ไม่ใช่ดราม่า แต่เป็นเรื่องจริงจาก “คุณหมอปุยเมฆ” พญ.นภสร วีระยุทธวิไล แพทย์พี่เลี้ยงออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลราชบุรี ที่เพิ่งตัดสินใจลาออกจากราชการ เพราะทนกับระบบที่เป็นอยู่ไม่ไหว คุณหมอโพสต์ระบายถึงสาเหตุที่ลาออก อ่านแล้วก็ได้แต่เศร้าใจและเห็นใจ 9 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครองอำนาจเด็ดขาดเป็นรัฐบาล ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ดีขึ้นเลย (ถ้าไม่มี อสม.และบัตรทองคนไทยอาจแย่กว่านี้) ขนาดแพทย์ยังทนไม่ได้ แต่ก็ยังมีแพทย์พยาบาลที่ยอมทนกับระบบแบบนี้ เสียสละรักษาคนไข้อยู่ โรงพยาบาลราชบุรี ถือเป็นโรง พยาบาลที่อยู่ในจังหวัดที่เจริญแล้ว ยังมีสภาพแย่ขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลในจังหวัดที่ห่างไกลจะแย่ขนาดไหน ไม่ต้องหลับตาก็มองเห็นภาพชัดเจน
โพสต์ของ คุณหมอปุยเมฆ อธิบายถึงระบบการรักษาคนไข้ที่ล้มเหลวของ กระทรวงสาธารณสุข ใน ยุคกัญชาเสรี มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดี
วันนี้ คุณหมอปุยเมฆ ได้ตัดสินใจลบทวีตเรื่องนี้ออกไปแล้ว “เพราะตอนนี้เรื่องเริ่มลามไปถึงพี่ๆ Staff ผู้ร่วมงานบางท่าน ซึ่งพี่ๆ ส่วนใหญ่ที่ได้ทำงานด้วยน่ารัก ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนร่างแหไปด้วยเลย แค่นี้ก็เครียดกันพอแล้ว ขอจบเรื่องราวนี้ ฝากไว้แค่ว่าระบบมีปัญหาค่ะ คนข้างในเหนื่อยกันมากๆ” แม้ คุณหมอปุยเมฆ จะลบทวีตไปแล้ว แต่ร่องรอยทวีตก็ยังเหลืออยู่ ผมเลยขออนุญาตนำทวิตของ คุณหมอ ปุยเมฆ มาลงให้อ่านกันอีกครั้ง จะได้รู้ว่าระบบสาธารณสุขของไทยภายใต้กระทรวงสาธารณสุขมันแย่ขนาดไหน ไม่ได้ดีเยี่ยมเหมือนที่ผู้นำรัฐบาลออกมาคุยโวว่าได้รับเสียงชมจากทั่วโลกเลย
คุณหมอปุยเมฆ ได้โพสต์ในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่า
...
“เห็นช่วงนี้กระแสข่าว intern ลาออกจากระบบกันเยอะ ขอพูดในฐานะคนที่เพิ่งตัดสินใจลาออกมาละกัน งานในระบบหนักจริง แต่ถามว่า อยู่ในระดับทนได้มั้ย ทนได้ ไม่ตาย แต่ใกล้ตาย เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต วินาทีที่ตัดสินใจลาออก คือ ตอนนั้น วน med อยู่เวรทั้งคืน มาราวน์เช้าต่อ ชาร์ตกองตรงหน้าเกือบ 40 คนไข้นอนล้นวอร์ด เสริมเตียงไปถึงหน้าลิฟต์ ภาพหดหู่มาก แถมเหนื่อยและง่วง ราวน์คนเดียวทั้งสาย สตาฟฟ์มา 10 โมง เดินมาถาม “น้องยังราวน์ไม่เสร็จเหรอ ต้องเร็วกว่านี้นะ” วินาทีนั้นตัดสินใจเลย ดอบบี้ขอลา
คือเข้าใจว่า งานมันเยอะ หนักทั้ง intern ทั้ง staff แหละ (staff เองก็ไม่ไหว ลาออกก็เยอะ) และมันดูไม่มีทางออกให้กับปัญหานี้เลย รพ.ไม่มีแนวโน้มจ้างคนเพิ่ม ลดลงทุกปี บอกกระทรวงลดงบ คนทำงานหารหน้าที่กันจนไม่รู้จะหารยังไง เหมือนอยู่เป็นแรงงานทาสไปเรื่อยๆอะ ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”
นี่คือ สภาพโรงพยาบาลรัฐที่เป็นจริง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุข คุยว่า ได้รับการชื่นชมจาก องค์การอนามัยโลก ว่า มีการวางระบบดูแลสุขภาพประชาชนแบบถ้วนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยมน่าชื่นชม
ไปอ่านโพสต์ของ คุณหมอปุยเมฆ กันต่อครับ “ถามตัวเอง สู้ 6 ปีเพื่อมาเจอสิ่งนี้เหรอ จึงเกิดภาพ “หนูนิดไม่อยากทำงาน” 555 ถือว่าแชร์ให้ฟังละกัน มันมีทั้งคนที่ทนได้ กับทนไม่ได้ เราคงมี threshold ความเหนื่อยไม่สูงมาก ไม่ชอบการพักผ่อนน้อย แล้วมาทำงาน รู้สึกตัวเองจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควร ก็คิดว่าถอยดีกว่า ไปทำงานที่เหมาะกับเราข้างนอกทำดีกว่า ไม่เป็นข้าราชการก็ไม่ตายแก สู้! เราเชื่อว่าอนาคต อย่างน้อยวงการหมอก็จะไม่ toxic เหมือนที่ผ่านๆมา น่าจะน่าอยู่มากขึ้น (ในด้านสังคม)”
คุณหมอปุยเมฆ ลาออกไปแล้ว ถ้าระบบยังเป็นอย่างนี้อนาคตไม่รู้จะมีหมอ intern ลาออกไปอีกกี่คน ใครเคยไปโรงพยาบาลรัฐจะเห็นภาพที่คุณหมอเล่าได้ชัดเจน ยิ่งเป็นต่างจังหวัดหมอยิ่งขาดแคลน วันนี้ประเทศไทยมีหมอแค่ 6 หมื่นกว่าคน อยู่ในกรุงเทพฯ 3 หมื่นกว่าคน ต่างจังหวัด 3 หมื่นกว่าคน แต่รัฐบาลก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ เป็นอีกความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 9 ปีไม่มีอะไรดีขึ้นเลย.
“ลม เปลี่ยนทิศ”