สาหร่ายผักกาดทะเล หรือสาหร่าย ในสกุล Ulva ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า sea lettuce เป็นพืชน้ำใต้ทะเลจัดอยู่ในกลุ่มของสาหร่ายสีเขียวมีลักษณะคล้ายผักกาด จึงมีชื่อเรียกว่า “สาหร่ายผักกาดทะเล” สามารถพบได้ตามชายฝั่งทะเล และปะปนอยู่กับสาหร่ายชนิดอื่นๆ
“เมื่อครั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ได้ค้นพบสาหร่ายผักกาดทะเลล่องลอยอยู่ในทะเล เลยนำมาเพาะขยายพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 พร้อมกับทำการวิจัยคุณค่าทางอาหาร พบว่าสาหร่ายผักกาดทะเล 100 กรัม มีโปรตีน 10-25 กรัม คาร์โบไฮเดรต 42-47 กรัม นอกจากนี้ ยังมีวิตามิน กรดอะมิโน ฯลฯ นับเป็นพืชที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงทั้งโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเหมาะที่จะพัฒนาให้เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะมีโปรตีนชั้นเยี่ยม ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งยังถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องสำอาง”
มนทกานติ ท้ามติ้น ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เผยว่า บอกถึงที่มาของการนำสาหร่ายผักกาดทะเลมาเพาะเลี้ยงเพื่อให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้
...
ด้วยการนำมาทดลองเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ถังไฟเบอร์ และในวัสดุที่หาได้ง่ายๆหลายชนิด พบว่าสามารถเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย และผลผลิตออกมาจำนวนมากมายไม่มีขั้นตอนซับซ้อน ทั้งยังสามารถนำมาบริโภคสดได้อีกด้วย
และเมื่อทดลองนำมาแปรรูปเป็นได้ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และของกินเล่น เช่น ต้มจืดสาหร่ายทะเล ซูชิพันสาหร่าย ยำสาหร่าย ขนมขาไก่สาหร่ายทะเล ฯลฯ
โดยนำวัตถุดิบไปให้กับวิสาหกิจชุมชน และโรงเรียนในพื้นที่ อ.ท่าใหม่และใกล้เคียง ไปบริโภคเป็นอาหารกลางวัน จากนั้นนำมาเรียนรู้วิธีการเพาะเลี้ยงการแปรรูปเป็นอาหาร
ปัจจุบันมีการขยายพันธุ์สาหร่ายผักกาดทะเลไปยังฟาร์มทะเลตัวอย่างใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ให้ผู้ที่สนใจเข้าศึกษาขั้นตอนและวิธีเพาะเลี้ยงอย่างถูกต้อง สนใจติดต่อไปได้ที่ โทร.
03-9433-2168.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน