นโยบายตัดคะแนนใบขับขี่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนร่วมกับ 4 หน่วยงาน กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์

มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ คะแนนที่ถูกตัดไปอบรมขอคืนได้

หวังลดอุบัติเหตุบนถนน

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ชี้แจงขั้นตอนว่า การตัดคะแนนใบขับขี่ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง

ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 142/1

มีผลบังคับใช้วันแรกวันที่ 9 ม.ค. มีผู้ถูกตัดคะแนนใบขับขี่ จำนวน 540 ราย แบ่งเป็นกลุ่ม 1 คะแนน จำนวน 503 รายการ กลุ่ม 2 คะแนน จำนวน 68 รายการ

กลุ่ม 3 คะแนนและกลุ่ม 4 คะแนน ยังไม่ได้ตัดคะแนน

ตัวเลขจำนวนผู้ที่ถูกตัดคะแนน 540 ราย แต่มีผลรวมคะแนนในกลุ่ม 1 กลุ่ม 2 จำนวนมากกว่า เนื่องจากบางรายทำผิดหลายข้อหาจะถูกตัดคะแนนทุกข้อหา

สำหรับข้อหาที่มีการตัดคะแนนมากที่สุดในวันแรก 3 ลำดับแรก คือ 1.ใช้รถไม่แสดงเครื่องหมายเสียภาษีประจำปี จำนวน 233 รายการ 2.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ จำนวน 81 รายการ 3.ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด จำนวน 63 รายการ

ประชาชนตรวจสอบคะแนนได้ที่ เว็บไซต์ E-Ticket PTM และแอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE)

พล.ต.ต.อาชยน ย้ำว่า การตัดคะแนนใบขับขี่ เป็นหลักการเดิมที่เคยมีอยู่ในกฎหมายจราจรมานานแล้ว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มาปรับปรุงแก้ไข ใส่ความทันสมัย ใช้หลักต่างประเทศมาใช้อ้างอิง

...

ให้สอดคล้องกับสากล

เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายจราจร ปลูกจิตสำนึก สร้างวินัยการขับขี่ของคนในชาติ

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนติดอันดับต้นๆของโลก

การตัดคะแนนใบขับขี่ จะทำให้ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

เป็นหน้างานด้านการจราจร เป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดอยู่บนถนนหลวง

ที่ ผบ.ตร.ทำมาต่อเนื่อง.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th