"โรม" เชื่อ "ตั๋วช้าง" ตั๋วตำรวจ ต้นตอ "ส่วย" ก้าวไกล เล็งปฏิรูปตำรวจ 3 ระยะ ดูผลงาน เพื่อขยับตำแหน่ง คัดสรรบุคคลจากความสามารถ

วันที่ 19 มิ.ย. 2566 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เข้าจับกุม พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ระดับยศ พ.ต.อ.-ร.ต.อ. 7 นาย และพลเรือน อีก 2 ราย รวม 10 ราย หลังได้เบาะแสร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหายคดีเว็บพนัน 6 ราย รวมเป็นเงิน 140 ล้านบาท ด้วยการใช้วลีเด็ดในการเจรจาของ พล.ต.ต.กัมพล "มีทางออก เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา" ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีที่ สภ.คูคต เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" เป็นการวิเคราะห์ปมฉาว ตำรวจไถเงิน ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ทำไมแก้ไม่ได้สักที แล้วเรื่องนี้ควรที่จะปฏิรูปที่คนหรือระบบก่อน โดยพูดคุยกับ นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

นายรังสิมันต์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น่าเศร้าที่มันมีข่าวด้านลบเกี่ยวกับวงการตำรวจรายวัน แต่ตำรวจดีๆ ก็มี ก่อนหน้าเรื่องนี้ มีเรื่อง กอส. ที่เปิดให้บุคคลเข้ามาเป็นตำรวจได้ ซึ่งก็มีการขยายกันไปต่อว่า หลักสูตรนี้อาจเปิดช่องให้คนที่เกี่ยวกับเว็บพนัน ทำเรื่องผิดกฎหมายเข้ามาเรียน ไปไกลกว่านั้นคือการซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งแว่วมาว่า มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคน พูดชื่อมาทุกคนรู้จักดี ใช้ช่องทางนี้ในการหากิน ก่อนหน้าเรื่อง กอส. ก็เป็นเรื่องส่วยที่ไม่ใช่รถบรรทุก แต่ลามไปถึงรถแท็กซี่ ลอตเตอรี่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทุกคนรู้ว่ามี แต่ไม่มีการปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะเขาทำไม่ได้ ซึ่งหัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ "ตั๋วช้าง" ตราบใดที่การขึ้นตำแหน่งมีการซื้อขายธุรกิจผิดกฎหมาย รีดไถ รับส่วย มันจะยังคงอยู่ ตราบใดที่ตั๋วช้างไม่หายไปจากองค์กรตำรวจ เท่าที่ทราบ "ตั๋วช้าง" การซื้อขายตำแหน่งเกรด A มีการซื้อขายที่แพงมาก หลัก 100 ล้านก็มี 

...

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ในมุมมองของพรรคก้าวไกล ถ้าเราอยากจะแก้ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย การพนัน ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เราต้องเริ่มจากทำให้ "ตั๋วช้าง" หมดไป และให้เป็นเรื่องของความสามารถ จับสิ่งผิดกฎหมายแล้วทำให้ได้รับการโปรโมต การเลื่อนขั้น ถ้ามันการันตี คงไม่มีใครอยากไปรีดไถ เพราะมันการันตีได้ แต่วันนี้ทำผลงานได้ ก็ใช่ว่าจะได้รับการโปรโมต ได้รางวัลสมกับฝีมือในการทำงาน 

นอกจากนี้ นายโรม ยังอ้างด้วยว่า ตนได้ยินมา ซึ่งอยากให้ประชาชนฟังไว้เป็นข้อมูลก่อน อนาคตถ้ามีโอกาสเราจะมาว่ากันอีกที ตอนนี้ระดับผู้สั่งการเรื่องยาเสพติด เผลอๆ มีการดีลกับเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วย ว่าให้จับได้เท่านี้ เพื่อให้เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการจับตามโควตา และจะปล่อยให้เข้าสู่ประเทศเท่าไร นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมยาเสพติดถึงระบาดในประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องแก้กันที่ต้นตอคือ "ตั๋วช้าง" และทำให้เงินที่ต้องจ่ายให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้น กลับมาเป็นเงินภาษีให้ประเทศจะดีกว่า

เมื่อถามว่า ถ้าก้าวไกลตั้งรัฐบาลสำเร็จ จะเริ่มต้นอย่างไรในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ นายโรม ระบุว่า คงต้องออกเป็น 3 ระยะ สั้นที่สุดคือ 100 วัน ระยะกลาง 1 ปี ระยะยาว 4 ปี มันมีกลไกราชการต่างๆ ที่เราต้องเข้าไปแก้ โดย 100 วันแรก เราต้องแก้นโยบาย ระเบียบราชการเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถทำได้ทันที และไม่ต้องใช้งบประมาณ นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของภาระค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน ซึ่งบางคนต้องนำเงินส่วนตัวออกเอง ถ้าเราตัดลดในส่วนที่ไม่จำเป็นของเจ้าหน้าที่ระดับบน เกลี่ยมาให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าหมึก ฯลฯ ทำให้เขาไม่ต้องควักเนื้อ อย่างน้อยที่สุด ทำให้เขารู้ว่าเงินที่เขาได้ ทำให้เขาอยู่ได้มากขึ้น เงินเดือนเหลือเต็มๆ เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปรับเงินที่ผิดกฎหมาย เพราะการรับเหล่านี้อาจทำให้ต้องเป็นหนี้บุญคุณ หรือมีแผลได้ ซึ่งเราพยายามแก้ปัญหาที่ทำให้เขาอยู่ได้ก่อน ซึ่งเราสามารถทำได้ใน 100 วันแรก

ขั้นต่อไป คือ การปฏิรูปในเรื่องของโครงสร้าง แก้ พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่ามีหลายส่วนที่ปรับแก้ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการโยกย้ายที่สามารถทำให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพจริงๆ ได้ โดยไม่ดูเรื่องอาวุโสอย่างเดียว แต่ต้องดูผลงานที่ผ่านมาด้วย และต้องมีข้อมูลที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า ทำไมคนๆ นี้ถึงสมควรได้รับตำแหน่ง และหลังจากนั้นก็จะไปแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีโครงสร้างที่โปร่งใส และเป็นการคัดสรรบุคคลจากความสามารถจริงๆ แน่นอนว่าอาจจะต้องมีรูปแบบ มีผลงานที่ทำควบคู่ไปกับความอาวุโส เพื่อให้เกิดการแข่งขันกันภายใน 



เมื่อถามว่า สิ่งเหล่านี้ ทุกรัฐบาลก็พูด แล้วมั่นใจว่าก้าวไกลจะทำได้ นายโรม บอกว่า เราเริ่มต้นทำงานการเมือง จากการไม่มีหนี้บุญคุณกับใคร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแสวงหารายได้ หรือเงินจากการทำตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่พอจะยืนยันได้คือ ก้าวไกล เราต้องการที่จะปราบปรามในเรื่องของตั๋วต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้การเมืองโปร่งใส และเป็นการเมืองของทุกคน ไม่ให้ใครมาพูดทีหลังว่า ในยุคที่ก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก็มีเรื่องตั๋วเหมือนกัน แต่เมื่อไรที่เราหาเศษหาเลยกับเรื่องตั๋ว เราจบแน่ ใครก็ตามที่จะมาวิ่งกับก้าวไกล อยากให้กลับไปทำผลงานให้ดี ติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยถึงความคืบหน้ากรณีของ พล.ต.ต.กัมพล ว่า ชุดแรกที่เรามีพยานหลักฐานเพียงพอนั้น พบเจ้าหน้าที่กระทำความผิด 10 นาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งมี 3 คนที่หลบหนีอยู่นอกประเทศ ตอนนี้อยู่ระหว่างการขอหมายแดง เพื่อประสานประเทศเพื่อนบ้านในการจับกุมตัว โดยเชื่อว่าไม่ยาก ส่วน นายบอย ที่มีข่าวว่าจะประสานมอบตัวนั้น ก็อยู่นอกประเทศ ซึ่งคนที่อยู่นอกประเทศเขาลำบาก มันไม่ได้อยู่ง่าย เขาก็ต้องพยายามกลับมา ถึงไม่มามอบตัว ยังไงเราก็ต้องไปเอาตัวอยู่แล้ว ซึ่งตนจะบินไปเอง เรามีความร่วมมือผ่านแดนที่ดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าใน 10 คน มีใครที่รับหรือไม่รับบ้าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า ในส่วนของผู้การ ยังไม่ขอให้การ ขอกลับไปทำคำให้การ และจะส่งมาภายใน 5 วัน ที่เหลือก็สารภาพทั้งหมดแล้ว ยอมรับเกินกว่าครึ่ง ซึ่งวันนี้จะมีการประชุมเพื่อขยายผล เพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมในบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจและพลเรือน นอกจากนั้นจะได้มีการขยายผลไปถึงเส้นทางการเงิน บัญชีธนาคาร หรือที่เป็นเงินสด ว่ามีการเชื่อมโยงถึงใครอีกบ้าง ส่วนจะมียศใหญ่กว่าผู้การชลบุรีหรือไม่นั้น ขอขยายผลก่อน มาถึงวันนี้ตำรวจต้องปรับตัว เพราะสมัยนี้มีระบบตรวจสอบเยอะ 

เมื่อถามว่า เงินเดือนตำรวจสมัยนี้ หากไม่รับเงิน จะสามารถดำรงชีพได้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องบอกตรงๆ ว่า ตำรวจเป็นหน่วยงานที่เงินเดือนน้อย คดีที่เกิดทุกวันนี้มันเยอะ และทุกคดีต้องใช้เงินทั้งนั้น อย่างคดีฆ่ากัน เหตุเกิดสงขลา คนร้ายหนีไปเชียงใหม่ ก็ต้องใช้เงินในการติดตามคนร้าย ซึ่งลำพังเงินเดือนไม่พอหรอก แต่ว่าการไปรีดเขาจนเขาไม่ไหว ไปข่มขู่เขานั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะคนที่ทำธุรกิจสีเทานั้น ไม่มีใครอยากจะมาแจ้งความกับตำรวจหรอก แต่ที่เขามาแจ้ง เพราะเขารับไม่ไหวแล้ว ไปไล่เขาจนเขาจนตรอก มันถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา.

...


ติดตามได้ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิ เวลา 15.30 น. ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32