หลังปล่อยแคมเปญโฆษณาชุด “คาเฟ่ อเมซอน กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” ก็มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากถึงความจริงใจที่แบรนด์หยิบยกขึ้นมาพูดแบบตรงไปตรงมาในครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงสะท้อนความจริงในการดำเนินธุรกิจของ คาเฟ่ อเมซอน ที่ว่า กาแฟที่ดีที่สุดหมายถึงกาแฟที่แฟร์กับคนดื่ม แฟร์กับคนปลูก แฟร์กับคนชงที่ขาดโอกาส แฟร์กับขยะเหลือใช้ และแฟร์กับคนทั้งโลก เท่านั้น แต่ยังช่วยถ่ายทอดเรื่องราวการสร้างโอกาสให้กับผู้คนจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางสายกาแฟไปข้างหน้าด้วยกันแบบแฟร์ๆ อีกด้วย
พูดกันแบบตรงไปตรงมา
โฆษณาชุด “คาเฟ่ อเมซอน กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของเกษตรกรบ้านปางขอน จังหวัดเชียงราย พื้นที่กำเนิดเมล็ดกาแฟคุณภาพที่เป็นต้นน้ำของ คาเฟ่ อเมซอน โดยบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่มีมุมมองต่อชีวิตว่า “โลกนี้ไม่เคยแฟร์กับเขา” เขาต้องทิ้งลูกที่ยังแบเบาะออกไปทำงานในเมืองใหญ่ ก่อนจะถูกเลิกจ้างกลับมาเคว้งคว้าง รายได้ไม่เพียงพอ ด้วยความที่ห่างบ้านไปนาน เขาไม่เคยแม้กระทั่งมีโอกาสได้เจอหน้าลูก ตลอดระยะเวลาที่ลูกที่เติบโตขึ้น ลูกได้แต่จินตนาการถึงพ่อผ่านกระดาษที่วาดไว้ ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ความห่างไกลเข้ามาทำให้เหมือนมีเส้นใยบางๆ กั้นระหว่างกัน
ภาพยนตร์โฆษณาได้ตั้งคำถามกับผู้ชมไปพร้อมกันด้วยว่า “ถ้าวันหนึ่งคุณรู้สึกว่าโลกนี้ไม่แฟร์กับคุณ คุณจะทำอย่างไร” และชวนผู้คนมาร่วมค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำว่า “แฟร์” ผ่านเรื่องราวของชายผู้นี้ โดยมีกาแฟและ คาเฟ่ อเมซอน เป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องราว พร้อมให้ผู้ชมได้ขบคิดและร่วมค้นหาคำตอบไปด้วยกันว่า “ที่ว่าโลกไม่แฟร์กับเรานั้น หรือจริงๆ แล้วเพราะเราไม่แฟร์กับโลก” แท้จริงแล้วการเป็น “ผู้ให้” ก็อาจเกิดขึ้นก่อนการเป็น “ผู้รับ”
กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก
สำหรับแคมเปญโฆษณา “คาเฟ่ อเมซอน กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” นอกจากจะทำให้ได้เห็นเรื่องราวต้นทางของกาแฟ ก่อนจะส่งถึงมือผู้ดื่มที่ปลายทางแล้ว ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมหันกลับมาใส่ใจในเรื่องคุณค่าของการใช้ชีวิตกับครอบครัว และคนใกล้ตัวมากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันก็ช่วยตอกย้ำถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด SDG (Small People, Diversified Business, Green) ตามแนวทางของโออาร์ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาส และสร้างคุณค่าแก่ผู้คน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ คาเฟ่ อเมซอน ภายใต้การบริหารงานของโออาร์แสดงออกอย่างจริงใจ และเปิดเผยแบบตรงไปตรงมาตลอดมา และเผยความจริงใจอีกครั้งผ่านแคมเปญโฆษณานี้ คือ การดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วย แถมยังมีความ “กล้า” ที่จะสื่อสารด้วยความจริง โดยเล่าเรื่องผ่านภาพโฆษณา ที่เน้นถ่ายทอดความจริงแบบเรียลๆ โดยเฉพาะภาพโฆษณาที่เผยให้เห็นถึงแก้วไบโอคัพที่ย่อยสลายให้เห็นจะๆ ในแบบที่มีไส้เดือนติดมาด้วยกันเลยทีเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์จะตัดสินใจใช้ภาพที่ไม่สวยงามเจริญหูเจริญตา หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ดูจริงเกินไป” เพื่อการสื่อสาร ส่วนหนึ่งก็บอกเล่าถึงสิ่งที่ คาเฟ่ อเมซอน ได้ลงมือทำจริงเพื่อสิ่งแวดล้อมและโลก ต่อให้ไม่ใช่ภาพที่สวยงามดึงดูดสายตา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความจริงที่เราต้องยอมรับและลงมือทำ นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของการรักษ์โลกในรูปแบบอื่นๆ ที่ คาเฟ่ อเมซอน ได้ทำแล้วอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม อาทิ เสื้อพนักงานที่ผ่านกระบวนการ Upcycling จากขวดและแก้วพลาสติก PET ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายใน คาเฟ่ อเมซอน ที่ทำมาจากการนำเอาวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือขยะ กลับมาสร้างใหม่ตามแนวทางการรักษ์โลก นอกจากความแฟร์ที่มีต่อธรรมชาติและโลกแล้ว คาเฟ่ อเมซอน ยังบอกเล่าเรื่องราวของความแฟร์ที่มีต่อผู้คนผ่านการร่วมสร้างโอกาสให้บาริสต้าผู้พิการทางการได้ยิน ผู้สูงอายุ และผู้ขาดโอกาสอีกมากมายด้วย
และเช่นเดียวกันกับชีวิตคน… โลกก็ต้องการความแฟร์เช่นกัน แคมเปญโฆษณาชุด “คาเฟ่ อเมซอน กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” ในครั้งนี้ จึงไม่เพียงเปิดเผยความจริงแบบแฟร์ๆ ที่แบรนด์มีต่อเรา ทั้งในฐานะกาแฟที่แฟร์กับคนดื่ม แฟร์กับคนปลูก แฟร์กับคนชงที่ขาดโอกาส เท่านั้น แต่ยังแฟร์กับขยะเหลือใช้ และแฟร์กับโลกใบนี้อีกด้วยเช่นกัน
รับชมภาพยนตร์โฆษณา ชุด “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” ได้ทาง Facebook Café Amazon: https://fb.watch/lz-ayWe9xQ/?mibextid=RUbZ1f