ฟังสองมุม สาวถูกกระชากประตู ทุบรถกลางดึก เชื่ออาจประสงค์ต่อทรัพย์ ขณะที่ผู้ก่อเหตุขอโทษ แสดงตัว อ้างใจร้อน คิดว่าอดีตเมีย มาพาลูกไปกับชายคนใหม่ พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
วันที่ 28 ธ.ค. 65 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" โดย ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ วันนี้เป็นการพูดคุยกับผู้เสียหายในประเด็น ถูกคนร้ายขี่จักรยานยนต์มากระชากประตูรถ และปาหินใส่ ขณะจอดอยู่บริเวณถนนนาคนิวาส กลางเมือง จนได้รับความเสียหาย ซึ่งนับว่าเป็นภัยใกล้ตัว
น.ส.นัฏฐ์ชมนท์ ศิวะศุภาโชค ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ขายของเสร็จก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มกว่า จึงไปกินข้าวบริเวณลาดพร้าว 71 ก่อนที่จะนำเงินไปเข้าธนาคาร บริเวณนาคนิวาส 21 จอดรถอยู่ประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะลงไปฝากเงิน เพื่อตรวจเช็กเงิน เมื่อฝากเสร็จ ก็เดินขึ้นรถ ช่วงนั้นไม่มีใครเลย ระหว่างที่ขึ้นรถมา ก็ยังไม่ได้ออกทันที โดยเพื่อนที่เป็นคนขับกำลังตั้งหน้าจอรถอยู่ ส่วนตนก็นั่งคิดเงินอยู่ สักพักเอะใจเพราะเราเห็นแสงรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ท้ายรถเลย จึงบอกให้คนขับล็อกรถ
สิ้นเสียงปุ๊บ ก็มีผู้ชายเดินมาดึงประตู แต่เมื่อไปดูที่วงจรปิด จะเห็นว่าเขาเดินมาดูที่ประตูหน้าก่อน จากนั้นก็เดินมากระชากประตูหลัง 2 ครั้ง และกลับมาดึงประตูหน้าที่ตนนั่งอีกครั้ง ตนจึงบอกให้คนขับ ขับรถออกไปทันที เนื่องจากคิดว่า สถานการณ์ไม่ปกติแล้ว คนขับเขายังตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงค่อยๆ ขับออกไป จังหวะนั้นคนร้ายใช้ของแข็งทุบเข้าที่กระจกรถ จนแตก ตนก็รีบโทร.หา 191 เจ้าหน้าที่ก็ประสานตำรวจท้องที่ สน.โชคชัย ให้สายตรวจมาที่เกิดเหตุ ส่วนตนรีบขับไปที่ สน.โชคชัย ทันที และติดต่อไปยังเพจสายไหมต้องรอดทันที
ขณะที่ นายเอ เพื่อนอีกคนที่ไปด้วยกัน เผยว่า ตอนที่มาจอด สังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่กับเด็กบริเวณป้ายรถเมล์ ยังนึกว่าออกมาทำไม มันหนาว รถเมล์ก็ไม่มีแล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไร และกลับมาตั้งค่าหน้าจอของรถ เพราะแสงมันแยงตา หลังจากที่เพื่อนขึ้นมา ตนก็บอกให้รอแป๊บ และเมื่อเห็นแสงไฟสาดมาที่รถ เพื่อนก็บอกให้ล็อกรถ เสี้ยววินาทีที่ล็อก ได้ยินเสียงคนกระชากประตูทันที ตนก็หันไปมอง ยังสงสัยว่าอะไรวะ และเห็นเขาจ้องเข้ามาในกระจก ก่อนที่เพื่อนจะบอกให้ขับไปเลย จังหวะที่เหยียบออก ก็ได้ยินเสียงดังที่กระจก แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องกับใครบนถนนมาก่อน เพราะหลังจากขายของเสร็จ ก็มากินข้าว และพาเขามาฝากเงิน ถ้าระหว่างนั้นไปเบียดใคร ก็น่าจะมีเรื่องตั้งแต่ที่ร้านข้าวแล้ว ซึ่งระหว่างที่ไป สน.โชคชัย ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ตามไป
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
...
ทั้งนี้ น.ส.นัฏฐ์ชมนท์ ยืนยันว่า ตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่คาดว่าเขาอาจจะประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะอาจคิดว่าเราไปกดเงิน ซึ่งตอนนี้ก็ค่อนข้างกลัวในการใช้ชีวิต ส่วน นายเอ คาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์สิน โดยหลังจากเกิดเหตุก็ไปหาวงจรปิดมาเอง นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า ผู้หญิงที่ป้ายรถเมล์ อาจจะรู้จักกับผู้ก่อเหตุ อีกทั้งหลังเกิดเหตุ วงจรปิดพบว่าผู้ชายที่ก่อเหตุกับรถเรา พาผู้หญิงและเด็กซ้อนที่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์ซ้อนท้ายกลับไปด้วย ซึ่งเราคุยกันแล้วว่า ทั้ง 3 คนน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน หลังจากแจ้งความเขาก็พยายามโทร. ถามเราหลายครั้งอยู่ ซึ่งเราก็ส่งหลักฐานให้เท่าที่มี
น.ส.นัฏฐ์ชมนท์ บอกว่า หลังจากที่เป็นข่าวขึ้นมา ก็มีคนติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปหามาได้อย่างไร อ้างว่าเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ พร้อมกับขอเบอร์ติดต่อ เพื่อโทร. คุย แต่ตนก็บอกว่าให้ไปเจอที่ สน. ได้เลย ซึ่งเขาอ้างว่า น้องไม่ได้จะปล้น แต่มีปัญหากับที่บ้าน อดีตแฟนของน้องชายมาเอาลูกหนีออกไป แล้วผู้ชายคนใหม่ ขับรถแบบเดียวกับตน จึงคิดว่าเป็นรถของสามีใหม่อดีตภรรยา เนื่องจากเขาโทร.ให้ออกมารับลูก
ต่อมา นายเบียร์ ผู้ก่อเหตุ ได้โฟนอินเข้ามาในรายการ เผยว่า วันนั้นตนกลับมาจากทำงาน แล้วไม่รู้ว่าแฟนเก่า ซึ่งเลิกไปประมาณ 2 ปีแล้วมาที่บ้าน ตนกินข้าวเสร็จก็กำลังจะไปอาบน้ำ แต่มารู้ว่าอดีตแฟนพาลูกชายออกไป จึงไปถามคนข้างบ้านว่าเห็นหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเห็นเดินไปปากซอย ข้างบ้านก็ช่วยโทร.ให้ว่า ให้เอาลูกมาคืน เพราะผมอาละวาด ทางบ้านเองก็โทร.ให้เอาลูกมาคืนเหมือนกัน แฟนเก่าก็โทร.กลับมาหาแม่ว่า ให้ใครก็ได้มาเอาลูกคืน นั่งอยู่หน้าปากซอย ตนก็ขี่รถออกไป แล้วไปเปิดประตูรถ เพราะเข้าใจว่า เป็นผู้ชายคนใหม่ของอดีตแฟนสาว เนื่องจากรถเหมือนกัน เพราะตนไม่เห็นลูกที่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์ ก็กลัวว่าอยู่ในรถ และเขาจะขับหนี
เมื่อถามว่า จังหวะที่มองไปในรถนั้นเห็นหรือไม่ว่า ไม่ใช่อดีตภรรยาตัวเอง นายเบียร์ อ้างว่าจังหวะนั้นเขาปิดไฟในรถแล้ว ทำให้มองไม่เห็น คิดว่าเขาขับหนี จึงทุบรถด้วยมือไป 1 ครั้ง ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจจะออกไปทำร้ายใคร แค่อยากจะไปเอาลูกคืนเท่านั้น ซึ่งทาง น.ส.นัฏฐ์ชมนท์ ยืนยันว่าไม่ได้ปิด
นายเบียร์ อ้างต่อว่า หลังจากที่รถกระบะขับออกไปแล้ว ตนก็ขี่ตามไปสักพัก และวนกลับมา จนเจอลูกและอดีตเมีย ก็พาเข้ามาส่งก่อนที่จะขี่ออกไปอีกครั้ง วนรถอยู่อย่างนั้น และนั่งรอ เผื่อจะเจอคู่กรณีเพื่อจะได้ยืนยันว่า จะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด ซึ่งวันนี้ก็ได้ไปแสดงตัว และดำเนินการที่ สน. เรียบร้อยแล้ว
ด้าน น.ส.นัฏฐ์ชมนท์ บอกว่า ตนไม่เชื่อที่เขาพูด เพราะรถตนจอดอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์เพียงไม่กี่ก้าว จังหวะที่ลงจากรถมา ไม่เห็นลูกเมียเลยหรอ และที่ชะโงกเข้ามาในรถไม่เห็นหน้าตน ที่ไม่ใช่เมียเขาเลยหรอ ซึ่งตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนรถมีประกัน
นายเบียร์ บอกด้วยว่า ตนพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด เพราะทำไปด้วยความโมโห อารมณ์ร้อน และตนก็เดินเข้าไปที่ สน. เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนที่ทางเขาจะยืนยันดำเนินคดี ก็แล้วแต่ทางนั้น ซึ่งหากตนจะปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ คงดึงป้ายทะเบียนออก และคงใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ผมขอโทษ และสำนึกผิดจริงๆ ด้วยความที่เลี้ยงลูกมาคนเดียวตั้งแต่ 1 ขวบ 8 เดือน ทำให้ใจร้อนเรื่องลูก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรับคำขอโทษหรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะได้มีการไปพูดคุยกันที่ สน. ในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) ในเวลา 15.00 น.