นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยถึงกรณีตัวแทนเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงได้มาหารือกับกรมปศุสัตว์ เนื่องจากเกษตรกรในเครือข่ายกำลังประสบปัญหาด้านการตลาด ทำให้มีไก่งวงที่เชือดชำแหละแช่แข็งค้างสต๊อกอยู่ในห้องเย็นน้ำหนักประมาณ 40 ตัน และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงเกษตรกรในกลุ่มเครือข่ายที่กำลังเลี้ยงและรอส่งเชือดชำแหละในหลายพื้นที่ จึงต้องการจำหน่ายให้กับบริษัทตัวแทนที่จะซื้อเพื่อส่งออกไปประเทศเกาหลี แต่ติดปัญหาที่เกาหลียังไม่เคยเปิดตลาดกับโรงงานในไทยมาก่อน ซึ่งการจะส่งออกเนื้อไก่งวงแช่แข็งต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการเปิดตลาดและข้อกำหนดทางด้านสุขอนามัยของประเทศเกาหลี

“ทันทีที่เรารับทราบปัญหา ได้ให้คำแนะนำในการดำเนินการตามขั้นตอนการเปิดตลาดและการปฏิบัติให้มีมาตรฐานสอดคล้องข้อกำหนดด้านสุขอนามัยของประเทศเกาหลี ที่ต้องเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงให้ได้มาตรฐานฟาร์ม โรงเชือดชำแหละต้องมีมาตรฐาน GMP และ HACCP และต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากประเทศเกาหลี และล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือแจ้งขออนุญาตส่งออกเนื้อไก่งวงสดแช่แข็งไปยังหน่วยงานกักกันพืชและสัตว์ (Animal and Plant Quarantine Agency : APQA) และกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา (Ministry of Food and Drug Safety : MFDS) ของสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อขอเปิดตลาดเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ต้องรอผลการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานดังกล่าวจึงจะสามารถส่งออกได้”

...

อธิบดีกรมปศุสัตว์เผยอีกว่า นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้ประสานไปยังผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับซื้อและวางแผนการตลาดร่วมกัน จนได้รับการตอบรับจากสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย ในการตกลงร่วมกันกับผู้แทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง จะรับซื้อไก่งวงที่ค้างสต๊อกไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet food) และในส่วนของบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะนำไก่งวงแช่แข็งไปแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภค รวมถึงวางแผนการรับซื้อไก่งวงมีชีวิตที่รอเข้าโรงเชือด ส่งผลให้มีการระบายไก่งวงที่แช่แข็งค้างสต๊อกออกไปได้ทั้งหมด และยังได้ประสานเป็นการภายในกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ช่วยหาตลาดในประเทศและตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกเหนือประเทศเกาหลีด้วย.