“สมศักดิ์” แจงกรณีโซเชียลถล่ม ช่วยลูกหนี้ กยศ. ไม่เหมาะสม ยัน ไม่เลือกปฏิบัติ หากเข้าเกณฑ์พร้อมช่วยหมด บอกเข้าใจหัวอกคนเป็นหนี้ ไม่เสียกำลังใจ เดินหน้าแก้หนี้ต่อ
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตเรื่องการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ในงานมหกรรมการไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน เคสชายที่ไม่จ่ายชำระยอดหนี้ 3 แสนกว่าบาท จนถูกศาลสั่งยึดทรัพย์คอนโดฯ มูลค่า 3 ล้านบาท ว่าไม่ควรได้รับการช่วยเหลือนั้น ว่า
ผู้กู้ กยศ. รายดังกล่าว มีหนี้รวม 371,497 บาท แบ่งเป็น เงินต้น 244,096 บาท ดอกเบี้ย 26,817 บาท และเบี้ยปรับ 100,584 บาท เนื่องจากมีการขาดส่งจึงถูกสั่งยึดทรัพย์เป็นคอนโดฯ มูลค่า 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 65
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อผู้กู้ กยศ.รายนี้ถูกยึดทรัพย์ จึงมาเข้าร่วมงานไกล่เกลี่ยหนี้ โดยเคสนี้เข้าเงื่อนไขการปิดบัญชีเพื่อลดเบี้ยปรับ 100% ทำให้ได้รับส่วนลดตรงนี้ประมาณ 1 แสนบาท หนี้จึงลดลงมาเหลือ 270,913 บาท แต่มีเงื่อนไขว่า การปิดบัญชีต้องจ่ายทีเดียว ก่อนวันที่ 27 ธ.ค. 65 ถึงจะถอนการยึดทรัพย์ ซึ่งกรณีลดเบี้ยปรับ 100% เป็นเกณฑ์ที่ กยศ.วางไว้เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้เข้ามาปิดบัญชีจะได้เอาเงินมาหมุนเวียนให้รุ่นน้องต่อไป
โดยกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ลดเงินต้นให้ และไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เพราะการไกล่เกลี่ยหนี้ขณะนี้จัดทั่วประเทศไปแล้ว 72 ครั้ง ช่วยไกล่เกลี่ยสำเร็จถึง 57,531 ราย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่า กระทรวงยุติธรรม ทำงานอย่างหนักในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ ทั้งก่อนถูกฟ้อง และหลังถูกฟ้องเป็นจำนวนมาก เพราะตนตั้งใจเข้ามาช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ย หลังประชาชนบางส่วนขาดรายได้ หรือตกงานจากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งเราให้ความช่วยเหลือทุกกรณีที่เข้าเกณฑ์ โดยจากการจัดงานมาทั่วประเทศมีเพียง 4-5% เท่านั้นที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งตนเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนที่ต้องอมทุกข์มาเป็นเวลานานจากการเป็นหนี้ และไม่มีทางออก เพราะบุคคลเหล่านั้นจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เลย จึงเข้ามาขับเคลื่อนโครงการนี้
...
“หลายเคสผมได้เป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง มีทั้งเป็นผู้ตกงาน ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ หรือเป็นผู้ค้ำประกันซื้อรถยนต์ เงินกู้ จนได้รับความเดือดร้อนถูกยึดทรัพย์ ผมก็เจรจาจนได้ทรัพย์คืนเช่นกัน ซึ่งโครงการนี้เราได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินกว่า 10 แห่ง มาช่วยแบ่งเบาความเดือดร้อนให้ประชาชน เพราะบางคนวิกฤติทางตันถึงขั้นจะถูกยึดบ้าน ไม่มีที่อาศัย ผมก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือบางเคส อาจจะขัดความรู้สึกของประชาชนบางส่วน แต่ตนยืนยันว่า ในฐานะรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ที่เสมือนเป็นการให้โอกาสเขาได้แก้ตัวใหม่ เพราะเขาเองก็ได้รับบทเรียนราคาแพงแล้ว ด้วยการถูกดำเนินคดีจนกลายเป็นบุคคลเครดิตไม่ดี ก็จะส่งผลถึงการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ซึ่งเป็นการให้โอกาส ไม่ใช่เป็นการสนับสนุนคนทำผิด
ส่วนผู้ที่ชำระหนี้ กยศ.ไม่ผิดนัด ตนก็ขอชื่นชม ซึ่งเงินส่วนนี้ก็จะกลับไปสู่รุ่นน้องต่อไป เป็นสิ่งที่ทำถูกต้อง โดยหากผู้ส่งตรงตลอด เข้าร่วมไกล่เกลี่ย ก็จะมีส่วนลดให้สำหรับผู้ที่จะปิดบัญชี หรือเข้าปรับโครงสร้างหนี้ได้ รวมถึงตนได้พูดคุยกับบางธนาคารอย่าง ออมสิน ก็เตรียมออกแพ็กเกจช่วยเหลือลูกหนี้ดีเช่นกัน.