“ที่ผ่านมาได้รับรู้ข่าวสารว่ามีมิจฉาชีพก่อเหตุหลอกลวงประชาชนต่อเนื่อง พยายามระมัดระวังตัวแต่มาพลาดจนได้ อยากให้ตำรวจจับกุมมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์มาลงโทษให้ได้ เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก และอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองเป็นกรณีศึกษาเพื่อไม่ให้มีผู้อื่นตกเป็นเหยื่ออีก”

นับว่าเป็นภัยที่น่าห่วงสำหรับผู้คนในสังคมไทยกับพฤติกรรม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอก นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ให้โอนเงิน ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง

สูญเงิน 3.2 ล้านบาท

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รอง ผบก.ตรวจสอบ และวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. เชิญ นายวัฒนา ร่วมแถลงข่าวเตือนภัยในรอบสัปดาห์ให้ประชาชนรู้เท่าทัน

พล.ต.อ.สมพงษ์ ย้ำว่า คดีออนไลน์ที่มิจฉาชีพนำมาหลอกลวงนายวัฒนา ถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ จำเป็นต้องเชิญนายวัฒนามาร่วมแถลงข่าวเพื่อเตือนภัยคนอื่น

คดีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นตำรวจโทรศัพท์ข่มขู่นายวัฒนา เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและฟอกเงิน มิจฉาชีพคนที่ 1 แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย โทรศัพท์หานายวัฒนาแจ้งว่าค้างชำระบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย หากไม่ได้ใช้บัตรเครดิตแสดงว่ามีบุคคลอื่นนำบัตรมาใช้ แนะนำ ให้แจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

ต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับมิจฉาชีพคนที่ 2 อ้างเป็น พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ และมิจฉาชีพคนที่ 3 ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “สภ.เมืองนครสวรรค์” ส่งบัตรประจำตัว พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ มาสร้างความน่าเชื่อถือหลอกลวง

...

แจ้งว่านายวัฒนาเกี่ยวข้องคดียาเสพติดและฟอกเงินพร้อมส่งบัญชีธนาคารของนายวัฒนามาให้ตรวจสอบและแจ้งว่าได้ขายสมุดบัญชีธนาคารที่ไม่ได้ใช้แล้วให้บุคคลอื่นในราคา 50,000 บาท อ้างมีเงิน 850,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากขายยาเสพติดโอนเข้ามาในบัญชี หากต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต้องโอนเงินมาตรวจสอบ

หากไม่เกี่ยวข้องโอนเงินคืน

รูปแบบกลโกงที่แนบเนียนทำให้นายวัฒนาหลงเชื่อ โอนเงินจากบัญชีธนาคาร 5 บัญชี 10 ครั้ง เข้าบัญชีของ น.ส.สุดารัตน์ และ น.ส.ชนกานต์ รวมเป็นเงิน 3.2 ล้านบาท เพื่อโอนต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ

คดีนี้ บช.สอท. ออกหมายจับผู้ต้องหา “บัญชีม้า” แถวแรก และเตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม อายัดเงินในบัญชีม้าแถวที่ 2-4 รวม 11 ราย และเร่งสืบสวนขยายผลผู้ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจแจ้งเตือนให้สังคมรู้เท่าทันกลโกง.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th