อีสท์ วอเตอร์ โชว์ความเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี เน้นเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งแรก และแห่งเดียวในอาเซียน พร้อมเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงข่ายท่อส่งน้ำเพิ่มเติมอีกกว่า 4,200 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า เพิ่มศักยภาพการให้บริการสูบส่งน้ำรองรับการเติบโตในพื้นที่ EEC อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยให้บริการน้ำครบวงจรครอบคลุมแบบเบ็ดเสร็จ คาดรองรับความต้องการใช้น้ำทุกรูปแบบของผู้ใช้น้ำได้เต็มที่
นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า อีสท์ วอเตอร์ พร้อมรองรับการเติบโตและขยายตัวของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ที่จะเร่งให้ปริมาณการใช้น้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอีสท์ วอเตอร์ เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างเต็มที่ ด้วยการก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักในครั้งนี้ สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกในอีก 20 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำ เกิดเป็นโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์มากขึ้น โดยเชื่อมโยงแหล่งน้ำสำคัญในภาคตะวันออกเกือบทั้งหมด
ในปัจจุบันอีสท์ วอเตอร์ เดินหน้าให้บริการส่งจ่ายน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC มาอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถรองรับและสนับสนุนโครงการภายใต้การดูแลของ EEC ทั้งการให้บริการน้ำครบวงจรเต็มรูปแบบให้แก่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (EECA) และ การให้บริการผลิตน้ำประปาให้แก่โครงการวังจันทร์ วัลเลย์ (EECI) ซึ่งในอนาคตอีสท์ วอเตอร์จะให้บริการน้ำดิบที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และการให้บริการน้ำครบวงจรเพิ่มขึ้นมากกว่า 37 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งอีสท์ วอเตอร์มีความพร้อมและมีศักยภาพในการบริการอย่างเต็มที่
อีสท์ วอเตอร์ ยังมีแผนเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุนครอบคลุมทุกระยะ เพื่อสร้างเสถียรภาพของแหล่งน้ำดิบ และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อผู้ใช้น้ำ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาและยกระดับการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้น้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้น้ำแต่ละราย ให้บริการธุรกิจน้ำครบวงจรให้แก่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ภาคตะวันออก มีรูปแบบการให้บริการน้ำครบวงจร ได้แก่ น้ำดิบ น้ำประปา น้ำอุตสาหกรรม การบำบัดน้ำเสีย และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เน้นความต้องการของผู้ใช้น้ำเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ อีสท์ วอเตอร์ พร้อมให้บริการน้ำครบวงจรด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำที่ทันสมัย ภายใต้การออกแบบระบบที่เหมาะสมกับผู้ใช้น้ำแต่ละราย
นอกจากนี้ นายเชิดชาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ยูยู ที่เป็นบริษัทย่อยของ อีสท์ วอเตอร์ ที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจน้ำประปา ยูยูมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพและการให้บริการน้ำประปาโดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ตลอดกระบวนการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า
“ยูยู นำเทคโนโลยี NB-IoT ผสานนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้งานตั้งแต่ระบบผลิต ระบบส่งจ่ายน้ำประปา และระบบดูแลลูกค้าภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการน้ำประปาเชิงนิเวศ หรือ UU Smart ECO Water System อาทิ การใช้ระบบการจ่ายสารเคมีและการควบคุมการทำงานของปั๊มน้ำแบบอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานผ่านระบบ SCADA การบริหารจัดการแรงดันในเส้นท่อเพื่อควบคุมน้ำสูญเสียด้วย UU Smart DMA และการให้บริการลูกค้าแบบออนไลน์ผ่านไลน์ @USmartService เป็นต้น” นายเชิดชายกล่าวเสริม ปัจจุบันนอกจากธุรกิจน้ำประปา ยูยู ยังให้บริการในส่วนของการบำบัดน้ำเสีย น้ำรีไซเคิล การผลิตน้ำอุตสาหกรรม โดยมี 14 พื้นที่ให้บริการ มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 500,000 ลบ.ม.ต่อวัน และให้บริการประชาชนรวมมากกว่า 220,000 ครัวเรือน