นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมกะเทรนด์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรือระหว่างปี 2566-2568 ประกอบด้วย
1.ระบบทุนนิยมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและการเคารพสิทธิมนุษยชน (Inclusive Capitalism/Human Rights)
2.กระแสดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Digital and Energy Transformations)
3.ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป (Sustainability/ Climate Change)
4.อัตราเงินเฟ้อระดับสูงและความมั่นคงทางอาหาร (High Inflation/Food Security)
5.โลกอารมณ์ 2 ขั้วระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา หรือโลกไบโพลาร์ (Bipolar World)
และ 6.สุขภาพและโรคระบาด (Health and Pandemics)
ขณะเดียวกันโลกก็กำลังเคลื่อนตัวจากยุค 4.0 ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งการเข้าถึงข้อมูล (Data) ผ่านการเชื่อมต่อโครงข่ายอินเตอร์เน็ต คลาวด์ การใช้งานแอปพลิเคชัน สู่โลกในยุค 5.0 ซึ่งจะเป็นยุคที่ผู้เข้าสามารถเข้าถึงเทคโน โลยีใหม่ๆ เป็นการเชื่อมโยงมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์
“แนวคิดแบบ 5.0 คือการที่เทคโนโลยีสามารถเข้าใจธุรกิจและนักธุรกิจที่สามารถเข้าใจเทคโนโลยี” นายศุภชัย กล่าวว่า โลกในยุค 5.0 ยังเป็นโลกที่แรงงานจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติหรือ AI ขณะที่ข้อมูลได้กลายเป็นสินทรัพย์ ที่มีความสำคัญและมีค่ามากกว่าเงิน แต่ระบบการศึกษาของไทยยังคงอยู่ที่ยุค 2.0 โดยยังสอนให้คนออกมาทำงานในโรงงาน ทั้งๆที่แรงงานกำลังจะถูกแทนที่ด้วย AI สิ่งที่ต้องทำคือจะต้องพัฒนาคนและสร้างทัศนคติของคน ทำให้คนรุ่นใหม่ มองเห็นทุกแง่มุมของธุรกิจแบบเต็มองค์รวม มีความรู้ที่ถ้วนทั่ว มองเห็นทุกแง่มุมของโลก
“ระบบการศึกษาของไทย ต้องได้รับการปรับปรุง เพื่อจะได้ก้าวตามทันโลก อุตสาหกรรม และธุรกิจปัจจุบัน โดยมองว่าคนรุ่นใหม่น่าจะเรียนจบตั้งแต่อายุ 18 ปี ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้เส้นทางของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ได้ทำอาชีพที่ตัวเองชอบได้เร็วขึ้น”.
...