หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566
- นับถอยหลังเลือกตั้ง 2566 .....สำรวจความต้องการของประชาชน ในการเลือกพรรคเลือกคน เลือกผู้นำ เลือกอนาคตของประเทศไทย.....แนวโน้มการ เลือกฝ่ายประชาธิปไตย เต็มคาราเบล....ถ้าสมมติการเลือกตั้งครั้งนี้ ออกมาตามผลโพล ที่เกือบทุกสำนัก ผลสำรวจออกมาใกล้เคียงกัน....ยกตัวอย่างจาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับ ดีโหวต ตั้งค่าความเชื่อมั่นไว้ที่ร้อยละ 97 ผ่านระบบเทคโนโลยีสำรวจความเห็นสาธารณะบนบล็อกเชน...ปรากฏว่า พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มากที่สุดเป็น พรรคก้าวไกล ถึงร้อยละ 44.20...พรรคเพื่อไทย ที่ร้อยละ 35.60 และ พรรครวมไทยสร้างชาติ มาอันดับ 3 ที่คะแนน ร้อยละ 8.97.....เมื่อเอาคะแนนของ ก้าวไกล และเพื่อไทยมารวมกันจะได้มากกว่าร้อยละ 89....ในขณะที่ถ้าเอาคะแนนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน...ภูมิใจไทย ร้อยละ 3.47 พลังประชารัฐ ร้อยละ 2.91 ประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.40 รวมกับรวมไทยสร้างชาติ อีกร้อยละ 8.97 ก็ยังไม่ถึงร้อยละ 15
...
- ในส่วนของ ส.ส.แบบแบ่งเขต อันดับ 1 ยังเป็น เพื่อไทย ที่ร้อยละ 37.62 อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ที่ร้อยละ 37.2 และอันดับ 3 ภูมิใจไทย ที่ร้อยละ 8.67 รวมไทยสร้างชาติ มาที่ 4 ร้อยละ 7.38.....เมื่อเอา จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต เพื่อไทยกับก้าวไกล มารวมกันก็ยังได้ ส.ส.เกินกว่าร้อยละ 74 ก็ยังมากกว่าฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันเกินครึ่ง......หรือถ้าคิดเป็น จำนวน ส.ส.ของฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไทยกับก้าวไกลได้เกิน 376 เสียง.....จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์การเมือง ไทย ปิดฉากฝ่ายอนุรักษนิยม ทันที......โดยเฉพาะ ความนิยมต่อตัวบุคคล ที่ประชาชนอยากจะสนับสนุนให้ เป็นนายกฯ อันดับ 1 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 44.73 อันดับ 2 แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.20 อันดับ 3 เศรษฐา ทวีสิน ร้อยละ 14.89 และอันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 9.67.....หมายถึงตัวเลขทางสถิติที่สอดคล้องต้องกันด้วยเหตุและผล......นาทีนี้ พิธา และ แพทองธาร ยืนหนึ่งนายกฯ.....อยู่ที่จำนวน ส.ส.ในสภา ระหว่าง เพื่อไทย กับ ก้าวไกล ใครจะได้มากกว่ากัน... พรรคนั้นจะเป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตามวิถีประชาธิปไตย.....ใช่ไม่ใช่
- โค้งสุดท้าย ยุทธศาสตร์การหาเสียง แต่ละพรรคปล่อยหมัดเด็ด ผ่านสื่อออนไลน์และคาราวานออนทัวร์....พรรครวมไทยสร้างชาติ ปล่อยคลิป คุยกับลุงประยุทธ์ ถึงเหตุผลใน การตัดสินใจปฏิวัติ....ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับสารภาพว่าหลังจากนั้น นอนไม่หลับเป็นเดือน.....ตามประสาคนหาข่าว การตัดสินใจ ลงสนาม การเมืองไปต่อ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เที่ยวนี้ ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ....ขนาดยานอนหลับยังเอาไม่อยู่.....การเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
...
- ชนวนการเมืองนอกจากประเด็น จะแลนด์สไลด์ไม่แลนด์สไลด์ แล้ว.....อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยที่ อุทยานเบญจสิริ ช่วย พงศกร ขวัญเมือง หาเสียง ระบุ.....จากการไปร่วมเสวนากับ ส.ว.และข้าราชการระดับสูง ทุกคนยังเป็นห่วง หลังการเลือกตั้งอาจเกิดความสับสนวุ่นวาย ใครจะจับมือกับใครหรือไม่จับกับใคร......ตีความว่า การจับขั้วการเมือง อาจเป็นสาเหตุของชนวนการเมืองรอบใหม่......แต่ที่ป่วนได้ใจ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ บุกเวทีปราศรัยหาเสียงทั้ง ก้าวไกล เพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา.....สอบถามความเห็น จุดยืนของพรรคเรื่องกัญชาเสรี แบบจี้ติด......ได้รับคำตอบเดียวกัน ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี.....ส่วนจะเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลกับ ภูมิใจไทย ที่นำโดย อนุทิน ชาญวีรกูล ด้วยหรือไม่.....ต้องรอคำตอบสุดท้ายวันที่ 14 พ.ค.นี้รู้กัน
- ผ่าน การเลือกตั้งล่วงหน้า และ การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ไปสดๆร้อนๆ.....จากจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 2 ล้านคน และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรกว่าแสนคน.....กาญจนา ภัทรโชค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลง มีคนไทยที่ขอไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจำนวนใกล้เคียงกับปี 2562 ....ขอใช้สิทธิมากที่สุด 5 อันดับแรก ออส เตรเลีย, สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น และ เยอรมนี....มีประเทศที่ ส่งบัตรเลือกตั้งกลับประเทศไทย มาแล้ว 17 แห่ง ปรากฏว่า เกือบทุกแห่งมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกว่าร้อยละ 80...... ประชาธิปไตยในประเทศไทยกำลังเบ่งบาน
...
...
- นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาล วิชัยยุทธ ระบุข้อความจากข้อมูลของโรง พยาบาลที่ติดตาม โรคติดเชื้อโควิด–19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่อาร์เอสวี และ hMPV ...เดือนที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 631 ราย ...การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด–19 กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และ จะเพิ่มขึ้น ไปอีก 2-3 เดือน...จากไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม XBB และตามด้วย XBB.1.16 ในอนาคตอันใกล้นี้....ที่ สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม ...คนที่รอดทุกซีซันไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน ...จะมีโอกาสติดเชื้อเป็นครั้งแรก คนที่เคยติดแล้วก็จะติดเชื้อซ้ำอีก.....จบข่าว
- วุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย และก๊าซธรรมชาติ ปตท. เปิดเผยสาเหตุที่ถูกพาดพิงว่าทำให้ค่าไฟฟ้าแพงจากการดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท.อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน...การจัดสรรก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ใช้ในภาคการขนส่งครัวเรือนร้อยละ 30 และใช้ผลิตไฟฟ้าร้อยละ 50...ที่ผ่านมาปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณการผลิตก๊าซในอ่าวไทยทั้งปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซจากประเทศเพื่อนบ้านและจากแหล่งต่างๆทั่วโลก....ที่เป็นไปตามสถานการณ์ตลาดพลังงานโลกและตลาดผลิตภัณฑ์นั้นๆ....ที่ผ่านมาทั้งสงครามยูเครน-รัสเซีย และโควิด-19 ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงทำให้เกิดผลกระทบกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าทั้งที่ ปตท.ได้ร่วมแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านแล้ว.
"อินทรีเหล็ก"