ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 นายเกษม ณรงค์เดช ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากแหล่งข่าวต่างๆที่ปรากฏตามหน้าสื่อ ที่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ได้ยื่นฟ้องนายณพ ณรงค์เดช กับพวก ซึ่งล่าสุดศาลที่อังกฤษได้มีคำพิพากษาให้นายณพกับพวก ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ เป็นเงินจำนวนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในข่าวดังกล่าว ได้มีชื่อและภาพของข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ข้าพเจ้า นายเกษม ณรงค์เดช ขอแจ้งข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวให้ทราบว่า เดิมครอบครัวณรงค์เดชได้ตกลงร่วมกันจัดหาเงินทุนเพื่อมอบให้ นายณพ ณรงค์เดช ไปซื้อหุ้นบริษัทวินด์ฯแทนครอบครัวณรงค์เดชในฐานะตัวแทนของครอบครัว แต่ต่อมาภายหลังได้พบหลักฐานว่า นายณพกับพวกได้ร่วมกันโดยไม่สุจริตและนำความเสียหายอย่างมากมาให้แก่ครอบครัว รวมถึงเป็นผู้ก่อให้เกิดกรณีพิพาทในฐานะตัวแทนของครอบครัวกับนายนพพร จากการเข้าซื้อหุ้นบริษัทวินด์ฯ มีการปลอมแปลงเอกสารและลายมือชื่อของข้าพเจ้าในเอกสารทั้งหมดจำนวนหลายรายการที่นายณพกับพวกใช้เป็นหลักฐานทางธุรกรรมในการโอนหุ้นของบริษัทวินด์ฯไปยังคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ซึ่งเป็นแม่ยายของนายณพ ซึ่งระหว่างการดำเนินการทั้งหมดนายณพเป็นผู้ดำเนินการและครอบครองเอกสารทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าตัดสินใจประกาศตัดขาดนายณพออกจากครอบครัวณรงค์เดช และก่อนหน้านี้
กลุ่มบริษัทของนายนพพรได้มีการนำพยานหลักฐานชุดเดียวกับที่ส่งฟ้องต่อศาลประเทศอังกฤษ มาฟ้องนายณพ รวมถึงข้าพเจ้าต่อศาลในประเทศไทย ซึ่งศาลในประเทศไทยได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วโดยมีคำพิพากษายกฟ้องข้าพเจ้า เนื่องจากสัญญาซื้อขายหุ้นที่นายณพกับพวกได้กระทำขึ้นโดยทุจริตเป็นเอกสารปลอม เมื่อนายนพพรได้ยื่นฟ้องข้าพเจ้าอีกครั้งด้วยพยานหลักฐานเดิมที่ประเทศอังกฤษ ข้าพเจ้าจึงไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้คดีอีกแต่อย่างใด.
...