ช่วงเวลาที่ราชวงศ์ฉินยังไม่เป็นปึกแผ่น “เฉินเซิ่ง” หนุ่มลูกชาวนา คุยกับเพื่อน เมื่อเติบใหญ่ได้ดี เราไม่ควรทิ้งกัน เพื่อนๆหัวเราะทัก เราก็แค่ลูกชาวนา...เฉินเซิ่งรำพึงว่า “นกกระจอกพวกเจ้า ไหนจะเข้าใจอุดมการณ์หงส์”

วิถีของหงส์เฉินเซิ่ง เริ่มด้วยการเลือกเข้าเป็นทหารราชวงศ์ฉิน ตำแหน่งหัวหน้าค่าย คุมพล 900

เดือน 7...210 ปีก่อน ค.ศ. เฉินเอ้อซื่อขึ้นครองบัลลังก์ เฉินเซิ่งรับคำสั่งนำทหารไปรบกับพวกซงหนู

เดินทางถึงหมู่บ้านต้าเจ๋อ เมืองเซ่อโจว ก็เจอฝนตกหนัก น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตัดเส้นทางขาด เฉินเซิ่งรอหลายวันไม่มีเค้าฝนจะหยุด

สถานการณ์ชัด เขาคงนำทหารไปไม่ถึงตามคำสั่งราชสำนัก ซึ่งโทษมีสถานเดียว...คือประหาร

เฉินเซิ่งกระซิบอู๋กว่างรองหัวหน้าค่าย การเมืองราชสำนัก เฉินเอ้อซื่อ ไม่ใช่โอรสองค์ใหญ่ ไม่มีสิทธิ์นั่งบัลลังก์

เขาอ้างเรื่องที่ไม่เป็นจริง...ฝูซูโอรสองค์ใหญ่ควรได้บัลลังก์แต่ถูกเฉินเอ้อซื่อฆ่า แล้วชักชวนเชิดชูฝูซู นำทหาร 900 ไปเข้าร่วมกับเยียนซิ่ง แม่ทัพใหญ่แคว้นฉู่ ที่กำลังสู้อยู่กับแคว้นฉิน

อู๋กว่างเอาด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ทหาร...จะฟังคำสั่งแค่ไหน

เฉินเซิ่ง เดินหน้าเอาหมึกแดงเขียนคำ (เฉินเซิ่งหวัง) ลงในผ้าแพร ยัดใส่ท้องปลาให้คนทำเป็นไปซื้อได้จากตลาด คำ “เฉินเซิ่งหวัง” (อ๋องเฉินเซิ่ง) ก็เล่าลือกันปากต่อปาก

ขณะผู้คนกำลังวิจารณ์ข่าวเฉินเซิ่ง ก็ใช้คนเข้าไปซ่อนในป่า...ส่งเสียงหอนดังกังวาน เมื่อเข้าหูชาวบ้านมีคนแปลเสียงหมาหอนว่า “ฟื้นฟูฉู่ เฉินเซิ่งหวัง”

ข่าวลือแพร่สะพัดจากบ้านมาถึงค่ายทหาร

แล้วก็ถึงแผนสุดท้ายซื้อใจทหาร...เฉินเซิ่งมอมเหล้านายทหารตรวจการณ์ตัวแทนราชสำนัก ยุให้โบยอู๋กว่าง รองหัวหน้าค่าย แล้ว ก็โยนดาบให้อู๋กว่างฆ่านายทหารตรวจการณ์

...

ขณะที่ทหาร 900 ตื่นตะลึง เฉินเซิ่งก็ขึ้นประกาศเราเดินทางไปไม่ทันกำหนดโทษถึงตายทหาร 900 คนยังลังเล เฉินเซิ่งประกาศเสียงดัง

“บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลาย เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือ?” ปลุกระดมให้ทหารพร้อมใจต่อต้านราชสำนักฉิน

สิ้นเสียงคำประกาศนี้ ประวัติศาสตร์จีนจึงต้องจารึกว่า

“การลุกขึ้นสู้ที่ต๋าเจ๋อเซียง” ซึ่งก็คือ การปฏิวัติครั้งแรกของชาวนา ก็ปะทุขึ้น ลุกลามแพร่หลายไปไกล กลายเป็นต้นแบบการปฏิวัติอีกหลายๆครั้งของชาวนาในแผ่นดินจีน

ทำเนียบประวัติเฉินเซิ่ง จึงต้องเขียน...สถานภาพ ชาวนา หวัง (อ๋อง)

เฉินเซิ่งสู้กับรัฐบาล สถาปนาตัวเองจากชาวนาเป็นอ๋อง เขาสามารถทำให้คำพูดที่เคยดูเหมือนเลื่อนลอย ที่รำพึงไว้กับเพื่อนๆ “นกกระจอกหรือ จะรู้ใจหงส์” เป็นจริงได้ในเวลายี่สิบกว่าปีต่อมา

เคล็ดวิชา...ปล่อยข่าวลือ...เขียนชื่อตัวเองลงในผ้าแพรยัดใส่ท้องปลา...แถมด้วยวิชา แปลงเสียงหมาหอน เป็นเสียงอุดมการณ์ทางการเมือง...ก็ยังถูกนักการเมืองรุ่นต่อๆมาลอกแบบไปใช้

หลายคนรบชนะ ก็ถูกเรียก “เจ้า” แต่หลายคนที่แพ้ก็ถูกเรียก “กบฏ”

และที่สำคัญที่สุด ประโยคปลุกใจทหารการเป็นผู้มีอำนาจไม่ใช่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งพูดกันตั้งแต่กว่าสองพันปีที่แล้ว ก็ยังมีคนพูดกันอยู่ถึงวันนี้.

กิเลน ประลองเชิง