้นต้น 1 ปี 3 เดือน แต่ตอนสู้ชั้นฎีกาเครียดมาก ใช้เวลานานมาก 2 ปี 8 เดือน ทุกวันนี้ออกมายังปรับตัวไม่ได้ ยังไม่ชินกับโลกภายนอก ยังตื่นคน ยังไม่ชินกับคนเยอะๆ สาเหตุที่ออกมาเปิดใจเพราะอยากแชร์ความรู้สึกจากคนที่สู้คดีที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ อยากเป็นกระบอกเสียงคนที่ไม่ได้ทำผิดแล้วอยากสู้คดี ซึ่งไม่มีโอกาสได้พูดเหมือนตน อะไรที่ผมสามารถทำได้เพื่อช่วยคนอื่นก็ยินดี

ในเรื่องของคดี เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวอีกว่า ผู้ที่ถูกแจ้งข้อหาพร้อมกันอีก 2 คน ยืนยันว่าไม่รู้จักทั้ง 2 คนเป็นการส่วนตัว แต่พฤติการณ์พวกเขาจะชัดเจนกว่าในการเปิดบัญชีโดยตรง ส่วนตนใช้บัญชีของตัวเองในการทำธุรกิจตั้งแต่ต้น เปิดมา 20 ปีแล้ว คงไม่ใช้บัญชีตัวเองมาทำเรื่องแบบนี้

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า คดีของตนเป็นคดีที่สื่อให้ความสนใจทำให้มีทนายติดต่อเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการประกันตัว เรื่องคดี มีติดต่อเข้ามาหลายราย เมื่อถึงเวลาไม่สามารถทำเรื่องได้ เขาก็ไม่คืนเงิน มีทั้ง 3 ล้าน 6 ล้าน บางรายเรียกเงินสูงถึง 20 ล้านก็มี แต่เราไม่เอาเพราะโดนหลอกไปเยอะ ในส่วนที่โดนโกงไป ทำสัญญาจ้างไป 3 ล้าน 1 แสนบาท ขณะนี้เป็นคดีฟ้องร้องกันอยู่ 

"สิ่งที่สูญเสียที่สุดคือ โอกาสที่ผมจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ผมเพิ่งจะมีลูกคนแรก เพิ่งแต่งงาน แต่ทุกอย่างก็พังทลายไปเพราะโดนคดี ซึ่งผมไม่สามารถย้อนเวลาได้ หากย้อนได้แล้วต้องจ่ายเงินผมก็ยอมจ่าย ตอนที่ผมอยู่ข้างใน ผมไม่เคยทำใจได้เลย ต้องพลัดพรากจากลูกไปตั้งแต่ลูก 3 เดือน"

เบนซ์ เรซซิ่ง ตอบสถานะ แพท ณปภา

ตอนนี้ได้เจอลูกแล้ว รู้สึกดีที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่ต้องเข้าไปอีก สถานะความเป็นครอบครัวกับแพทตอนนี้ สถานะตอนนี้ชัดเจนว่าเราจะเป็นพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์ แต่ทางคู่รักคงเลยขั้นนั้นมาไกลแล้ว ตอนนี้ผมรักตัวเอง รักครอบครัว และต้องให้ความสำคัญกับคุณแม่มากๆ เพราะตลอดเวลาที่มีคดีมา คุณแม่เป็นคนที่เหนื่อยที่สุด หากไม่มีท่านผมคงไม่ได้ออกมา อาจจะสู้คดีแพ้แล้วก็ได้ ตอนนี้คุยกันแล้ว เราจะหาเวลา แบ่งเวลากันว่าใครจะทำอะไร เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด 

...

ถ้าวันนั้นไม่มีคดี ผลของวันนี้อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ ผมไม่เคยคิดว่าจะส่งผลกระทบขนาดนี้ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะไปใช้ชีวิตในเรือนจำ 

ด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในกรณีที่ตกเป็นแพะกับเรื่องของการขังคุกเกิน ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือกรณีที่ข้อหายกฟ้องคดียาเสพติด ต้องดูคำพิพากษาฎีกาว่าลงไว้อย่างไร หากคำพิพากษาระบุว่า จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด โดยทั่วไปจะเข้าเงื่อนไขการเยียวยา ซึ่งจะมีค่าตอบแทนค่าเสียหาย ส่วนกรณีการขังเกินเวลา จะไปใช้ในส่วนของกองทุนยุติธรรม ซึ่งการเยียวยาจะเยียวยาตามค่าแรงขั้นต่ำ ตามจำนวนวันที่ถูกขังเกิน 

อย่างไรก็ตาม เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า สุดท้ายแล้วได้รับเงินเยียวยาจะขอนำเงินไปบริจาคทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราเสียไปมากกว่านั้น ไม่สามารถนำมาเทียบกันได้ มันไม่คุ้มค่ากับการที่เราต้องเข้าไปอยู่ข้างในเรือนจำ.