มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ประกาศรายชื่อดาวมิชลินรักษ์โลก หรือ Michelin Green Star โดยในปีนี้มีเพิ่มขึ้นอีก 2 ดวง รวมเป็น 3 ดวง ประกอบไปด้วยร้าน พรุ (Pru), Haoma และจำปา (Jampa)
ในงานเปิดตัวคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2566 นอกเหนือจากการประกาศร้านที่ได้รับ 1 ดาวมิชลิน และ 2 ดาวมิชลินแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ นั่นคือ การมอบรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารที่มีความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน เลี่ยงการสร้างขยะเหลือใช้ รวมถึงลดการใช้พลาสติกและวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่
ในปีก่อนหน้านี้ พรุ (Pru) ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินจากจังหวัดภูเก็ต เป็นเพียงร้านเดียวเท่านั้นที่สามารถคว้าดาวมิชลินรักษ์โลก แต่ในปีนี้มี 2 ร้านที่คว้ารางวัลนี้ได้ นั่นคือ Haoma ร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นปีแรก และคว้ารางวัล 1 ดาวมิชลิน ไปครองอีกด้วย
...
ร้าน Haoma มีความโดดเด่นตรงที่ เป็นร้านอาหารที่กักเก็บน้ำฝนเอาไว้ตลอดทั้งปี เพื่อใช้สำหรับฟาร์ม Aquaponics และนำไปผ่านระบบกรองน้ำ Nordaq สำหรับเป็นน้ำดื่มของลูกค้า อีกทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางร้าน Haoma ได้ริเริ่มการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ แพะ และวัว สำหรับใช้ทำเมนูที่หมุนเวียน
ทางด้านร้านจำปา (Jampa) เป็นร้านอาหารจากจังหวัดภูเก็ตอีกหนึ่งร้าน ซึ่งได้รับการคัดสรรและเลือกเฟ้นให้อยู่ในมิชลิน ไกด์ เป็นปีแรก โดยร้านจำปา มีหมุดหมายสำคัญตรงที่ การนำเสนออาหารที่อุดมคุณค่า เน้นให้ลูกค้าตระหนักถึงคุณประโยชน์ของอาหารสดใหม่จากท้องถิ่น
การเสิร์ฟของร้านจำปาเป็นอาหารยุโรปร่วมสมัย และทั้งหมดถูกปรุงด้วยสมุนไพรและพืชที่ปลูกด้วยวิธีการออร์แกนิกของทางร้าน ส่วนวัตถุดิบจากทะเลก็เลือกมาจากชาวประมงบนเกาะภูเก็ต
สำหรับร้านที่จะได้รับรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก มีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นร้านอาหารที่อยู่ในคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ไม่ว่าจะได้รับรางวัลมิชลิน เพลท, บิบ กูร์มองด์ หรือดาวมิชลิน โดยรางวัลนี้เปิดตัวเมื่อปี 2563 และมอบรางวัลให้แก่ร้านอาหารในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับประจำปี 2564 ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยประกาศผู้ชนะรางวัลดังกล่าวที่งานประกาศรางวัลดาวมิชลิน คู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2564 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563