ชุดสืบสวน บก.ปอท.ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ “คิงส์โรมันกาสิโน” ใน สปป.ลาว อ้างสำนักงานทรัพย์สินฯสร้างความน่าเชื่อถือลวงเหยื่อลงทุนเทรดทอง มีผู้หลงเชื่อมโหฬารกว่า 2 พันคน เงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 3,000 ล้านบาท บุกรวบหัวหน้าแก๊งชาวจีนพร้อมสมุนคนไทยรวม 11 คน ล่าต่อระดับผู้บริหารชาวจีนอีก 3 คน และสมุนคนไทยอีก 2 คน
ลากคอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเหยื่อลงทุนซื้อขายทองรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท. และ พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนหลอกลงทุนผู้ต้องหารวม 11 คน ประกอบด้วย นายเถิง จวิ้น (Mr.Teng Jun) อายุ 32 ปี ชาวจีน หัวหน้าแก๊ง น.ส.หงษ์ ลุงต๊ะ อายุ 25 ปี บุคคลไร้สัญชาติ และนายนพดล กองสอน อายุ 32 ปี พร้อมผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าอีก 8 คน ของกลางรถยนต์หรู 3 คัน เงินสดกว่า 5 ล้านบาท สร้อยคอทองคำ แหวนทองกว่า 30 รายการ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด สมุดบัญชีธนาคาร และใบรับประกันทองอีกหลายรายการ จับกุมตัวนายเถิงที่บ้านในพื้นที่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ส่วนลูกสมุนชาวไทยที่เหลือจับกุมได้ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.จันทบุรี
สืบเนื่องจากตำรวจ บก.ปอท.ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (SA) ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพนำชื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปแอบอ้างเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนหุ้นทองคำ ใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Royal Gold เฉพาะเดือน ม.ค.ถึง พ.ค.2566 มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกว่า 2,000 คน สูญเงินรวมกว่า 500 ล้านบาท ตรวจสอบพบทำกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายคือ นายเถิง ชาวจีน มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ภายในบ่อนกาสิโนคิงส์โรมัน ประเทศ สปป.ลาว ไปจนถึงคนรวบรวมบัญชีม้า คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และกลุ่มทำหน้าที่ฟอกเงิน
...
วิธีการหลอกลวงจะใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดีมาตีสนิท ก่อนส่งภาพอาหารราคาแพง ภาพวาบหวิวของหญิงสาว และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ใช้หลอกลวงเหยื่อให้ตกหลุมรัก อีกทั้งยังมีบทสนทนาที่เตรียมไว้พูดคุยกับเหยื่อก่อนชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนหุ้นทองคำผ่านเว็บไซต์ Royal Gold ที่จัดทำขึ้นมาเอง มีลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น มีกราฟแสดงมูลค่าหุ้นตลอดเวลา และแอบอ้างว่า เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ช่วงแรกของการลงทุนจ่ายผลตอบแทนจริง ร้อยละ 10 ของเงินลงทุน แต่เมื่อเหยื่อต้องการถอนเงินต้นกลับจะไม่สามารถทำได้ อ้างว่าต้องเสียค่าภาษีหรือค่าดำเนินการต่างๆ เพื่อหลอกเหยื่อโอนเงินให้เพิ่มอีก ก่อนตัดการติดต่อไปในที่สุด
เงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหมด ถูกนำไปซื้อเหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) สกุล USDT จากพ่อค้าคนกลาง จากนั้นโอนเหรียญดิจิทัลดังกล่าวไปยังกระเป๋าวอลเล็ตม้า ก่อนเริ่มเข้าสู่กระบวน การฟอกเงินในรูปแบบเหรียญดิจิทัล เพื่อซื้อขายแปลงกลับมาเป็นเงินบาทเพื่อส่งต่อให้หัวหน้าเครือข่าย
นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 3,000-4,000 บาท กลุ่มผู้จัดหาและว่าจ้างจะเตรียมโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ดมาให้กลุ่มผู้รับจ้างยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อเปิดบัญชีธนาคารพร้อมกระเป๋าแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล (Wallet) หลังจากนั้นจะรวบรวมบัญชีม้าพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับกระเป๋าเงินม้าส่งให้นายทุนชาวจีนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ สปป.ลาว หลังสืบทราบข้อมูลขบวนการดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่าย ผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงิน ผู้รวบรวมบัญชีม้า กลุ่มผู้จัดหารวบรวมบัญชีม้า และกระเป๋าวอลเล็ตม้ารวม 11 คน ตรวจสอบบัญชีพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 3 พันล้านบาท
พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย เผยว่า จากการสอบสวนหนึ่งในผู้ต้องหาทำหน้าที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้ารับว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีนให้รวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าของคนไทยมามอบให้ชาวจีนที่อยู่ในพื้นที่บ่อนกาสิโนคิงส์โรมันฝั่ง สปป.ลาว ที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ ได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาทต่อบัญชี เหตุผลที่รับจ้างทำงานลักษณะนี้ เนื่องจากมีหนี้ที่เกิดจากการเล่นพนันในบ่อนกาสิโนคิงส์โรมัน และนายทุนชาวจีนดังกล่าวเป็นคนภายในบ่อนกาสิโน จึงถูกบังคับให้รับงาน
“แม้จับกุมหัวหน้าขบวนการชาวจีนพร้อมสมุนคนไทยได้ 11 คนแล้ว แต่ยังคงต้องขยายผลต่อเนื่อง เพราะยังเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 5 คน แบ่งเป็นชาวจีนระดับผู้บริหารอีก 3 คน ประกอบด้วย นายชิว เตออู่ (MR.QIU DEWU) อายุ 45 ปี นายชิว เตอชง (MR.QIU DECONG) อายุ 36 ปี และนายจาง จื่อหง (MR.ZHANG ZHIHONG) อายุ 22 ปี และคนไทยทำหน้าที่ในกลุ่มบัญชีม้าอีก 2 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งแกะรอยติดตามตัว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 11 คนที่จับกุม ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ข้อหาร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.ดำเนินคดีพร้อมขยายผลต่อไป” ผบก.ปอท.กล่าว