ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2566 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการและรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เป็นโจทก์ฟ้อง พล.อ.ท.ธนพันธ์ หร่ายเจริญ เป็นจำเลยที่ 1 น.ส.พิรงรอง รามสูต เป็นจำเลยที่ 2 นายศุภัช ศุภชลาศัย เป็นจำเลยที่ 3 นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ เป็นจำเลยที่ 4 และนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ เป็นจำเลยที่ 5 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

คำฟ้องบรรยายว่าเดิมโจทก์มีตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช.ฝ่ายยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร กับรักษาการเลขาธิการ กสทช. เมื่อวันที่ 23 ม.ค.66 พวกจำเลยได้พิจารณาเกี่ยวกับเงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายและตั้งคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา แล้วคณะอนุกรรมการดังกล่าว มีความเห็นลอยๆ หาว่าในการพิจารณาเกี่ยวกับเงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าว ตัวโจทก์มีการกระทำผิดกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนร่วมกันมีมติปลดโจทก์ออกจากตำแหน่ง โดยไม่มีกฎหมายรองรับให้กระทำได้ แล้วเผยแพร่ข่าวแก่สื่อมวลชนทันที ทำให้โจทก์เสียหาย จากนั้นก็ตั้งจำเลยที่ 5 เป็นรักษาการเลขาธิการแทนโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายกระทบต่อการทำงาน โดยศาลรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง และให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในวันที่ 3 ต.ค.2566.