ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า วันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา อว.ตั้งมาครบ 4 ปีและได้ทำหน้าที่กระทรวงแห่งปัญญา โอกาสและอนาคตมาตลอด 4 ปี มีการปฏิรูปทั้งด้านอุดมศึกษาและด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในด้านการอุดมศึกษาได้มีการปฏิรูปอุดมศึกษาที่ไทยถือเป็นหนึ่งในอาเซียนที่ปฏิรูปอุดมศึกษามากที่สุด เร็วที่สุดและเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่อยู่ในระดับนำของการปฏิรูปอุดมศึกษา จนเป็นที่สนใจของประเทศตะวันตกมาก เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น ทั้งเรื่องหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ เพื่อผลิตคนตามความต้องการของประเทศ เรื่องธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ เป็นต้น อว.ต้องปฏิรูปเพราะโลกสมัยนี้สำคัญที่การศึกษา การศึกษาเป็นตัวสร้างงาน เป็นตัวปรับอาชีพ ปรับทัศนคติ ต้องอาศัยการศึกษาทั้งสิ้น ที่สำคัญคนจะเห่อปริญญาน้อยลงและคนจะไม่เต็มใจที่จะอยู่มหาวิทยาลัยนานเกินไป ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แล้วได้เงินตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน การศึกษาจะไม่ถูกผูกขาดโดยครู อาจารย์ นักวิจัย แบบที่เราเคยเห็นมา ที่ผ่านมาเราเอาปริญญา เอาชั้นยศมาแบ่งคนจนเกินไป ซึ่งอาจจะจำเป็นกับยุคหนึ่ง แต่ยุคปัจจุบันไม่ได้แล้ว
รมว.อว.กล่าวต่อว่า ขณะที่ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตนพูดได้ว่าดีที่สุดในอาเซียน จะเป็นรองก็แค่สิงคโปร์ แต่สิงคโปร์ก็ไม่ได้นำเราทุกเรื่อง เช่น เครื่องฉายแสงซินโครตรอนที่ใช้สำหรับตรวจอนุภาคเล็กๆ มีความชัดเจนยิ่งกว่าอิเล็กตรอนไมโครสโคป เป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ภาคอุตสาหกรรมเคมี ซึ่งสิงคโปร์ไม่มี แต่ไทยมี เรายังมีเครื่องโทคาแมค หรือ “ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์” ซึ่งมีที่ไทยเพียงที่เดียวในอาเซียน จะเดินเครื่องในเดือน ก.ค.นี้ นอกจากนั้นเรายังมีกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 เมตร ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วเรายังมีงานวิจัยระดับชั้นแนวหน้าของฟิสิกส์ระดับต่ำกว่าอนุภาคที่เรียกว่าควอนตัมฟิสิกส์ ทำวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ระดับนำของโลกที่โครงการ CERN ซึ่งประเทศชั้นนำของโลกเท่านั้นที่ได้เข้าไปอยู่ในโครงการวิจัยนี้ เช่นเดียวกับโครงการวิจัยที่ขั้วโลกใต้ ซึ่งมีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ได้เข้าไปทำโครงการวิจัย เป็นต้น
...
“นี่คือผลของการปฏิรูป คนไทยเองไม่ค่อยเชื่อว่าไทยจะเป็นประเทศทางวิทยาศาสตร์ได้ ทำให้เวลานี้ ประเทศทั่วโลกอยากมาลงทุนด้วย เพราะด้านวิทยาศาสตร์เราเก่ง” ศ.ดร.เอนกกล่าว.