ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แจง “สลาก L6” มีการพิมพ์ลายน้ำเส้นไหมสอดแทรกในเนื้อกระดาษและพิมพ์สัญลักษณ์ป้องกันการปลอมแปลง รางวัลและเงินรางวัลยังเหมือนเดิมทุกประการ เปลี่ยนแปลงเพียงเพิ่มโลโก้ L6 ไว้บนสลากใบและสลากดิจิทัล ส่วนสลากการกุศลไม่มีโลโก้ L6 ผู้ซื้อไม่ต้องกังวลเพราะเป็นสลากถูกต้องตามกฎหมาย หากถูกรางวัล สำนักงานสลากฯพิสูจน์ได้ว่าเป็นสลากจริงหรือปลอม ขณะที่สลากดิจิทัลไม่มีการพิมพ์แบบใบแล้วสแกนเข้าระบบแบบแต่ก่อนแล้ว ผู้ซื้อสลากดิจิทัลจะเห็นสัญลักษณ์ L6 ชัดเจนบนสลากของตัวเอง

พันโทหนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ถึงเรื่องประเภทและรูปแบบกับการจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักหรือ Lottery 6:(L6) ที่มีการประกาศและจัดจำหน่ายไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.ว่า เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ฉบับแก้ไข ให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายครบถ้วน

พันโทหนุนกล่าวอีกว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล L6 หรือลอตเตอรี่ L6 แบบใบจะมีลักษณะเหมือนสลากฯที่ขายอยู่ในปัจจุบันทุกประการคือ มีการพิมพ์บนกระดาษป้องกันการปลอมแปลง มีลายน้ำเส้นไหมสอดแทรกอยู่ในเนื้อกระดาษ พิมพ์สัญลักษณ์ป้องกันการปลอมแปลงต่างๆ รวมถึงพิมพ์ข้อความ L6 แบบใบลงบนสลากด้วย ขณะที่สลากดิจิทัลจะไม่มีการพิมพ์ขึ้นมาเป็นใบอีก แต่เป็นข้อมูลที่อยู่ในระบบดิจิทัล มีการพิมพ์ข้อความ L6 แบบดิจิทัลบนสลาก ซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง จากเดิมสลากดิจิทัลต้องพิมพ์เป็นสลากใบก่อนแล้วนำไปสแกนเข้าระบบ ผู้ซื้อขอเก็บสลากใบได้ แต่จากนี้ไปไม่พิมพ์ออกมาเป็นใบแล้ว ผู้ซื้อสลากดิจิทัลจะเห็นสัญลักษณ์ L6 ชัดเจน บนสลากของตัวเอง

ผอ.สำนักงานสลากฯเผยอีกว่า ส่วนสลากการกุศลที่ออกตามมติ ครม.เป็นครั้งคราว เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ไม่มีการพิมพ์สัญลักษณ์ L6 บนสลากแบบใบ แต่ออกรางวัลและเงื่อนไขเงินรางวัลเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ซื้อสลากที่เป็นสลากการกุศลไม่ต้องกังวล หากถูกรางวัลสามารถขึ้นรางวัลได้เช่นเดิม โดยสลากกุศลที่เป็นสลากใบจะมีงวดละ 11 ล้านใบสัดส่วนของรายได้จากการจำหน่ายการกุศล 60% จะเป็นเงินรางวัล 23 % เป็นเงินของรายได้หน่วยงานที่ออกสลากการกุศล และ 17% เป็นค่าบริหารจัดการสลาก ขณะที่สลากกินแบ่งรัฐบาล L6 ที่จำหน่ายทั้งสลากแบบใบและแบบดิจิทัล รายได้ 60% เป็นเงินรางวัล 23% เป็นรายได้ของรัฐ และ 17% เป็นค่าบริหารจัดการ

...

พันโทหนุนกล่าวต่อว่า ส่วนการออกรางวัลและจำนวนเงินรางวัล ยังเหมือนเดิมทุกประการ แบ่งเป็นรางวัลของสลากใบ 80 ล้านใบ ดังนี้ รางวัล จำนวน มูลค่า (บาท) 1.รางวัลที่หนึ่ง 1 รางวัล 6,000,000 บาท 2.รางวัลที่สอง 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท 3.รางวัลที่สาม 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท 4.รางวัลที่สี่ 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท 5.รางวัลที่ห้า 100 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท 6.รางวัลข้างเคียงรางวัลที่หนึ่ง 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท 7.รางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท 8.รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท 9.รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1 ครั้ง รางวัลละ 2,000 บาท

พันโทหนุนกล่าวต่อว่า สลาก L6 เปิดขายงวดแรกวันที่ 1 ต.ค.2566 เป็นการจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.ส่วนสลากใบหาซื้อได้ตามแผงขายทั่วไป โดยสลากแอล 6 จะมีขายทั้งแบบสลากใบและสลากดิจิทัล รวม 101 ล้านฉบับ แบ่งเป็น สลากใบ 80 ล้านฉบับ สลากดิจิทัล 21 ล้านฉบับ การขึ้นเงินรางวัลสลาก L6 แบบใบ ขึ้นเงินได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสินทุกสาขา โดยนำสลากใบที่ถูกรางวัล พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ในส่วนการขึ้นเงินรางวัลผ่านธนาคาร ยังคงขึ้นได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1

ผอ.สำนักงานสลากฯกล่าวด้วยว่า ส่วนสลาก 6 หลักหรือแอล 6 แบบดิจิทัล ระบบจะตรวจสอบการถูกรางวัลอัตโนมัติ ผู้ซื้อเลือกรับเงินรางวัลโดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย หรือเข้าจี วอลเล็ต ของผู้ซื้อได้ภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง สำนักงานสลากฯ ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนผู้ซื้อเข้าถึงสลากราคา 80 บาท โดยจะพิจารณาความเหมาะสมตามภาวะตลาดแต่ละงวด และไม่กระทบสลากแบบใบในระบบที่มีอยู่ 80 ล้านใบ จะทยอยเชิญรายย่อยที่ลงทะเบียนเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลมาทำสัญญา รวมทั้งยังเปิดให้ตัวแทนประเภทบุคคลรายย่อยทั่วไป คนพิการ สมาคม องค์กร มูลนิธิ และผู้มีสิทธิทำรายการ ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แจ้งความประสงค์โดยสมัครใจเข้าร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล L6 ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.-28 ต.ค.66 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th  อีกด้วย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่