ปัญหา บุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย หลังจากที่ตำรวจโรงพักห้วยขวาง 6 นาย ถูกตั้งข้อหาหนักถึงขั้น ประหารชีวิตตาม กฎหมายอาญามาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับสินบน และ มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีตั้งด่านตรวจแล้วเรียกสินบนจากดาราสาวไต้หวัน 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวไปทั้งที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผิดกฎหมายและมีโทษร้ายแรง จนถึงวันนี้สังคมไทยยังสงสัย การพกบุหรี่ไฟฟ้า มีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง ผิดกฎหมายหรือไม่ คำตอบก็คือ ผิดกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์

กรณีของ ดาราสาวไต้หวัน ถ้าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เพียงผิดกฎหมายไทย แต่ยังผิดกฎหมายของไต้หวันด้วย

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 สภาบริหารไต้หวัน มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วย “การป้องกันอันตรายจากบุหรี่ยาสูบ” เพิ่มเติม โดยสั่งห้ามผลิต ใช้งาน จัดจำหน่าย จัดซื้อ จัดหา นำเข้า จัดแสดงโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด ส่วน ยาสูบแบบไม่เผาไหม้ (heated tobacco) ที่วางจำหน่ายในตลาดไต้หวันขณะนี้ หากผู้ประกอบการมีการเปลี่ยนส่วนผสมหรือขบวนการผลิต ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น ผู้ประกอบการต้องยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

ใน ร่างแก้ไขกฎหมายป้องกันอันตรายจากบุหรี่ยาสูบ ของไต้หวัน ยังมีข้อห้ามเพิ่มเติม ดังนี้ ห้ามการปรุงแต่งกลิ่นบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นดอกไม้ ช็อกโกแลต ผลไม้ มิ้นต์ และสารต้องห้ามอื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากบุหรี่ที่มีการผสมสารปรุงแต่ง อาจดึงดูดให้เยาวชนอยากรู้อยากลอง และเกิดความเข้าใจผิดว่า เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป และยังแก้ไขอายุเพิ่มเติม ห้ามจำหน่ายบุหรี่แก่เยาวชนที่มีอายุ 20 จากเดิม 18 ปี

เห็นไหมครับ ไต้หวันก็มีกฎหมายห้ามนำเข้าและสูบบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยเช่นกัน

...

นักท่องเที่ยวจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไทยคงไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะต้องศึกษาประเทศที่จะเดินทางไปเที่ยวว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง ล่าสุด ฮ่องกงได้ออกกฎหมายควบคุมกัญชาฉบับใหม่ มีผลตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 กำหนดให้ CBD หรือแคนนาบินอยด์ที่พบในพืชกัญชา เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดย ห้ามผลิต จัดหา นำเข้า ส่งออก ถ่ายโอนขาย และครอบครองผลิตภัณฑ์ CBD โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ CBD บำรุงผิว นํ้ามันผสมผงกาแฟ อาหารเสริม โดยอ้างสรรพคุณว่า ทำให้ผ่อนคลาย ลดอาการอักเสบของผิวหนัง โดยขาดการรับรองจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

ผู้ค้า ผู้ผลิต ผู้ขนย้าย ผลิตภัณฑ์ CBD ข้ามพรมแดนเข้าสู่ฮ่องกงมีโทษปรับตั้งแต่ 5 แสนเหรียญฮ่องกง (ราว 2.1 ล้านบาท) ถึง 5 ล้านเหรียญฮ่องกง (ราว 21.35 ล้านบาท) และโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี จนถึงตลอดชีวิต ส่วน ผู้ครอบครองหรือผู้บริโภค CBD ต้องระวางโทษ ปรับเป็นเงิน 1 ล้านเหรียญฮ่องกง (ราว 4.27 ล้านบาท) และมีโทษจำคุก 7 ปี

ใครที่คิดว่า กัญชาถูกกฎหมายเมืองไทย (ทั้งที่เป็นยาเสพติด) แล้วพกไปฮ่องกง ไม่เพียงถูกปรับ 4-21 ล้านบาท แต่ยังติดคุก 7 ปีขึ้นไป อย่าทำเป็นล้อเล่นไป นักบาสเกตบอลหญิงชื่อดังสหรัฐฯพกนํ้ามันกัญชาเข้ารัสเซีย อ้างว่าเป็นยาช่วยนอนหลับ ก็ถูกจับติดคุกหัวโตมาแล้ว

ประเทศไทยมีกฎหมาย ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า บารากุ บารากุไฟฟ้า มาตั้งแต่ปี 2557 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 เท่าของสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ขายหรือให้บริการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือผู้นำเข้าเพื่อขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ที่นำผ่านด่านศุลกากรทั้งเข้าและออก มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พกบุหรี่ไฟฟ้าผิดเต็มทุกประตู คนรีดไถคนทำผิดโทษจึงยิ่งโทษหนัก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”