กรมควบคุมโรคเผย เคสโควิด-19 ยังพุ่งเพิ่ม โดยผู้ป่วยต้องนอน โรงหมอเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนทะลุ 3 พันคน ตาย 68 ศพ ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ไม่ได้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มหรือทิ้งห่างมานาน ขณะที่พบผู้ป่วยเด็กมากขึ้นด้วย ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีอัตราป่วยและติดเชื้อสูงสุด ผู้เชี่ยวชาญห่วงโควิดรุนแรงในเด็ก อาจส่งผลต่อพัฒนาการ ย้ำวัคซีนจำเป็นในเด็กเล็ก ทั้งป้องกันเสียชีวิต ลดภาวะโรคมิสซี และลองก์ โควิด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยยังพุ่งต่อเนื่องโดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า ในสัปดาห์ที่ 22 ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-3 มิ.ย. 2566 พบจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่รักษาในโรงพยาบาล จำนวน 3,085 ราย (เฉลี่ย 440 ราย/วัน) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากสัปดาห์ที่แล้ว (ป่วยรายใหม่ 2,970 คน) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ 386 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 243 ราย และพบผู้เสียชีวิตจำนวน 68 ราย (เฉลี่ย 9 คน/วัน) (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่มีผู้เสียชีวิต 42 คน) ซึ่งเป็นกลุ่ม 608 มากถึง 66 ราย (ร้อยละ 97) และพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม (31 ราย) เท่ากับร้อยละ 45.6 หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (22 ราย) หรือได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือน (15 ราย) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือวัคซีนประจำปี ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้

นพ.ธเรศกล่าวด้วยว่า ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อในเด็กมีแนวโน้มสูงขึ้น จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 พ.ค.2566 พบเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีอัตราป่วยและติดเชื้อสูงสุด ซึ่งมากกว่าในทุกกลุ่มอายุ (1,581 รายต่อประชากรแสนราย) ตามมาด้วยผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป (647 รายต่อประชากรแสนราย) โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิต สำหรับผู้ปกครองบางท่านที่อาจกังวลเรื่องผลข้างเคียงโดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนถึงอาการต่างๆจากวัคซีน ทำให้ขาดความเชื่อมั่นไม่นำบุตรหลานมาฉีดวัคซีนนั้น กรมควบคุมโรคขอยืนยันว่า จากการติดตามข้อมูลอาการไม่พึงประสงค์ในเด็กไทยที่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปหลายล้านโดส พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูง โดยในเด็กเล็กจะพบผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต เช่น อาการไข้ อ่อนเพลีย นาน 1-2 วัน แต่ทั้งหมดไม่มีอาการรุนแรงและไม่เป็นอันตราย สอดคล้องกับข้อมูลจากต่างประเทศ ที่ได้มีการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ในเด็กที่ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยล้านโดส พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยในระดับสูงเช่นกัน

...

ผู้ปกครองสามารถพาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมกันกับวัคซีนพื้นฐานตามช่วงอายุได้ในเวลาเดียวกันที่สถานพยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการรับบริการวัคซีนของประชาชน ทุกหน่วยบริการสามารถเปิดฉีดวัคซีนได้เลย

ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้ไม่สมบูรณ์ คือประมาณร้อยละ 60 ในช่วง 4 เดือนแรก และการฉีดเพื่อป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ ควรฉีดอย่างน้อย 3 เข็ม จากนั้นประสิทธิภาพในการป้องกันโรคจะลดลง แต่ยังสามารถป้องกันความรุนแรงได้ดียาวนาน คือหากติดเชื้ออาการจะไม่หนัก และป้องกันการเสียชีวิตในประชากรได้จริง และวัคซีนยังช่วยลดการเกิดภาวะ Long COVID ซึ่งทำให้อ่อนเพลียหลังจากเป็นโควิด-19 ได้ด้วย และที่สำคัญคือสามารถลดภาวะโรคมิสซี (MIS-C) ที่อาจรุนแรงในเด็กลงได้มากกว่าร้อยละ 90 และในช่วงที่มีการระบาดระลอกนี้ พบเด็กๆติดเชื้อค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมาก่อน เด็กบางคนมีอาการหนักขึ้นเพราะติดเชื้อไวรัสตัวอื่นร่วมด้วย และเมื่อมีเด็กๆเป็นมากขึ้น ทำให้มีปัญหาของ Long COVID มากขึ้น เป็นเหตุทำให้เด็กบางคนมีอาการต่อเนื่องเป็นเวลานาน เด็กบางคนมีอาการปวดหัว เหนื่อย อ่อนเพลีย มีปัญหาในการนอนหลับ ส่งผลต่ออารมณ์ พัฒนาการ และผลการเรียนได้ บางคนมีอาการอยู่หลายเดือน จึงขอแนะนำให้เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรง และแม้ว่าเด็กหลายคนจะเป็นโรคโควิด-19 แล้ว ก็ยังควรได้รับวัคซีน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันลูกผสมที่จะป้องกันการเป็นซ้ำได้ยาวนาน