ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA เปิดเผยว่า NIA จัดงานสตาร์ตอัพและอินโนเวชั่นไทยแลนด์เอ็กซ์โป 2023 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะการสร้างปรากฏการณ์ยกระดับความร่วมมือทางนวัตกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพของระบบนิเวศนวัตกรรมและสตาร์ตอัพไทย ภายใต้ 3 หัวใจสำคัญ ประกอบด้วย 1.ระบบนิเวศนวัตกรรมที่ประเทศไทยชวนสตาร์ตอัพจากต่างประเทศเข้าร่วม 2.การทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งระหว่างมหาวิทยาลัย เอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ และกิจการเพื่อสังคม และ 3.ความเป็นสากลโดยทำให้เห็นว่ากรุงเทพฯมีลวดลายของความเป็นนวัตกรรมมากขึ้น และเป็นเบ้าหลอมให้นวัตกรจากหลากหลายภูมิภาคทั้งไทยและต่างชาติมาปักหลักที่ประเทศไทยมากขึ้น และส่งออกผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไปเติบโตสู่ตลาดต่างประเทศเช่นกัน
ผอ.NIA กล่าวต่อว่า ที่สำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสตาร์ตอัพระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้มีส่วนสำคัญอยู่ 3 ข้อ คือ 1.การกำเนิดมหาวิทยาลัยที่พร้อมลงทุน ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ โดยเฉพาะการที่มหาวิทยาลัยเป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยี ตั้งบริษัท และลงทุนเอง 2.บริษัทมีการรวมตัวเป็นสมาคมมากขึ้น และ 3. การกำเนิดธุรกิจสตาร์ตอัพสาขาใหม่ สาขาที่ 11 คือเทคโนโลยีลดโลกร้อน ที่เน้นการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ NIA ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพเยาวชน สตาร์ตอัพ และผู้ประกอบการให้มีความพร้อมปรับตัวและรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผ่านหลักสูตรเสริมองค์ความรู้จากสถาบันวิทยาการนวัตกรรม หรือ NIA academy และกิจกรรมบ่มเพาะในรายสาขาสำหรับสตาร์ตอัพที่ต้องการสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งทำให้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับบริษัทขนาดใหญ่เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงาน และต่อยอดเชิงพาณิชย์ร่วมกันในอนาคต.
...