นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงเรียนเอกชนหลายแห่งได้รับผลกระทบแบกรับภาระหนี้และการขาดทุน โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กหลายแห่งได้ประกาศปิดกิจการลงนั้น เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) รับทราบปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดีและพยายามวางแนวทางการช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนเหล่านี้ให้อยู่รอดต่อไป ซึ่งขณะนี้ สช.ได้ขอทบทวนหลักเกณฑ์เงินกองทุนกู้ยืมโรงเรียนเอกชนในระบบอยู่ ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้โรงเรียนเอกชนได้ใช้เงินจากกองทุนนี้มาบรรเทาความเดือดร้อนได้ ซึ่งตนมองว่าหากจะทำให้โรงเรียนเอกชนอยู่รอดจะต้องใส่เรื่องของคุณภาพเข้าไป

“สิ่งที่ สช.กำลังดำเนินการอยู่คือ นำหลักสูตรฐานสมรรถนะเข้าไปสอดแทรกในการจัดการเรียนการสอน โดยให้โรงเรียนเอกชนออกแบบหลักสูตรของตัวเอง เช่น การสร้างห้องเรียนอาชีพ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นต้น เพราะหลักสูตรฐานสมรรถนะจะเป็นหลักสูตรที่เน้นส่งเสริมสมรรถนะของผู้เรียนในการปรับใช้องค์ความรู้ที่หลากหลายในสถานการณ์จริง ออกแบบกลยุทธ์และแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยพลิกแพลงและยืดหยุ่นในระยะยาว พร้อมกับสื่อสารกับผู้ปกครองให้มากขึ้นว่าโรงเรียนแต่ละแห่งมีจุดเด่นด้านไหนอย่างไร และ สช.จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ เนื่องจากผมมีนโยบายให้โรงเรียนได้ออกแบบการพัฒนาโรงเรียนเอง และสร้างจุดแข็งของตัวเองให้ได้ ซึ่งการปรับแนวทางดังกล่าวได้มีการนำร่องไปแล้วในโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง และเร็วๆนี้จะโชว์ความสำเร็จของการปรับรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนเอกชน เพื่อเป็นต้นแบบให้สถานศึกษาอื่นๆ ได้นำไปต่อยอดได้” เลขาธิการ กช.กล่าว.