หลังจากที่ “สปสช.” ได้เพิ่มทางเลือก ใหม่ให้ประชาชน...“สิทธิบัตรทอง” หากมีอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น 42 กลุ่มโรค สามารถรับบริการ “เทเลเมดิซีน”...พร้อมจัดส่งยาถึงบ้าน ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี
โดยให้บริการผู้ป่วยไปแล้ว 13,868 คน 31,522 ครั้ง และผู้ป่วยที่เคยใช้บริการไปแล้ว กลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง สะท้อนว่า...บริการนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยในแง่ของความสะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพิ่มการเข้าถึงบริการ ลดความแออัด และลดเวลารอคอยที่หน่วยบริการ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.บอกว่า ด้วยเหตุนี้ สปสช.จึงได้ขยายบริการดูแลอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น 42 กลุ่มโรคผ่านระบบเทเลเมดิซีนให้ครอบคลุมไปยัง 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ นครปฐม
ย้ำว่า...ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2566 เป็นต้นไป ประชาชนสิทธิบัตรทองที่อยู่ใน 5 จังหวัดดังกล่าวข้างต้น เมื่อเจ็บป่วยเบื้องต้นสามารถพบหมอออนไลน์พร้อมรอรับยาที่บ้านได้ โดยบริการนี้จะครอบคลุมผู้มีสิทธิบัตรทองทั้งหมดไม่ว่าจะมีหน่วยบริการประจำอยู่ที่ไหน
...
“หากเดินทางมาทำธุระใน กทม.และ 5 จังหวัดปริมณฑล รวมทั้งมีที่อยู่ที่สามารถจัดส่งยาให้แล้วเกิดอาการเจ็บป่วยใน 42 กลุ่มโรค ก็สามารถพบแพทย์ผ่านระบบเทเลเมดิซีนได้”
ภาพรวมการให้บริการในพื้นที่ กทม. นีล นิลวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนผ่านแอปพลิเคชัน “Clicknic” เสริมว่า ถือว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เมื่อประชาชนได้ลองเข้ามารับบริการแล้วรู้สึกเซอร์ไพรส์ เพราะบริการของ Clicknic จะได้วิดีโอคอลกับแพทย์ทุกเคส
“ไม่มีคุยผ่านแชต ทำให้คนไข้ประทับใจ...มั่นใจในการกลับมารับบริการซ้ำ เกิดการบอกต่อและอัตราการใช้บริการซ้ำสูง”
ประเด็นสำคัญมีว่า...จากสถิติที่เราเก็บข้อมูลพบว่าคนทั่วไปจะป่วยเฉลี่ย 4 ครั้งต่อปี และจากที่เก็บสถิติมาพบว่า 2 ครั้งจะรับบริการผ่านเทเลเมดิซีน ส่วนใหญ่คือกลุ่มอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ แสบจมูก ตาแดง ไข้หวัด กลุ่มนี้มักกลับมารับบริการบ่อย ขณะที่อีก 2 ครั้งอาจ
ป่วยหนักต้องเข้าไปรับบริการในโรงพยาบาล
ซึ่งตัวเลข 2 จาก 4 คิดว่าเป็นตัวเลขที่ดี อย่างน้อยก็ช่วยลดความหนาแน่นในโรงพยาบาลได้ครึ่งหนึ่ง
ในส่วนของการขยายพื้นที่ให้บริการอีก 5 จังหวัด เนื่องจาก Clicknic มีจุดเด่นตรงที่ได้วิดีโอคอลกับแพทย์ทุกเคส บวกกับระยะเวลาในการจัดส่งยา เฉลี่ยแค่ 3 ชั่วโมง เมื่อ สปสช.จะขยายพื้นที่บริการเพิ่ม สิ่งที่ต้องเตรียมการเพิ่มคือเพิ่มจำนวนแพทย์เพื่อให้เพียงพอผู้ป่วยได้วิดีโอคอลคุยกับแพทย์ทุกเคส
รวมทั้งเพิ่มจำนวนจุดกระจายยาในพื้นที่ปริมณฑล เพราะตั้งใจว่าเราจะต้องจัดบริการให้ได้ระยะเวลาในการพบแพทย์ ระยะเวลาการจัดส่งยาไม่เกิน 3 ชม. เหมือนใน กทม. ด้วย
ด้าน พญ.สมิฏภาฐ์ จงมหาภูดิฏฐ์ ผู้บริหารโททอลเล่เทเลเมด (Totale Telemed) มองว่า ในช่วงระยะที่ผ่านมา กราฟจำนวนผู้รับบริการในกลุ่มโรคทั่วไปของ Totale Telemed มีลักษณะค่อนข้างพุ่งสูง
...
“ผู้รับบริการ”...ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มอาชีพอิสระ ที่มักมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไข้หวัด โควิด-19 โรคกระเพาะ ภูมิแพ้ แต่ที่ได้รับผลตอบรับดีมาก คือกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมซึ่งได้รับเสียงสะท้อนว่ายาดี ทานแล้วหายปวด จนเกิดการบอกต่อ มีการเข้ามาคอมเมนต์ในเพจของโททอลเล่ในแง่ดี
บางคนก็เข้ามาช่วยแชร์ ช่วยตอบคำถามให้แทนแอดมิน เหมือนเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ที่สำคัญ...เมื่อเขาเห็นว่าทานยาแล้วหาย เวลาเจ็บป่วยครั้งต่อไปเขาก็จะมองหาว่าเราดูแลโรคไหนอีกบ้าง ทำให้อัตราการรับบริการซ้ำค่อนข้างดี
สำหรับการขยายพื้นที่ให้บริการในอีก 5 จังหวัด เรามีความพร้อมให้บริการเต็มที่เพราะในช่วงที่โควิด-19 ก็ให้บริการดูแลทั่วประเทศอยู่แล้ว การขยายพื้นที่อีก 5 จังหวัดถือเป็นหน่วยเล็กๆ เมื่อเทียบกับระดับประเทศ แต่ที่อยากให้ดำเนินการจริงๆ คือขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศไปเลย
เพราะ...ยังมีคนที่อยู่ต่างจังหวัดในพื้นที่ห่างไกล ยากลำบากต่อการเดินทางที่ต้องการบริการนี้แม้ว่าสิทธิบัตรทองจะไม่เก็บค่ารักษาแต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เราเจอเยอะมากที่ผู้ป่วยต้องจ้างรถเข้ามาหาหมอในเมือง หรือต้องหยุดงานขาดรายได้เพื่อมาพบแพทย์
“คำว่าการแพทย์ทางไกลต้องไกลจริงๆ ถ้าขยายบริการให้ทั่วประเทศจะทำให้ระบบเทเลเมดิซีนเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง” พญ.สมิฏภาฐ์ ทิ้งท้าย
ถัดมาแอป “MorDee (หมอดี)” ได้ให้บริการประชาชนครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้ว มีความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ผ่านมาให้บริการดูแลผู้มีสิทธิบัตรทองใน กทม. มากกว่า 1,000 ราย และมากกว่า 2,000 ครั้ง ส่วนใหญ่มีอาการเยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้อากาศ
...
ดร.ยศวีร์ นิรันดร์วิชย กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป บอกว่า เราอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยพบแพทย์...ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากสถาบันชั้นนำได้จากทุกที่ตามเวลาที่สะดวก ครอบคลุมกว่า 20 สาขา ทั้งสุขภาพกาย...สุขภาพจิต กว่า 500 คน เลือกปรึกษาได้ทั้งการโทร. แชต วิดีโอคอล
พร้อมบริการส่งยาถึงบ้านตามแพทย์สั่งภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งยังมีเภสัชกรให้คำแนะนำในการใช้ สะดวกสบาย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
ขณะที่ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนผ่านแอปพลิเคชัน “ซาลูเบอร์ เอ็มดี” ก็เตรียมความพร้อมในการขยายพื้นที่บริการ นั่นก็คือการเพิ่มจำนวนพันธมิตรร้านยา เพราะจุดสำคัญอย่างหนึ่งในการให้บริการการแพทย์ทางไกลคือการจัดส่งยาให้ไปถึงผู้รับบริการที่ไหนก็ได้ในพื้นที่ให้บริการ
...
สมเกียรติ เดชชุษณะนาถ ผู้อำนวยการด้านไอทีและพาณิชย์ บริษัท ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่า เราวางแนวทางให้มีร้านยาในรัศมี 5 กิโลเมตรจากที่พักอาศัยของผู้ป่วยเพื่อให้จัดส่งยาได้สะดวกรวดเร็วไม่เกิน 3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องมีพันธมิตรค่อนข้างเยอะ
การรับบริการ “เทเลเมดิซีน” สิ่งที่ประชาชนจะได้รับคือความสะดวกและลดการเดินทาง เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถนัดพบแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องออกไปที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ยืนยันว่าการดูแลอาการเจ็บป่วยทั่วไปผ่านระบบเทเลเมดิซีน ให้ผลการรักษาไม่ต่างจากไปพบแพทย์ด้วยตัวเอง
“ผู้ที่ยังคิดว่าการใช้บริการจะยุ่งยากหรือไม่ ต้องบอกว่าในการใช้งานครั้งแรกอาจรู้สึกยุ่งยากเหมือนการไปเบิกเงินผ่านตู้ ATM หรือใช้แอปฯของธนาคารในการชำระค่าสินค่า อาจต้องเรียนรู้สัก 1-2 ครั้ง ต่อไปเมื่อใช้งานจนคล่องแล้วก็จะรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาและไม่อยากไปนั่งต่อคิวรอพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีก”
สุดท้ายนี้...จึงอยากเชิญชวนให้มาใช้บริการเยอะๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะรักษาไม่ได้หรือเชื่อถือไม่ได้...สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ “พบหมอออนไลน์...รอรับยาที่บ้าน” สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ.
คลิกอ่านคอลัมน์ "สกู๊ปหน้า 1" เพิ่มเติม