ในแวดวงค้าส่งค้าปลีกของไทยยามนี้ ชื่อของ “ธนิศร์ เจียรวนนท์” กำลังทำให้สปอตไลต์ทุกดวงหันไปหา ในฐานะคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ก้าวขึ้นมานำทัพ “แม็คโครยุคใหม่” สู่การเติบโต ที่มีเป้าหมายสำคัญคือการเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย ในตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโครประเทศไทย”
ธนิศร์ เป็นบุตรชายคนโตของ “สุภกิต-มาริษา เจียรวนนท์” จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จากนั้นไปทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ให้กับ ธนาคาร UBS AG ในฮ่องกง 2 ปีครึ่ง และกลับมาทำงานในแผนกต่างประเทศ ดูแลด้านการขยายสาขาให้แม็คโคร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และได้รับโจทย์ที่ท้าทายอย่างการขยายสาขาสู่ประเทศที่การทำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างอินเดีย
จุดเริ่มต้นกับ “โจทย์สุดหิน”
ภารกิจของเขาในขณะนั้น คือการศึกษาความเป็นไปได้ของการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย ซึ่งเขาทุ่มเทสุดกำลังในการสร้างความเข้าใจ “ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก” เซ็กเมนต์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายในทุกย่างก้าว โดยเรียนรู้จาก “ทีมผู้เชี่ยวชาญ” ของแม็คโครที่เป็น “มือเก๋าในวงการ” คอยให้คำแนะนำ โดย “ธนิศร์” ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ LOTS Wholesale Solution และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จ ขยายได้ถึง 3 สาขาในอินเดีย
“ตอนไปทำที่อินเดีย ผมอายุประมาณ 27 ปี ต้องบอกว่า ตลาดนี้มีความท้าทายมาก เพราะฝั่งที่เป็นการค้าปลีกแบบดั้งเดิมมีถึง 91% และฝั่งที่เป็นการค้าสมัยใหม่มีสัดส่วนเพียง 9% เป็นตลาดที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เวลาศึกษา ทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องทำให้พนักงานของเราไม่คิดว่าตลาดอินเดียยาก หรือจะทำแต่สิ่งเดิมๆ ที่เคยทำ เราต้องผลักดันให้พนักงานกล้าที่จะก้าวออกมาจากกรอบเดิมๆ ดังนั้น การทำธุรกิจที่อินเดียจึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่อง คน ที่จะทำอย่างไรให้เขาเชื่อว่า เขาชนะคู่แข่งได้”
ธนิศร์เล่าถึง ภารกิจแห่งความท้าทายในตลาดค้าส่งในประเทศที่ถือว่า “หิน” ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งตลอด 4 ปีในแดนภารตะ เขาทำงานอย่างหนัก สร้างบทพิสูจน์ในฐานะผู้นำองค์กร และสร้างผลงานทางธุรกิจได้ดี จนได้รับการเลื่อนขั้น กลับมารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโครประเทศไทย ในปีนี้
One Team กับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
โจทย์หิน ของ “ธนิศร์” ไม่หยุดแค่อินเดีย หลังกลับมาประจำที่แม็คโคร สำนักงานใหญ่ ประเทศไทย เขาได้รับหน้าที่ในแผนกพัฒนาธุรกิจค้าปลีก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “บัดดี้มาร์ท” รูปแบบธุรกิจทางเลือกของโชห่วย ที่เขาร่วมเป็นหนึ่งในทีมปลุกปั้น ในช่วงแรกๆ เขาถึงขนาดลงพื้นที่ไปช่วยจัดร้านค้า ขนของ ลงแรงด้วยตัวเองเคียงข้างทีมงานทุกคน เพื่อต้องการเข้าถึงใจของผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตรสำคัญ
และเมื่อภาระหน้าที่ขยับก้าวไปสู่ความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้น ในฐานะ ซีอีโอของ หน่วยธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย “ธนิศร์” ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อลงสนามแข่งขันในธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ที่ตลาดในเมืองไทยกำลังเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด
“สำหรับแม็คโคร เราอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 33 ปีในประเทศไทย ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยน ก้าวเข้าสู่ S- Curve ใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบบ Omni Channel เรามี Makroclick และ maknet แพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งต้องมีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ในการตอบโจทย์กระบวนการซื้อสินค้าตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนส่งถึงมือลูกค้า (End to end) นอกจากนี้ก็ต้องต่อยอดจุดแข็งในด้านการเป็นผู้นำอาหารสด ศูนย์รวมสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ ที่แม็คโครมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีมายาวนาน บางรายเริ่มต้นมากับเรา จากการเป็น SME จนเติบโตเป็นบริษัทใหญ่”
ภารกิจของเขาไม่ง่าย แต่ “ธนิศร์” มองว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ จากความร่วมมือของพนักงานทุกคน ทุกแผนก ทุกสาขา โดยทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ภายใต้ One Team One Makro
คิดนอกกรอบ ต่อยอดจากปัจจุบัน
“ตั้งแต่เรียนจบ ผมต้องทำงานที่มีความรับผิดชอบสูง แต่ผมก็จะแบ่งเวลาระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตให้สมดุล ด้วยการทำงานผมต้องตื่นเช้า เลิกงานค่อนข้างดึก แต่ก็พยายามหาเวลาออกกำลังกาย ฟังดนตรีแนวร่วมสมัย เพลงคันทรี่ ที่ช่วยผ่อนคลายในเวลาเครียดกับงาน หลายครั้งก็คิดงานได้ ขณะฟังเพลง (หัวเราะ)”
“ผมมักชอบตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ทำงานได้ดีพอหรือยัง? สำเร็จดีพอหรือยัง? การตั้งคำถามเหล่านี้ เหมือนเป็นการกดดันตัวเอง แต่ก็ช่วยทำให้ผมคิดนอกกรอบและต่อยอดจากปัจจุบันได้”
ทุกวันนี้ “ธนิศร์” ยังขยันตั้งคำถามกับตัวเอง เพื่อวิเคราะห์ ตกผลึก และกระโจนออกจากกรอบความคิดเดิมๆ แก้โจทย์อันสุดแสนท้าทายใหม่ๆ โดยไม่เคยละทิ้งการทำงานแบบทุ่มเทเกินร้อย ลงพื้นที่ทุกสาขา พร้อมเปิดรับการเรียนรู้จากผู้มากประสบการณ์อย่าง ผู้บริหารรุ่นเก่าที่เต็มไปด้วยเทคนิคและองค์ความรู้นอกตำรา
นับเป็นจังหวะก้าวสำคัญของแม็คโคร ที่มีการผสมผสานความเชี่ยวชาญจากผู้มากประสบการณ์ กับพลังของคนรุ่นใหม่ ซึ่ง “ธนิศร์ เจียรวนนท์” กำลังนำพาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของไทยรายนี้ ก้าวสู่ผู้นำในภูมิภาค ด้วยแนวคิด One Team One Makro