กลางปี 2564 ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับ บก.ปอศ. ว่า ติดต่อกู้เงิน ผ่านแอปพลิเคชัน “BeeBaht” และแอปพลิเคชัน “DD Cash” เพราะ เห็นว่ามีการแสดงใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

ดูแล้วน่าเชื่อถือ

เมื่อผู้เสียหายติดต่อไปแล้วถูกหลอกเอาเงินอ้างเป็นค่าธรรมเนียม มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบ.ตร. สั่งให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีการ กระทำผิดจริง รวมถึงใบอนุญาตที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้แอบอ้างเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

พฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะเริ่มจากการส่งข้อความโฆษณาเชิญชวนกู้ยืมเงิน สร้างลิงก์เข้าตามแอปพลิเคชันตามเพจ หรือกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ เมื่อมีผู้หลงเชื่อ หรือประชาชนที่กำลังขาดสภาพคล่องด้านการเงินพบเห็นหรือสนใจติดต่อขอกู้เงิน

กลุ่มคนร้ายจะออกอุบายเรียกเก็บเงินค้ำประกัน ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียมต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่จะขอกู้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปจะไม่ได้รับเงินกู้จากแอปพลิเคชัน

ทำกันเป็นขบวนการ

มีการยักย้ายถ่ายเทเงินเป็นทอดๆ รวมถึงแปรเปลี่ยนเงินที่ได้เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค รถไถนา ทองคำแท่ง โดยซื้อมาจากประเทศไทย ก่อนนำส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา

ตรวจสอบเส้นทางการเงินช่วงแค่ 1 เดือน มีเงินหมุนเวียนเข้าระบบ 400 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพสั่งเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 16 คน เพื่อไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อ

เปิด “ปฏิบัติการทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งข้อความหลอกลวงกู้เงิน” พล.ต.ท.จิรภพ นำทีม พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. ร่วมกับ กองปราบปราม ตำรวจน้ำ ตชด. และ ฉก.ทหารม้าที่ 3 ค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่ จ.เชียงราย ปทุมธานี สมุทรสาคร มุกดาหาร และระยอง ทลายแก๊งข้ามชาติเปิดแอปเงินกู้ออนไลน์เถื่อน

...

จับกุม นายพงศา แสนดี อายุ 25 ปี กับพวก ตามหมายจับศาลอาญา ตรวจยึดของกลางสมุดบัญชี 10 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สมุดบัญชี ธนาคาร 4 เล่ม และบัตร ATM 3 ใบ

แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาในเรือนจำที่เกี่ยวข้องกับคดีอีก 6 ราย ผู้ต้องหาภาคเสธ อ้างว่ามีนายทุนจ้างเปิดบัญชีธนาคารไม่รู้นำไปใช้ทำอะไร ซึ่งอยู่ ระหว่างการสืบสวนขยายผลของตำรวจสอบสวนกลาง

ตัดเครือข่ายแอปเงินกู้หลอกชาวบ้าน.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th