ปริศนาการตายของ “ดาราสาวแตงโม” จุดชนวน “มโน” ว่อนโลกโซเชียล
ตกเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์นานนับเดือนถึงปริศนาการเสียชีวิตของดาราสาวชื่อดัง แตงโม-นิดา หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างนั่งสปีดโบ๊ต จิบไวน์กับเพื่อนเมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.2565 บริเวณใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม อ.เมืองนนทบุรี
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดม เรือค้นหาตลอดทั้งคืนไร้วี่แวว มี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา ตามมาดูเหตุการณ์ด้วยความเป็นห่วง และหวังจะเกิดปาฏิหาริย์กับดาราสาวคนดัง สุดท้ายเจ้าหน้าที่พบร่างไร้วิญญาณของเธอลอยอืดอยู่กลางลำน้ำเจ้าพระยาห่างจากจุดที่ตกเรือราว 1 กิโลเมตร ในอีก 2 วันต่อมา มีแผลที่ต้นขาขวาเป็นรอยเหมือนถูกของมีคมบาดกลายเป็นคำถามสงสัยไปต่างๆนานา
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่อนโลกโซเชียล มีทั้งนักวิชาการ นักการเมือง ทนายความ เพื่อนดารา และคนดังหลากหลายวงการออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ พร้อมทั้งข้อสันนิษฐานไปในมุมฆาตกรรมอำพราง ส่งผลให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ในขณะนั้น ตั้ง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กับพวกเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ให้เกิดความโปร่งใสชัดเจนไร้ข้อกังขา
...
ผ่านไปหลายเดือนสรุปเรื่องราวยืนยันเป็นอุบัติเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้องบนเรือสปีดโบ๊ต 5 คน ประกอบด้วย นายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์ นายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาทร น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ รวมถึง นายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี กุนซือที่ให้คำแนะนำ
คลี่คลายคดีที่บางคนยังคงเคลือบแคลงไม่หาย.
ร.ล.สุโขทัยอับปาง สูญเสียครั้งใหญ่ราชนาวีไทย
โศกนาฏกรรมส่งท้ายปีเสือดุ เหตุไม่คาดฝัน เรือหลวงสุโขทัย (442) เรือคอร์เวท สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 จมลงกลางอ่าวไทย หลังนำทหารเรือออกเดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงาน “วันอาภากร” เพื่อเทิดพระเกียรติ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดม ศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” องค์พระบิดาทหารเรือไทย เนื่องในวันคล้ายวันประสูติครบ 142 ปี จัดขึ้นบริเวณศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร
ระหว่างลอยลำอยู่ห่างฝั่ง 19 ไมล์ทะเล เขตพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ ช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค. ได้ถูก
คลื่นลมแรงซัดกระหน่ำใส่เรือหลายระลอก กระทั่งเรือเอียงทางกราบซ้าย น้ำเข้าเรือทำให้เครื่องยนต์ดับ เครื่องมือสื่อสารใช้การไม่ได้ จนเรือค่อยๆจมจากด้านท้ายเรือ ผู้บังคับการเรือต้องสั่งสละเรือ
ช่วงเกิดเหตุมีเรือหลวงกระบุรีและเรือขนส่งสินค้าของเอกชนที่แล่นอยู่ใกล้เคียง พยายามเข้าช่วยชีวิตคนบนเรือ แต่เพราะคลื่นลมแรงมาก ไม่สามารถนำเรือเข้าเทียบข้างได้ กำลังพลส่วนหนึ่งอพยพลงแพชูชีพ ส่วนที่เหลือกระโดดลงทะเลไปเสี่ยงตายเอาดาบหน้า ทั้งที่ทหารบางนายไม่มีชูชีพสวมใส่ เนื่องจากจำนวนชูชีพมีไม่เพียงพอกับจำนวนกำลังพล 105 นายที่อยู่ในเรือขณะนั้น
...
ผ่านไปหลายชั่วโมง เรือหลวงสุโขทัยที่โลดแล่นพิทักษ์ท้องทะเลไทยมาร่วม 36 ปี ได้จมลงสู่ก้นทะเลที่ระดับความลึกกว่า 40 เมตร ปิดฉาก 1 ในเรือรบที่ทันสมัยและทรงพลังของกองทัพเรือไทย พร้อมกลืนร่างลูกประดู่ 29 นาย นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ราชนาวีไทย.
ส.ต.ต.ซิ่งชน “หมอกระต่าย” บนทางม้าลาย
เหตุสลดตำรวจซิ่ง จยย.ชนแพทย์หญิงเสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลาย เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายสาม วันที่ 21 ม.ค.2565 ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กก.อารักขา 1 บก.อคฝ. ขี่บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ ชน “หมอกระต่าย” พญ.วรา ลัคน์ สุภวัตรจริยากุล อายุ 33 ปี แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน จักษุวิทยา เสีย ชีวิตขณะเดิน ข้ามทางม้าลายบนถนนพญาไท หน้า รพ.สถาบัน โรคไตภูมิราชนครินทร์ เขตราชเทวี กทม. ส่วน ส.ต.ต.นรวิชญ์บาดเจ็บเล็กน้อย ถูกดำเนินคดี 9 ข้อหา ขณะที่กระแสสังคมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ทางม้าลาย จนสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ต้องมาปรับปรุงทางม้าลายบริเวณดังกล่าวให้เด่นชัดขึ้น และพูดกันถึงการควบคุมความเร็วรถ
...
ต่อมาศาลอาญาพิพากษา จำคุก ส.ต.ต.นรวิชญ์ 1 ปี 15 วัน ไม่รอลงอาญา ฐานขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน นอกจากนี้ยังมีคดีแพ่งที่พ่อแม่ของหมอกระต่ายยื่นฟ้องด้วย.
“ปริญญ์” ข่มขืนอนาจารหญิงกว่าสิบราย
นักการเมืองอนาคตไกล ชาติตระกูลดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นดาวดับทันที หลัง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พาเหยื่อสาวเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ดำเนินคดีข้อหากระทำอนาจาร ข่มขืน ระบุถูกนายปริญญ์หลอกชวนไปกินข้าว อ้างว่าเพื่อคุยงานและสอนเรื่องหุ้นกับเศรษฐศาสตร์ แต่กลับถูกลวนลาม ต่อมานายปริญญ์แถลงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค
...
หลังจากนั้นมีเหยื่ออีกกว่าสิบราย ทั้งนักศึกษายันสาวไฮโซ ทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ โดนกระทำลักษณะแบบเดียวกัน สร้างภาพดูดี ก่อนฉวยโอกาสข่มขืน เหตุเกิดทั้งใน กทม. เชียงใหม่ เพชรบุรี และประเทศอังกฤษ รวมผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 16 คดี ข้อหาอนาจาร อนาจารต่อหน้าธารกำนัล ข่มขืน กระทำชำเรา พรากผู้เยาว์ ตำรวจรับเป็นคดี 13 คดี ที่เหลือขาดอายุความ และอยู่นอกราชอาณาจักร ศาลให้ประกันตัวแบบมีเงื่อนไข และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ.
สังหารหมู่เด็กเล็กหนองบัวลำภู โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ
โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เป็นภาพเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจที่ทุกคนยากจะลืมเลือนกับการสังหารหมู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565 ที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก มีผู้เสียชีวิต 37 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 24 คน
เวลาประมาณ 11.24 น. ของวันเกิดเหตุ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีต ผบ.หมู่ ป.สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู เกิดอาการคลั่งสติแตกบุกเข้าไปยิงเจ้าหน้าที่ อบต.อุทัยสวรรค์ และบุตรชายเสียชีวิตอยู่ที่ทำการ อบต. แล้วเดินเข้าไปในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใช้มีดพร้าฟันหัวเด็กน้อยวัยไร้เดียงสาที่กำลังนอนหลับพักกลางวันตายอย่างสยดสยอง 23 ชีวิต ยิงครูพี่เลี้ยงสาวที่กำลังท้อง 8 เดือนตายอย่างเลือดเย็นอีกราย
หลังจากนั้นเดินทางกลับไปบ้านพัก ระหว่างนั้นยังใช้มีดฟันและยิงชาวบ้านรายทางเสียชีวิตอีกหลายราย ก่อนจ่อขมับดับเมียสาวกับลูกเลี้ยงวัย 5 ขวบและปลิดชีพตัวเองจบเรื่องราวด้วยความตาย สะท้อนบทเรียน “ล้อมคอก” ผลพวงจากอาวุธปืนและยาเสพติดที่หลายฝ่ายออกมาตื่นตัวและตระหนักพิษภัยอันตรายมากขึ้น แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการกวาดล้างปืนเถื่อนทั่วประเทศควบคู่กับมาตรการเข้มข้นในการปราบปรามยานรก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังขอให้มีการลดธงครึ่งเสาตามสถานที่ราชการทั่วราชอาณาจักรเป็นเวลา 1 วัน เป็นกรณีพิเศษเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสีย อีกทั้งกล่าวแสดงความเสียใจ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการสังหารหมู่ร้ายแรงที่ติดอันดับโลก.
ส.ต.ท.หญิงกิ๊ก ส.ว.ซ้อมทารุณทหารรับใช้
ข่าวสลดสุดทารุณกรณี น.ส.บี อดีตทหารหญิงยศ ส.ท. ถูก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือเจ๊นุช อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) อ้างเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ฝากให้เป็นทหารแล้วดึงตัวมาเป็นทหารรับใช้ แล้วทำร้ายข่มขู่ ทั้งใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์จุดไฟเผาศีรษะ ใช้ของแข็งทุบตีบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าผิดรูป ทรมานสารพัดนานกว่า 2 ปี แถมฮุบเงินเดือนหลวงอ้างว่าหักไว้เป็นค่าฝากเข้ารับราชการทหาร สุดท้ายทนไม่ไหวต้องหนีไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่ม-กรรชัย
สื่อมวลชนได้ตามขุดคุ้ยพฤติกรรมโหดและปูมหลังของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาที่ไปของการใช้เส้นสาย ให้ได้รับราชการตำรวจ การมีชื่อไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) โดยที่ไม่ได้ไปช่วยราชการในพื้นที่จริงเลย การฝากผู้เสียหายเข้าเป็นทหาร การได้สิทธิพิเศษเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการของวุฒิสภา และการร่วมคณะเดินทางไปต่างประเทศกับกรรมาธิการ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า มีความสัมพันธ์กับ ส.ว. คนหนึ่งจริง ตั้งแต่ช่วงปี 2555-2562 และติดต่อกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมา นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. ได้ออกเอกสารชี้แจงยอมรับว่ารู้จักสิบตำรวจโทหญิง แต่ขาดการติดต่อนานแล้ว ยืนยันไม่ได้ใช้ตำแหน่งช่วยเหลือให้เข้ารับราชการตำรวจ
ด้านคดีอาญา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยศาลไม่ให้ประกันตัว ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางราชบุรี ขณะที่ ผบก.ส.1 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน.
เพลิงนรกเผาผับ “เมาน์เท่น บี” คร่าชีวิตเหยื่อ 26 ศพ
บทเรียนสอนนักท่องราตรีกับเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ผับ “เมาน์เท่น บี” สถานบันเทิงบนถนนสุขุมวิท ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ส.ค.2565 ย่างสดนักท่องเที่ยวและพนักงานของร้านทันที 13 ศพ ก่อนทยอยเสียชีวิตระหว่างพักรักษาตัวอีก 13 ศพ รวมทั้งหมด 26 ศพ บาดเจ็บราว 50 ราย ถือเป็นภัยพิบัติร้ายแรงเป็นครั้งแรกของสัตหีบ ซ้ำรอยซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย กทม. ในคืนส่งท้ายปี 2551 ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 61 รายและบาดเจ็บมากกว่า 200 ราย
มรณกรรมที่เกิดในผับนรกกลางเมืองสัตหีบเกิดขณะร้านกำลังจะปิดให้บริการพบประกายไฟบนฝ้าเพดานไม่เกิน 5 นาที เกิดเสียงระเบิด ก่อนเปลวไฟจะโหมลุกลามอย่างรวดเร็ว ต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคาที่บุโฟมลมดูดซับเสียง ติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายลมมีเพียงจุดเดียว คือประตูหน้า ส่งผลให้เพลิงไหม้อย่างหนักและรุนแรง นักท่องเที่ยวต่างพากันหนีตายกันอลหม่าน พบผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าประตู 4 ราย ในห้องน้ำชาย 3 คน หลังบูธดีเจ 1 ราย ในแคชเชียร์ 2 ราย หน้าแคชเชียร์ 3 ราย ทั้งหมดถูกไฟคลอกร่างไหม้เกรียมทั้งตัว เป็นคำถามต่อเจ้าของสถานบันเทิงถึงมาตรการควบคุมเด็กและเยาวชนเข้าไปในผับหละหลวม เช่นเดียวกับการคุมเข้มในการรองรับความปลอดภัยที่ไร้มาตรฐาน ภายหลังมีการตรวจสอบยังพบว่า อาคารถูกดัดแปลงต่อเติมให้กลายเป็นอาคารปิดโดยผิดกฎหมาย ประตูเข้าออกบางบานถูกล็อกกุญแจไว้
พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับนายพงศ์ศิริ หรือ เสี่ยบี ปั้นประสงค์ อายุ 28 ปี เจ้าของกิจการผับนรกข้อหาประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต.
ทลายขุมทรัพย์ “ตู้ห่าว” นายทุนธุรกิจสีเทาชาวจีนพัวพันยาเสพติด
เปิดปฏิบัติการล้างเครือข่ายนักธุรกิจสีเทาของกลุ่มนายทุนจากแดนมังกรเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. นำกำลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. บุกเข้าค้นผับเถื่อนร้านจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา พบนักท่องเที่ยวชาวจีนมั่วสุมเสพยาเสพติดนับร้อยคน ก่อนตรวจร้านเบบี้เฟซในท้องที่ สน.คลองตัน ที่พบเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวกัน อีกทั้งยังพัวพันการตายปริศนาจากผลพวงเสพยาเกินขนาดในผับท็อปวัน ท้องที่ สน.สุทธิสารอีกด้วย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มอบหมาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าไปสางคดีกระทั่งพบความเกี่ยวข้องกับ นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ ชาวจีนที่แปลงสัญชาติถือบัตรประชาชนไทยเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด และยังพัวพันอยู่เบื้องหลังออกทุนให้นักการเมืองเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล
ตำรวจได้ขยายผลตรวจค้นแหล่งขุมทรัพย์ของตู้ห่าวกับพวกกว่า 38 จุด ที่เหมาหมู่บ้านหรูทำเป็นรังอาศัยให้สมุน ท่ามกลางทรัพย์สินหลายสิบล้านบาท โยงใยเป็นขบวนการทำธุรกิจสีเทารายใหญ่ระดับประเทศฟอกเงินยาเสพติดจนร่ำรวยมหาศาล รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคน แถม “ตู้ห่าว” ยังเป็นสามีของนายตำรวจหญิงระดับ ผกก.ที่มีศักดิ์เป็นอดีตนายพลตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และมีนายตำรวจหลายคนเข้าไปมีเอี่ยวช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเป็นหางว่าวที่ต้องถูก “เช็กบิล”.